บล.บัวหลวง ปักหมุด “ตลาดหุ้นเวียดนาม” น่าลงทุน รับเศรษฐกิจโตเกินคาด

หลักทรัพย์บัวหลวง เปิดมุมมองการลงทุน “ตลาดหุ้นเวียดนาม” ชี้ระยะยาว “ดัชนี VN Index” มีโอกาสกลับไปยืนกรอบเดิม 1,100-1,200 จุด หลังภาพรวมเศรษฐกิจเติบโตได้ดี และกำลังซื้อภายในประเทศคึกคักมากขึ้น ขณที่ 3 ดัชนีใหม่ในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์จะเป็นแรงดูดฟันด์โฟลว์หน้าใหม่ พร้อมเปิดโผ 3 หุ้นเด็ดต้องมีติดพอร์ต ซึ่งตลาดหลักทรัพย์เวียดนาม ถือเป็นอีกหนึ่งตลาดหุ้นต่างประเทศที่เหมาะกัยการลงทุนในระยะยาว เหตุผสสำคัญที่ทำให้ตลาดหุ้นเวียดนามน่าลงทุน เกิดจากกำลังซื้อภายในประเทศ เริ่มมีความคึกคักมากขึ้น สะท้อนได้จากตัวเลข GDP ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 หนุนโดยกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต และกลุ่มบริการที่ขยายตัว 10.1% และ 7.1% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่ ตัวเลขการส่งออกนำเข้า และจำนวนนักท่องเที่ยวในเดือน ก.ย. ที่ผ่านมาเติบโตได้ดี นอกจากนี้ ยังมีโอกาสที่เม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติหน้าใหม่ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นเวียดนามมากขึ้น โดย 2 ปัจจัยหลัก คือ ปัจจัยแรก – FTSE หากเวียดนามปรับปรุงระบบการชำระราคาได้สำเร็จ มีโอกาสสูงที่อาจเห็นเวียดนามได้รับการอัพเกรดในช่วงปลายปี 63 ปัจจัยสอง – ตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์เตรียมยกระดับการพัฒนาตลาดทุนด้วยการออก 3 ดันชีใหม่ ด้วยเหตุนี้ นักลงทุนควรหาโอกาสสร้างผลตอบแทนและกระจายการลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามอย่างน้อย 10-20% ของพอร์ต

ที่มา : https://www.smethailandclub.com/money-5013-id.html

เวียดนามเกินดุลการค้ากับอิสราเอล เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

จากข้อมูลของหน่วยงานรัฐฯเวียดนาม เปิดเผยว่าในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 มูลค่าการค้าระหว่างประเทศอยู่ที่ 760 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเวียดนามยังคงเกินดุลการค้าอย่างต่อเนื่องราว 440 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ การค้าระหว่างประเทศ (การค้าแบบทวิภาคี) มีมูลค่า 677 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องมาจากความตึงเครียดของสถานการณ์ทางการเมือง และความมั่งคงทางการเมืองที่ยังไม่แน่นอน ทำให้ผู้ส่งออกเวียดนามเกิดความกังวลต่อสถานการณ์ดังกล่าว รวมไปถึงข้อกำหนดมาตรฐานอาหารปลอดภัยที่เข็มงวดในภูมิภาคตะวันออกกลาง นอกจากนี้ ผู้ประกอบการอิสราเอลมีความสนใจในการนำเข้าอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคจากเวียดนาม ได้แก่ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เครื่องแต่งตัว รองเท้า และผลแปรรูป

ที่มา : https://en.nhandan.com.vn/business/item/7992302-vietnam-continues-to-enjoy-trade-surplus-with-israel.html

