สำนักงานศุลกากรรับรายได้กว่า4 พันล้านกีบจากการค้าชายแดนจีนและเวียดนาม

ภายในปี 2563 สำนักงานศุลกากรระหว่างประเทศในจังหวัดบอลิคำไซได้รับรายได้ 4 พันล้านกีบโดยที่มาของรายได้กว่าร้อยละ58.98 มาจากการด่านชายแดนการส่งออกเวียดนามและจีน ถึงแม้มาตราฐานการจัดการด้านการส่งออกและคลังสินค้าของชายแดนสปป.ลาวไม่มีประสิทธิภาพและมีความซีบซ้อนและล่าช้าในการตรวจสอบต่างๆ ทำให้จุดนี้เองที่ทำให้รัฐบาลต้องการพัฒนาระบบศุลกากรดังกล่าวเพื่อเป็นปัจจัยสนับสนุนด้านการส่งออกและนำเข้าผ่านด่านรอยต่อประเทศ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันยังไม่ได้มีการพัฒนามากเท่าที่ควร ทั้งด้านระบบการจัดการและเครื่องไม้เครื่องมือที่ยังไม่มีใช้ที่ด่านพรหมแดนทำให้ผู้ประกอบการต้องสูญเสียโอกาสด้านการค้าในบ้างชนิดสินค้า โดยเฉพาะสินค้าที่มีอายุการเก็บได้น้อยและต้องการคลังเก็บสินค้าที่มีคุณภาพ ในอนาคตหากสปป.มีการพัฒนาด้านนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของสปป.ลาวอย่างมหาศาล

ที่มา : https://laoedaily.com.la/2020/04/29/77216/

มัณฑะเลย์พร้อมรับมือแรงงานที่เดินทางกลับจากจีน

แรงงานข้ามชาติกว่า 1,000 คนที่เดินทางกลับพม่าจากจีนบริเวณชายแดนงเขตมัณฑะเลย์และรัฐฉานระหว่างวันที่ 26 – 27 เมษายนได้ถูกพากลับบ้านโดยเขตการปกครองของพวกเขาในมัณฑะเลย์, พะโคะ, สะกาย และมะกเว แรงงานส่วนใหญ่ไม่มีเอกสารประกอบการทำงานและเดินทางผ่านเส้นทางผิดกฎหมาย มากกว่าหนึ่งในสามของแรงงานที่ถูกส่งกลับถูกพากลับไปยังมัณฑะเลย์ ซึ่งผู้ที่กลับเข้ามาต้องกักตัว 21 วันและกักตัวที่บ้านอีก 7 วัน เพื่อตรวจหาเชื้อ COVID-19

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/mandalay-takes-precautions-migrant-workers-return-china.html

รัฐบาลจีนขยายเวลาการช่วยเหลือด้านสาธารณสุขแก่สปป.ลาว

ในช่วงตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมสปป.ลาวเริ่มมีการระบาดของไวรัส COVID-19 ด้วยระบบสาธารณสุขของสปป.ลาวที่อาจยังไม่มีประสิทธิภาพพอที่จะรับมือกับกับการะบาดของโรคดังกล่าวทำให้ประเทศพันธมิตรที่สำคัญอย่างจีนได้ส่งความช่วยเหลือในด้านบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมอและพยาบาลรวมถึงเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ไม่ว่าจะเป็น หน้ากากอนามัย แว่นตาป้องกัน ชุดป้องกันเชื้อโรค รวมถึงเครื่อมือทางการแพทย์ต่างๆ ซึ่งหน้าที่หลักๆของทางการจีนคือการให้ความรู้และวางระบบการป้องกันไวรัส COVID-19 อย่างมีประสิทธิภาพทั้งระบบการคัดกรอง มาตราการป้องกันผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นต้น อย่างไรก็ตามกรอบระยะเวลาการช่วยเหลือจะสิ้นสุดลงในวันที่ 24 ที่ผ่านมาแต่ด้วยความสัมพันธ์ที่ดีและเพื่อการช่วยเหลือได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพทำให้รัฐบาลจีนขยายเวลาการสนับสนุนทางแพทย์แก่สปป.ลาวต่อไปอีกระยะหนึ่ง

