เวียดนามเผยยอดการส่งออกผักและผลไม้ ลดลงเล็กน้อย

จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่ามูลค่าการส่งออกผักและผลไม้ของเวียดนามลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ด้วยมูลค่า 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน ปี 2562 โดยยอดการส่งออกลดลงดังกล่าว เป็นผลมาจากยอดขายของแก้วมังกรลดลงร้อยละ 9 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 31 ของมูลค่าการส่งออกผลไม้รวม, ทุเรียน (ลดลง 17.4%), มะพร้าว (ลดลง 35%), ลำไย (ลดลง 56%) และแตงโม (ลดลง 26.4%) เป็นต้น ทั้งนี้ สำนักงานผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและพัฒนาตลาด ระบุว่าการส่งออกไปยังจีนลดลงอย่างมาก ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ร้อยละ 66.8 ของมูลค่าการส่งออกผักและผลไม้รวม ทางด้านยอดการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้นั้น ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น แต่ว่ายังไม่เพียงพอที่จะชดเชยการลดลงของตลาดจีนได้

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/fruit-vegetables-exports-see-slight-decrease-407397.vov

Hoa Phat Steel Pipe ส่งออกท่อเหล็กพุ่งสูงขึ้น 22.3% ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 62

บริษัทฮว่า ฟ้าด กรุ๊ป (Hoa Phat Group) ได้แตกธุรกิจท่อเหล็กเป็นบริษัทฮว่า ฟ้าด สตีลไพพ์ จำกัด ระบุว่าปริมาณการส่งออกท่อเหล็กอยู่ที่ 17,000 ตัน ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2562 เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ อเมริกาเหนือ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย และละตินอเมริกา เป็นต้น ซึ่งในเดือนพฤศจิกายน บริษัทฯได้จำหน่ายท่อเหล็กกว่า 72,500 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.6 เมื่อเทียบกับปีก่อน ทำให้บริษัทฯนั้นเป็นซัพพลายเออร์ผลิตท่อเหล็กรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม และมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ร้อยละ 31 ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดการขายท่อเหล็กอยู่ที่ 750,000 ตัน ในตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ ภายในปี 2562 และมีอัตราการเติบโตร้อยละ 10 ในปี 2563

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/hoa-phats-steel-pipe-export-surges-223-pct-in-11-months-407398.vov

‘กรุงฮานอย’ เป็นเมืองที่ดึงดูดเงินลงทุนจากต่างชาติมากที่สุด ในช่วง 11 เดือนแรกปี 62

จากข้อมูลของกระทรวงการวางแผนและการลงทุนเวียดนาม เปิดเผยว่าฮานอยยังคงเป็นเมืองที่ดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศมากที่สุดในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2562 ด้วยมูลค่า 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ของการลงทุนจากต่างชาติรวม โดยตัวเลขดังกล่าว มีมูลค่าสูงกว่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้วอยู่ที่ 6.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ เหตุผลที่นักลงทุนต่างชาติถึงเลือกเข้ามาลงทุนในฮานอย เนื่องมาจากโครงสร้างพื้นฐานที่ดี ความพร้อมของเขตอุตสาหกรรม และการขนส่งที่สะดวก ทำให้กรุงฮานอยเป็นหนึ่งในเมืองหลวงศูนย์กลางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม การค้าและบริการ รวมไปถึงการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของประชากร ทั้งนี้ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ เป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม โดยในปีนี้ มีมูลค่าการลงทุนจากต่างชาติอยู่ที่ 7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าจะมีมูลค่าสูงเพิ่มขึ้นถึง 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/569661/ha-noi-attracts-highest-fdi-in-11-months.html#PcSlgw4fY54QgWt6.97

การลงทุนจากต่างประเทศพุ่งสูงขึ้น ในอุตสาหกรรมไม้แปรรูปเวียดนาม

จากรายงานของสมาคมไม้แปรรูป และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากไม้เวียดนาม เปิดเผยว่าโครงการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ยังคงเป็นส่วนสำคัญในการเติบโตของอุตสาหกรรมไม้แปรรูปของเวียดนาม โดยในปีที่แล้ว มีผู้ประกอบการต่างชาติกว่า 529 ราย ที่มีมูลค่าการส่งออกราว 3.96 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 46.7 ของการส่งออกทั้งอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ในปัจจุบัน ยังมีบริษัทต่างชาติอื่นๆ อีกมากที่ให้บริการจัดเตรียมวัตถุดิบ เพื่อป้อนเข้าสู่บริษัทแปรรูปไม้และให้บริการด้านการขนส่งอีกด้วย ประกอบกับค่าจ้างแรงงานถูก การเข้าถึงวัตถุดิบได้ง่าย ความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน และอัตราภาษี เป็นต้น เนื่องมาจากข้อตกลงการค้าเสรี ส่งผลให้อุตสาหกรรมดังกล่าวดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ ทั้งนี้ สงครามการค้าสหรัฐฯและจีน จะสร้างโอกาสใหม่ของนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาทำธุรกิจในอุตสาหกรรมไม้แปรรูปของเวียดนาม