รีสอร์ทอสังหาฯ ดิ่งลง

อุปทานและความต้องการซื้อคอนโดเทล (Condotels) และรีสอร์ตวิลล่า ลดลงเป็นตัวเลขสองหลัก ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 เนื่องมาจากอยู่ในช่วงเดือนสารทจีน (Ghost months) ทำให้เกิดการชะลอตัวของนักลงทุน โดยจากรายงานของบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ DKRA Vietnam เปิดเผยว่าในช่วงเวลาดังกล่าว มีโครงการวิลล่าริมทะเลราว 3 โครงการที่ได้เปิดตัวสู่ตลาด และมีนิววิลล่าจำนวนทั้งหมด 86 หลัง ลดลงร้อยละ 95 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งในข้อมูลดังกล่าวข้างต้น มีการซื้อที่พักเพียง 58 หลัง โดยจะกระจุกตัวอยู่ในทางตอนกลางของจังหวัดบิ่ญถ่วน (Binh Thuan) และทางตอนใต้ของจังหวัดบ่าเหรี่ยะ-หวุงเต่า (Ba Ria – Vung Tau) ในขณะเดียวกัน จากรายงาน DKRA ระบุว่าการชะลอตัวชองภาคธุรกิจอสังหาฯ ในกลุ่มรีสอร์ท เป็นไปตามผลของฤดูกาล ทำให้ยอดขายลดลงอย่างมาก ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ เนื่องมาจากอยู่ในช่วงวันสารทจีน ทำให้ผู้คนหลีกเลี่ยงการซื้อสินค้าใหม่ๆ หรือทำธุรกิจกรรม เพื่อหลีกเลี่ยงโชคร้ายที่ตามมา และจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในช่วงไตรมาสสุดท้าย

ที่มา: https://e.vnexpress.net/news/business/industries/resort-real-estate-plunges-3992364.html

เวียดนาม อินโดนิเซีย เป็นผู้นำทางด้านเศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตในภูมิภาคอาเซียน

จากรายงานวิจัยของบริษัทชั้นนำของโลกอย่าง Google, Temsek และ new partner Bain & Company เปิดเผยว่าเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 39 ในปี 2562 และจะมีมูลค่ากว่า 100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยประเทศอินโดนิเซียและเวียดนามมีอัตราการขยายตัวมากกว่าร้อยละ 40 ในขณะที่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย และฟิลิปปินส์ มีอัตราการขยายตัวร้อยละ 20-30 ในขณะที่ เศรษฐกิจดิจิทัลเวียดนามมีมูลค่าสูงถึง 12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีนี้ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นภายในปี 2568 อยู่ที่ 43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นผลมาจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซ การท่องเที่ยวออนไลน์ และธุรกิจ Ride-Hailing เป็นต้น รวมไปถึงเวียดนามมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตประมาณ 61 ล้านคน และใช้เวลาเฉลี่ย 3 ชม. 12 นาที ต่อวัน ส่วนใหญ่ใช้สมาร์ทโฟน นอกจากนี้ เวียดนามก้าวขึ้นมาอันดับ 3 ของจุดหมายในการลงทุนดิจิทัลภูมิภาคนี้ ด้วยมูลค่าเงินทุนกว่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2561 และช่วงครึ่งเดือนแรกปี 2562 โดยเมืองฮานอยและโฮจิมินห์ เป็น 1 ใน 7 เมืองเศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ที่มา :  https://vietnamnews.vn/economy/536446/viet-nam-indonesia-lead-asean-in-internet-economy-growth.html#t0jGYwAhAxtOfG7o.97

เวียดนามเผยส่งออกกาแฟลดลง ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562

จากข้อมูลของหน่วยงานรัฐฯ เปิดเผยว่าเวียดนามมีการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) สูงที่สุดในรอบ 9 ปีที่ผ่านมา และเป็นประเทศที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เศรษฐกิจของเวียดนามนั้นมีการขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ในขณะที่ องค์กรระหว่างประเทศและสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือคาดว่าเศรษฐกิจจากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 ปริมาณการส่งออกกาแฟของเวียดนามลดลงร้อยละ  13.3 คิดเป็นปริมาณอยู่ที่ 1.25 ล้านตัน และด้านมูลค่าร้อยละ 21.9 คิดเป็นมูลค่า 2.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว โดยประเทศเยอรมนีและสหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ในขณะที่ช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ราคาส่งออกกาแฟเฉลี่ยลดลงร้อยละ 10.7 เหลือเพียง 1,709 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน และสถานการณ์ของราคากาแฟที่ลดลง ส่งผลให้เวียดนามส่งออกไปยังตลาดดั้งเดิมลดลง ได้แก่ เยอรมนี สหรัฐอเมริกา อิตาลี และสเปน ในขณะที่ ราคากาแฟทั่วโลกลดลง เนื่องมาจากผู้ผลิตกาแฟบราซิลได้เผชิญกับสกุลเงินที่ลดลง รวมไปถึงปริมาณการจัดเก็บกาแฟสำรองในตลาดสำคัญที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น สหรัฐฯ เป็นต้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/536442/coffeeexports-down-in-9-months.html#09WvUq2efT3Rtgps.97

