ทางด่วนแห่งแรกในสปป.ลาวเปิดตัวแล้ว

ทางด่วนจีน – สปป.ลาวซึ่งเป็นทางหลวงสายแรกในสปป.ลาวร่วมกันสร้างโดยรัฐบาลสปป.ลาวและกลุ่มการก่อสร้างและการลงทุนยูนนาน (YCIH) ของจีนซึ่งได้มีวิธีเปิดตัวไปมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พิธีเปิดจัดขึ้นในเวียงจันทน์เมืองหลวงของสปป.ลาวและคุนหมิงของมณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนผ่านการประชุมทางวิดีโอ ทางด่วนจีน – สปป.ลาวเริ่มต้นที่เวียงจันทน์และสิ้นสุดที่เมืองบอเตนชายแดนสปป.ลาว – ​​จีนความยาวประมาณ 440 กม. โครงการนี้ใช้มาตรฐานทางเทคนิคของจีนสำหรับการก่อสร้างและการดำเนินงานและมีแผนทั้งหมดสี่เฟสซึ่งกลุ่มการก่อสร้างและการลงทุนยูนนาน (YCIH) ลงทุนในโครงการกว่าร้อยละ 95 และรัฐบาลสปป.ลาวลงทุนร้อยละ 5  รัฐบาลสปป.ลาวจะดำเนินการภายใต้โมเดล Build-Operate-Transfer (BOT) เป็นเวลา 50 ปี หลังจากสร้างเสร็จแล้วทางด่วนจีน – สปป.ลาว จะกลายเป็นกระดูกสันหลังของการคมนาคมของลาวตอนกลางและตอนเหนือส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในสปป.ลาวและจะช่วยเร่งการสร้างเครือข่ายการขนส่งที่รวดเร็วครอบคลุมคาบสมุทรอินโดจีนทั้งหมด

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/2020-12/20/c_139604815_2.htm

เมียนมาพร้อมเจรจากับจีนเพื่อส่งออกโคสด

กระทรวงเกษตรปศุสัตว์และชลประทานของเมียนมากำลังเจรจากับสำนักงานการศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) เพื่อดำเนินการส่งออกโคสด GACC เป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นเมื่อไม่นานมานี้และมีขั้นตอนใหม่และทั้ง 2 ประเทศต้องเจรจาให้เป็นไปตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด ซึ่งการส่งออกต้องให้กรมสัตวบาลภายใต้ GACC ออกใบรับรองสุขภาพให้ นาย U Min Aung Aye ผู้อำนวยการ 105th Mile Border Trade Post ของเมืองมูเซภายใต้กระทรวงพาณิชย์ซึ่งรับผิดชอบในการออกใบอนุญาตการส่งออกกล่าวว่าการส่งออกไปยังจีนน่าจะกลับมาดำเนินการได้ในเดือนมกราคมปีหน้า ขณะนี้วัวและแพะมากกว่า 15,000 ตัวถูกขังไว้ที่ชายแดนเพื่อรอการส่งออกไปยังจีน ซึ่งเมียนมาอนุญาตให้ส่งออกโคมีชีวิตเป็นครั้งแรกในเดือนธันวาคม 60 ทั้งนี้นอกจากตลาดจีนแล้วยังมีบางส่วนส่งออกไปยังไทย อินเดีย และบังกลาเทศ

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/myanmar-talks-china-resume-live-cattle-exports.html

ธุรกิจเวียดนามและจีน ลงนามสัญญาราว 760 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ธุรกิจเวียดนามลงนามสัญญา 18 ฉบับกับทางผู้ประกอบการจีน ด้วยมูลค่า 758.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในงานแสดงสินค้าชายแดนเวียดนาม-จีน ครั้งที่ 20 เกี่ยวกับธุรกรรมการส่งออก-นำเข้าแร่โลหะ, สารเคมี, สินค้าทางการเกษตร ป่าไม้และประมง และปุ๋ย เป็นต้น โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม นับว่าเป็นครั้งแรกที่จัดงานในลักษณะ Virtual Platform เนื่องจากอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ของงานนี้ เพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวระดับทวิภาคีระหว่างเมืองลาวไค (Lao Cai) – มฑฉลยูนนาน (Yunnan) มีส่วนทำให้ส่งเสริมการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศ

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnam-china-firms-sign-contracts-worth-nearly-us760-million-at-trade-fair-315354.html