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/569605/foreign-investment-increases-in-wood-processing-industry.html#d7SY8bmUk5U1KudL.97

สปป.ลาว – เวียดนามส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี

สปป.ลาวและเวียดนามได้หารือเกี่ยวกับแผนการความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว มีวัตถุประสงค์เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้นและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรมและท่องเที่ยว ต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยวเวียดนาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และท่องเที่ยวสปป.ลาว กล่าวว่าทั้งสองประเทศมุ่งเน้นที่การแลกเปลี่ยนบทเรียนและข้อมูลในด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ได้ขอให้เวียดนามให้ความช่วยเหลือป่าสงวนแห่งชาติหินหนามหน่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก รวมทั้งการฝึกอบรมในเวียดนามเพื่อยกระดับทักษะของเจ้าหน้าที่สปป.ลาว เพิ่มการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว เรียนรู้บทเรียนโดยใช้เทคโนโลยีและการสื่อสารล่าสุดและความร่วมมือในโครงการก่อสร้างโรงเรียนศิลปะแห่งชาติ ที่ผ่านมาทั้งสองประเทศยังได้แลกเปลี่ยนบทเรียนในด้านต่างๆ อีกทั้งได้มีการวางแผนที่จะทำโปรโมชั่นการท่องเที่ยวร่วมกัน ปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองและตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานแหล่งท่องเที่ยวเพื่อต้อนรับผู้มาเยือน ที่มา:http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos_Vietnam_265.php

การประชุมความร่วมมือทางการค้าระหว่างเวียดนาม กัมพูชา

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ณ กรุงพนมเปญ กัมพูชา สำหรับการประชุมส่งเสริมทางการค้า ร่วมหารือแสดงวิสัยทัศน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพการค้า และการปกป้องผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของผู้ประกอบการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างผู้ประกอบการเวียดนามกับกัมพูชาให้มีมากยิ่งขึ้น ประกอบกับประเด็นที่น่าสนใจภายในกิจกรรมครั้งนี้ ได้แก่ โอกาสทางการดำเนินธุรกิจ สภาพแวดล้อมทั้งด้านการค้าและการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เงื่อนไขการเข้าร่วมเขตเศรษฐกิจพิเศษในกัมพูชา ทั้งนี้ จากตัวเลขสถิติทางการค้า ระบุว่าในปีที่แล้ว เวียดนามและกัมพูชา มียอดการค้าอยู่ที่ 4.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 และในปัจจุบัน เวียดนามมีโครงการลงทุนในกัมพูชา 214 โครงการ ด้วยมูลค่ากว่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะเดียวกัน กัมพูชามีโครงการลงทุนในเวียดนาม 21 โครงการ ด้วยมูลค่ากว่า 64 ล้านเหรียญสหรัฐ และอยู่ในอันดับที่ 54 ของต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในเวียดนาม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam–cambodia-business-cooperation-forum-to-boost-trade/164998.vnp

กว่างนิงห์ เร่งพัฒนาการท่องเที่ยวเขิงธุรกิจ MICE

MICE เป็นโมเดลธุรกิจการท่องเที่ยวที่ผสมผสานการเดินทางเพื่อธุรกิจ การจัดประชุม และการแสดงสินค้าหรือผลงานเข้าด้วยกัน โดยโมเดลดังกล่าวได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งในจังหวัดกว่างนิงห์ (Quang Ninh) ได้นำโมเดล MICE มาติดตามแนวโน้มการท่องเที่ยวทั่วโลก และเตรียมยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง เพื่อขยายสิ่งอำนวยด้านการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ จังหวัดกว่างนิงห์ได้ดำเนินการสร้างแบรนด์การท่องเที่ยวธุรกิจ MICE ให้มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 35 และกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น ขณะนี้ ในปัจจุบัน มีห้องพักมากกว่า 20,000 ห้อง รวมไปถึงจำนวนโรงแรม 214 แห่ง และมีสถานที่สำคัญการท่องเที่ยวอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ทางผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการท่องเที่ยวและวิทยาศาสตร์ ระบุว่านักท่องเที่ยวกลุ่ม MICE จะมีความต้องการสูงขึ้นในด้านการบริการและมาตรฐานด้านการท่องเที่ยว และในอนาคตข้างหน้า ต้องมุ่งเน้นไปที่กลุ่มคนในประเทศ สำหรับธุรกิจรูปแบบ MICE

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/quang-ninh-speeds-up-mice-tourism-development-407280.vov