เศรษฐกิจเวียดนามเติบโตสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

จากข้อมูลของหน่วยงานรัฐฯ เปิดเผยว่าเวียดนามมีการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) สูงที่สุดในรอบ 9 ปีที่ผ่านมา และเป็นประเทศที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เศรษฐกิจของเวียดนามนั้นมีการขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ในขณะที่ องค์กรระหว่างประเทศและสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือคาดว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะสามารถขยายตัวร้อยละ 6.8-7 ในปี 2562 รวมไปถึงทางข้อมูลของบริษัทฟิทช์ ระบุว่าในไตรมาสที่ 3/2562 เศรษฐกิจเวียดนามจะขยายตัวได้ร้อยละ 7.3 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เป็นผลมาจากผลประกอบการของภาคอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ภาครัฐได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินหาโซลูชั่นทางเศรษฐกิจ และอำนวยความสะดวกให้กับภาคเอกชน รวมไปถึงสร้างสภาพแวดล้อมในการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI)

ที่มา : https://tuoitrenews.vn/news/business/20191003/vietnams-gdp-growth-at-9year-high-topping-southeast-asia-govt/51443.html

เวียดนามจัดเก็บอัตราภาษีอากรสูงสุดตอบโต้การทุ่มตลาดสำหรับสินค้าอลูมิเนียมของจีน

จากข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม (MoIT) ได้ประกาศกำหนดอัตราอากรสูงที่สุด เพื่อตอบโต้การทุ่มตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์อลูมิเนียมที่มาจากผู้ประกอบการจีน 16 ราย ดังนั้น ทางกระทรวงฯตัดสินใจที่จะเรียกเก็บอากรจากผู้ประกอบการจีน 6 ราย ในอัตราอากรสูงที่สุดร้อยละ 35.58 และอีก 6 รายที่เผชิญกับอัตราอากรร้อยละ 18.16-35.39 และ 2 ราย ที่จะต้องเสียอากรในอัตราร้อยละน้อยกว่า 10 โดยในเดือนมกราคมที่ผ่านมา กระทรวงฯ ได้ทำการตรวจสอบการนำเข้าอลูมิเนียมจากประเทศจีน ตามกฎระเบียบขององค์การค้าโลก ซึ่งพบว่าในบางกรณี ราคาอลูมิเนียมของจีนต่ำกว่าต้นทุนการผลิตในเวียดนาม ส่งผลให้ผู้ประกอบการในประเทศได้รับความเดือดร้อนหลายปีที่ผ่านมา และทำให้ผู้ประกอบการหลายๆคน ล้มเลิกออกจากกิจการนี้ไป รวมไปถึงต้องไล่พนักงานบางส่วนอีกด้วย นอกจากนี้ ในปี 2561 สหรัฐฯ ได้ทำการตรวจสอบการหลบเลี่ยงการนำเข้าสำหรับผลิตภัณฑ์อลูมิเนียมที่มาจากประเทศเวียดนาม และได้ข้อสรุปว่าผู้ประกอบการบางคน ได้ทำการหลีกเลี่ยงอากรทุ่มตลาดที่สหรัฐฯได้กำหนดไว้กับผลิตภัณฑ์มาจากประเทศจีน ส่งผลให้สหรัฐฯ อาจตอบโต้ผลิตภัณฑ์อลูมิเนียมจากประเทศเวียดนามอย่างจริงจัง

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/highest-antidumping-tax-rate-imposed-on-chinese-aluminium-products-404107.vov