เวียดนามเผยภาคเกษตรกรรมเกินดุลการค้า 8.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วง 11 เดือน
จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่าภาคเกษตรกรรมเวียดนามมียอดเกินดุลการค้าอยู่ที่ 8.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ นับว่าสูงกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว คิดเป็นมูลค่า 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสินค้าส่งออกสำคัญมีอยู่ 7 รายการ ที่มีมูลค่ามากกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ได้แก่ กาแฟ ยางพารา ข้าว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผลไม้ กุ้ง ไม้และไม้แปรรูป เป็นต้น ประเทศจีนยังคงเป็นผู้นำสินค้าเกษตรรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 26.9 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด รองลงมาสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป อาเซียน และญี่ปุ่น ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม สินค้าส่งออกสำคัญบางรายการที่ได้รับผลกระทบในทิศทางลบ ได้แก่ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผลไม้ ข้าว กาแฟ และพริกไทย เป็นต้น นอกจากนี้ จากตัวเลขสถิติการส่งออกสินค้าเกษตรเวียดนาม แสดงให้เห็นว่าในปีที่แล้ว เวียดนามสามารถทำสถิติการส่งออกสินค้าเกษตรพุ่งสูงขึ้น 40.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ และเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรรายใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เวียดนามเข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่จัดขึ้นในประเทศออสเตรเลีย
งานแสดงส่งเสริมสินค้าเวียดนามในนครเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย นับว่าเป็นงานแสดงสินค้าครั้งแรก ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยรองนายกรัฐมนตรีเวียดนาม กล่าวเปิดงานการส่งเสริมความร่วมมือทางด้านยุทธศาสตร์ระหว่างเวียดนาม-ออสเตรเลีย ในด้านความร่วมมือโอกาสเศรษฐกิจใหม่ ทั้งนี้ รองประธานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ ระบุว่างานแสดงส่งเสริมสินค้าดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการทั้ง 2 ประเทศ ได้ร่วมมือและเชื่อมโยงให้เป็นคู่ค้าที่สำคัญ นอกจากนี้ จากตัวเลขสถิติการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่ามูลค่าการค้าระหว่างเมืองนครโฮจิมินห์กับออสเตรเลีย อยู่ที่ 979 ล้านเหรียญสหรัฐ จำแนกออกเป็นมูลค่าการส่งออกไปยังออสเตรเลียอยู่ที่ 578.5 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ คอมพิวเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ เครื่องนุ่งห่ม รองเท้า และเครื่องจักร เป็นต้น
ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/event-promoting-vietnamese-goods-held-in-australia/164485.vnp
ผู้ประกอบการเวียดนามลงทุนไปยังต่างประเทศ 460 ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้
จากรายงานของหน่วยงานที่ดูแลการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ในสังกัดกระทรวงวางแผนและการลงทุน (MPI) เปิดเผยว่าบริษัทเวียดนามลงทุนไปยังต่างประเทศ ด้วยมูลค่า 460 ล้านเหรียญสหรัฐ และโครงการรวมทั้งสิ้น 177 โครงการ ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งการลงทุนส่วนใหญ่จะอยู่ในภาคการค้าปลีก-ค้าส่ง คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 26 ของทั้งหมด รองลงมาภาคการเกษตร ป่าไม้ประมง และวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ตามลำดับ ทั้งนี้ บริษัทเวียดนามได้ลงทุนไปกว่า 31 ประเทศทั่วโลก เวียดนามได้ลงทุนไปยังประเทศออสเตรเลีย ด้วยมูลค่า 141.3 ล้านเหรียญสหรัฐ มากกว่า 1 ใน 3 ของการลงทุนรวมไปยังต่างประเทศของเวียดนาม รองลงมาสหรัฐอเมริกา ส่วนจุดหมายหมายอื่นๆในการลงทุนของเวียดนาม ได้แก่ ประเทศสเปน กัมพูชา สิงคโปร์ และแคนาดา เป็นต้น