รัฐบาลสปป.ลาว-จีน ลงนามข้อตกลงการพัฒนาพื้นที่โดยรอบรถไฟสปป.ลาว-จีน

รัฐบาลและ บริษัท การรถไฟสปป.ลาว – ​​จีน จำกัด ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีรถไฟในเมืองหลวงและแขวงอุดมไซเวียงจันทน์และหลวงพระบางโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ นายเสี่ยวเฉียนเหวินตัวแทนจากทางการจีนกล่าวในงานลงนามว่า              “การพัฒนาพื้นที่รอบสถานีรถไฟเหล่านี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพในพื้นที่เหล่านี้สำหรับการเติบโตของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์การพาณิชย์และเศรษฐกิจในท้องถิ่น” ทางรถไฟสปป.ลาว – ​​จีนเป็นส่วนสำคัญทางยุทธศาสตร์ของ China’s Belt and Road Initiative และแผนการของรัฐบาลที่จะเปลี่ยนแปลงสปป.ลาวจากการไม่มีทางออกสู่ทะเลเป็นแผ่นดินที่เชื่อมโยงภายในภูมิภาค เมื่อเปิดให้บริการทางรถไฟจะลดต้นทุนการขนส่งผ่านทางตะวันตกเฉียงเหนือของสปป.ลาวได้ถึงร้อยละ 30-40 เมื่อเทียบกับการขนส่งทางถนนรัฐบาลมั่นใจว่าการรถไฟจะกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมและทำให้สปป.ลาวก้าวหน้ายิ่งขึ้น

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt_lao_china_242.php

กัมพูชาเตรียมพร้อมสำหรับการทำการค้าเสรีกับจีน

อีกไม่ถึง 20 วัน ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างกัมพูชากับจีน (CC-FTA) จะมีผลบังคับใช้หลังจากทั้งสองประเทศลงนามในข้อตกลงเมื่อวันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยภาคเอกชนพร้อมที่จะใช้ประโยชน์จากตลาดจีนที่ถือว่ามีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ซึ่งกระทรวงกำลังดำเนินการและจะเปิดเผยรายการสินค้าทั้งหมดที่สามารถส่งออกไปยังประเทศจีนได้ในไม่ช้า สิ่งนี้จะช่วยให้ภาคเอกชนตระหนักถึงสิ่งที่สามารถส่งออกได้และเกณฑ์ใดที่จำเป็นต้องปฏิบัติตามในการที่จะส่งออกสินค้าไปยังจีน โดยสินค้าที่มีศักยภาพส่วนใหญ่เป็นสินค้าทางการเกษตร เช่น เนื้อสัตว์แปรรูปและปศุสัตว์ ซึ่งกัมพูชาได้จดทะเบียนสินค้าโภคภัณฑ์เพื่อส่งออกไปยังจีนอีกราว 340 รายการภายใต้ CC-FTA ทำให้มียอดรวมมากกว่า 10,000 รายการที่สามารถทำการส่งออกไปยังจีนได้ จากข้อมูลของ MoC ในบรรดาสินค้าโภคภัณฑ์ใน CC-FTA ร้อยละ 95 ของสินค้าเหล่านี้จะไม่ต้องเสียภาษี และอีกร้อยละ 5 ที่เหลือจะค่อยๆทยอยยกเลิกภาษี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50791954/getting-ready-for-free-trade-with-china/

ธนาคารกลางกัมพูชาและเวียดนามพึงพอใจกับความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกัน

ธนาคารกลางกัมพูชาและเวียดนามแสดงถึงความพึงพอใจในด้านความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกัน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการพัฒนาภาคการธนาคารและเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ โดยผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) และผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติเวียดนาม (SBV) แสดงถึงความพึงพอใจผ่านการประชุมทวิภาคีประจำปี 2020 ที่จัดขึ้นผ่านทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ในการรักษาเสถียรภาพด้านการเงินและอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งยังเพิ่มความมั่นคงของระบบธนาคารและการควบคุมการแพร่กระจายของโควิด-19 ของทั้งสองรัฐบาลได้เป็นอย่างดี ซึ่งการประชุมประจำปีมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและสายสัมพันธ์แห่งมิตรภาพระหว่าง NBC และ SBV ต่อไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50792134/cambodian-vietnamese-central-banks-satisfied-with-bilateral-cooperation/

โรงกลั่นร่วมทุนจีน-สปป.ลาวเริ่มต้นการผลิตน้ำมันสำเร็จรูปเชิงพาณิชย์

Lao Petroleum & Chemical Co.Ltd (Laopec) บริษัทร่วมทุนจีน – สปป.ลาวได้เปิดตัวการโรงกลั่นน้ำมันในเฟสแรกของโครงการซึ่งคาดการณ์จะสามารถผลิตได้ถึง 3 ล้านตัน/ปี Laopec ซึ่งเป็นโรงกลั่นแห่งแรกของสปป.ลาวจะเติมเต็มช่องว่างในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในสปป.ลาวได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปจากต่างประเทศ โดยโครงการตั้งอยู่ในเขตพัฒนาครบวงจรในเวียงจันทน์ครอบคลุมพื้นที่ 425 mu (ประมาณ 28.3 เฮกตาร์) และมีแผนจะลงทุนประมาณ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐใน 3 ขั้นตอนเพื่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันที่ทันสมัย มีรายงานว่ากำลังการผลิตที่ครอบคลุมของเฟสแรกของ Laopec จะสูงถึงหนึ่งล้านตันต่อปีและจะช่วยให้สปป.ลาวมีอุปทานน้ำมันสำเร็จรูปที่ปลอดภัยและมีเสถียรภาพดังนั้นโรงงานที่เปิดใหม่ดังกล่าวจะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมของสปป.ลาวได้อย่างก้าวกระโดด

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/2020-12/01/c_139554780.htm

รถไฟจีน – สปป.ลาวก่อสร้างอุโมงค์ความยาว 17.5 กม. เสร็จสิ้นแล้ว

ส่วนหนึ่งของทางรถไฟจีน -สปป.ลาวซึ่งเป็นอุโมงค์ยาว 17.5 กม. แล้วเสร็จเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาในมณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนหลังจากใช้ความพยายามอย่างหนักมา 4 ปี รถไฟจีน – สปป.ลาวเป็นโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่เชื่อมระหว่างสองประเทศ เมื่อเปิดการจราจรการเดินทางจะสั้นลงเหลือเพียงแปดชั่วโมงจากคุนหมิงของมณฑลยูนนานไปยังเวียงจันทน์เมืองหลวงของสปป.ลาว เป็นปรากฎการณ์ใหม่ที่จะนำสปป.ลาวไปสู่เมืองที่เชื่อมต่อยังประเทศมหาอำนาจอย่างจีนวึ่งเป็นตลาดที่สามที่นานาประเทสให้ความสนใจในปัจจุบัน

ที่มา : https://news.cgtn.com/news/2020-11-29/China-Laos-Railway-completes-construction-of-17-5-km-long-tunnel-VOm2zOLc4g/index.html

จีนยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม

กรมศุลกากรเวียดนาม รายงานว่ามูลค่าการส่งออกของเวียดนามไปยังจีน อยู่ที่ประมาณ 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนตุลาคม ส่งผลให้ยอดมูลค่ารวมนับตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงปัจจุบัน ราว 38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จีนเป็นตลาดสำคัญของเวียดนาม ด้วยมูลค่าการค้าระหว่างประเทศทั้งหมดในปีนี้ อยู่ที่ 100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึงแม้ว่ามีสัญญาเชิงบวกหลายด้าน แต่ความตึงเครียดของสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน และการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมการค้าระหว่างประเทศของเวียดนามในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ด้วยเหตุนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MoIT) จึงอำนวยความสะดวกในการส่งออกสินค้าไปยังจีน ไม่ว่าจะเป็นปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการประกอบธุรกิจ ปฏิรูปสถาบันและลดขั้นตอนการจัดการ เป็นต้น เพื่อช่วยลดต้นทุนธุรกิจ นอกจากนี้ ทางกระทรวงฯ ได้ไปเปิดสำนักงานส่งเสริมการค้าในเมืองหางโจวและเจ้อเจียง เพื่อสร้างความสัมพันธ์ในการทำธุรกิจในจีนและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ

ที่มา : https://vnexplorer.net/china-retains-vietnams-largest-trade-partner-a2020128284.html

การค้าเวียดนาม-จีน สูงถึง 100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 10 เดือนแรกของปี 63

กรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าเมื่อเดือนต.ค. เวียดนามมีมูลค่าส่งออกประมาณ 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ไปยังจีน ส่งผลให้ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าการค้าระหว่างประเทศมากกว่า 37.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วย 10 รายการสินค้าที่มีรายได้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึงแม้ว่าจะได้รับสัญญาเขิงบวกหลายด้านด้วยกัน แต่ว่าความตึงเครียดของสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน และการระบาดของไวรัสโควิด-19 คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมการนำเข้าและส่งออกของเวียดนามในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ด้วยเหตุนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า จะดำเนินงานให้เกิดความสะดวกในการส่งออกสินค้าไปยังจีน ได้แก่ ขั้นตอนการดำเนินธุรกิจง่ายขึ้น ปฏิรูประบบให้ดีขึ้นและปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการลงทุน เพื่อลดต้นทุนการทำธุรกิจ

  ที่มา : https://vov.vn/en/economy/vietnam-china-trade-turnover-reaches-us100-billion-in-ten-months-817862.vov