‘ท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่าย’ ขยายรองรับผู้โดยสาร 100 ล้านคนต่อปี
ท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่าย หรือเรียกอีกชื่อว่า “สนามบินฮานอย” จะขยายรองรับผู้โดยสาร 100 ล้านคนต่อปี เพื่อให้มีการพัฒนาพื้นที่รอบสนามบินฮานอยอย่างเหมาะสม และช่วยลดผลกระทบต่อการวางแผนโครงการ โดยรองนายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมประชุมกับกระทรวงและหน่วยงานท้องถิ่น ในการหารือเกี่ยวกับวิธีการดำเนินงานและวางแผนของสนามบินนานาชาติดังกล่าว ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมและการบินพลเรือนเวียดนาม (CAAV) ร่วมมือกับบริษัท ADPi ที่เป็นบริษัทให้คำปรึกษาด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมสนามบิน ทั้งนี้ การวางแผนจะรองรับผู้โดยสารมากขึ้นนั้น เพื่อต้องการลดการขยายพื้นที่น้อยที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พื้นที่อยู่อาศัย เพื่อให้โครงการได้สภาพแวดล้อมอย่างเหมาะสม ตลอดจนลดค่าใช้จ่ายการลงทุน ทั้งนี้ ในปี 2561 สนามบินรองรับผู้โดยสารประมาณ 25.9 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าที่ตั้งไว้ด้วยจำนวนผู้โดยสาร 13.1 ล้านคน
เวียดนามเผยยอดส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้เกินกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงเดือนตุลาคม
จากข้อมูลของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าเวียดนามส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้มากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงเดือนตุลาคมของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยรองประธานสมาคมหัตถกรรมและแปรรูปไม้นครโฮจิมินห์ (Hawa) ระบุว่าเป็นครั้งแรกที่มีมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้ที่สูงกว่ามาตรฐานที่ตั้งไว้ ประกอบกับรัฐบาลได้ป้องกันการทุจริตว่าด้วยเวียดนามส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ ดังนั้น ตลาดส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ไม้คาดว่าจะสดใส ในช่วงเดือนสุดท้ายของปีนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการไม้แปรรูปยังคงต้องตื่นตัวต่อปัญหาการทุจริตในการส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้และไม้แปรรูป เพื่อรักษาตลาดสำคัญ ได้แก่ สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และจีน ทั้งนี้ ในปี 2561 การส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ไม้เวียดนาม คิดเป็นมูลค่าราว 9 พันล้านเหรียญสหรัฐ
การรวมกลุ่มกว่า 100 บริษัทจากทั้งกัมพูชาและเวียดนาม
บริษัท จากกัมพูชาและเวียดนามกว่า 100 รายเริ่มสร้างเครือข่ายทางธุรกิจครั้งแรกจัดขึ้นโดยชมรมธุรกิจเวียดนามแห่งกัมพูชา (VBCC) ซึ่งงานนี้จัดขึ้นที่สถานเอกอัครราชทูตเวียดนามในกรุงพนมเปญ โดยเป็นการรวมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของทั้งสองประเทศมารวมตัวกัน โดย Farax (กัมพูชา), Ws Asia Pacific, Cargo, Angkor Milk และ MekongNet เป็นหนึ่งใน บริษัท ของกัมพูชาที่เข้าร่วมการประชุม ด้านเวียดนามมี Metfone, Cargoteam, BMB Steel และธนาคาร เช่น Sacombank, Agribank และธนาคารเพื่อการลงทุนและพัฒนากัมพูชา (BIDC) นอกจากนี้ยังมีนักลงทุนในอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารจากจังหวัด An Giang ของเวียดนาม ซึ่งเชื่อว่าธุรกิจจากทั้งสองประเทศได้รับประโยชน์จากการรวมตัวกันในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนชาวเวียดนามและ SMEs ในการค้นพบศักยภาพของตลาดกัมพูชา ผ่านการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน ซึ่งปัจจุบันเวียดนามเป็นหนึ่งในคู่ค้าและนักลงทุนที่สำคัญที่สุดของกัมพูชา ซึ่งมีบริษัทจากเวียดนามกว่า 200 บริษัทที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในกัมพูชา
ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50664448/event-draws-100-firms-from-vietnam-cambodia/