ที่มา: http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Chinese_78n.php

ททท.ชี้อีก 5 เดือนฟื้นแน่ “จีน” เริ่มส่งสัญญาณบวก

ททท.รับโควิด-19 “มหาวิกฤต” คาดอีก 5 เดือนอุตฯ ท่องเที่ยวไทยฟื้นตัว ชี้ “จีน”ส่งสัญญาณบวกแล้ว ยื่นขอกลับบินเข้าไทยอีกครั้ง พร้อมเร่งโมเดลซ่อมสร้างปลุกท่องเที่ยวภายในประเทศ ย้ำ ททท.ทำงานเต็มที่ ไม่ทิ้งผู้ประกอบการ ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประเมินว่า สำหรับประเทศไทยนั้นคาดว่าจะใช้เวลาฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างน้อยอีกประมาณ 5 เดือนนับจากนี้เป็นต้นไป ตอนนี้มีข่าวดีจาก 5 สำนักงานของ ททท.ในจีนที่ได้รับรายงานว่า มีสายการบินในจีนเริ่มติดต่อขอบินกลับเข้าประเทศไทยในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยเชื่อว่าหลังจากนี้การต้อนรับนักท่องเที่ยวก็จะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องสุขอนามัยและสุขภาพของนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น  ช่วงนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่มีผู้ได้รับผลกระทบมาก แต่ ททท.จะช่วยอย่างเต็มที่ เริ่มจากการช่วยเหลือผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และย่อย และเป็นผู้ประสานงานเพื่อดูแลให้ผู้ประกอบการเข้าถึงมาตรการเยียวยาของรัฐได้ต่อไป โดยส่วนของ ททท.เองก็ได้ทำการปรับแนวทางการทำงานใหม่ตามแนวทางการบริหารงานของรัฐบาล โดยโฟกัสใน3 เรื่องหลัก ๆ ได้แก่ 1.ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบตั้งแต่ผู้ประกอบการกลุ่มเปราะบางในห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงนักท่องเที่ยวที่ยังตกค้างอยู่ 2.เตรียมความพร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวเมื่อสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ และ 3.สนับสนุนรัฐบาลในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ

ที่มา: https://www.prachachat.net/tourism/news-455435

โครงการรถไฟฟ้าลาว-จีนยังคงมีการก่อสร้างในสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19

แรงงานสปป.ลาวกว่า 30 คน กำลังก่อสร้างโครงการรถไฟลาว-จีนที่เกือบจะแล้วเสร็จซึ่งจะเชื่อมโยงสปป.ลาวกับประเทศจีน แต่จากการระบาดCOVID-19 ทำให้นายจ้างผู้รับเหมาที่เป็นชาวจีนต้องกลับประเทศทำให้แรงงานก่อสร้างได้เงินเดือนล่าช้าพวกเขามีความกังวลเกี่ยวกับการได้เงินเดือนที่ล่าช้า ภาคการก่อสร้างเป็นส่วนที่รัฐบาลออกคำสั่งให้จำกัดจำนวนคนงานและกำหนดให้คนงานที่ไม่จำเป็นต้องอยู่บ้านเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคทำให้อุตสาหกรรมบางแห่งหยุดทำงานอย่างไรก็ตามภาคการก่อสร้างได้รับอนุญาตให้ดำเนินการต่อไปแม้ว่าจะมีคนงานน้อยลงโครงการดังกล่าวขณะนี้เสร็จสมบูรณ์ 90% ได้รับการคาดการณ์ว่าจะทำให้ภาคธุรกิจลดต้นทุนการส่งออกได้ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม

ที่มา : https://www.rfa.org/english/news/laos/railway-workers-04212020175011.html

เวียดนามส่งสัญญาฟื้นตัว จากการส่งออกสินค้าประมงไปยังจีน

เวียดนามส่งออกปลาสวายไปยังจีน มูลค่าราว 13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงครึ่งเดือนแรกมีนาคม ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่าเมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ นับว่าเป็นสัญญาที่ดีในการฟื้นตัวของการส่งออกสินค้าประมงของเวียดนามไปยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ สมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตอาหารทะเลเวียดนาม (VASEP) ระบุว่ายอดคำสั่งซื้อสินค้าประมง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สินค้ากุ้งและปลาสวายจากจีนที่กลับมาสั่งซื้อตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน และคาดว่าการส่งออกปลาสวายของเวียดนามไปยังจีน อาจเพิ่มขึ้นร้อยละ 40-50 ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า รวมถึงคาดการณ์ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสจะสามารถควบคุมในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ โดยการผลิตจะกลับมาเป็นปกติในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ นอกจากนี้ เกาหลีใต้เป็นตลาดสำคัญอีกแห่งหนึ่งของสินค้าเวียดนามและได้ส่งสัญญาว่าความต้องการจะกลับมาฟื้นตัวในไม่ช้า

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/aquatic-exports-to-china-shows-sign-of-recovery/172015.vnp

เวียดนามส่งออกข้าวพุ่งไปยังจีน ในไตรมาสแรก

จากรายงานของสำนักงานศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าเวียดนามส่งออกข้าวไปยังจีนเพิ่มขึ้น 4 เท่า ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ปริมาณส่งออก 162,000 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 11 ของปริมาณการส่งออกรวม โดยเฉพาะที่จีนนำเข้าข้าวจากเวียดนามส่งผลให้ราคาซื้อสูงสุด ปัจจุบันราคาส่งออกข้าวไปยังจีนเฉลี่ยอยู่ที่ 12.7 ล้านด่องต่อตัน เพิ่มขึ้นกว่า 1.7 ล้านด่องต่อตัน เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เป็นผลมาจากราคาข้าวนำเข้าของเพื่อนบ้านทางตอนเหนือสูงกว่าฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นผู้บริโภคข้าวเวียดนามรายใหญ่ ทั้งนี้ ยอดนำเข้าที่เพิ่มขึ้นของเวียดนาม เนื่องจากจีนเผชิญกับการขาดแคลนอาหาร ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/exports-of-rice-to-china-skyrocket-in-q1-412752.vov

เวียดนามเล็งผลักดันช่องทางค้าสินค้าเกษตรไปยังจีน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม หารือกับเอกอัครราชทูตจีนประจำเวียดนาม ณ กรุงฮานอย เมื่อวันที่ 16 เมษายน เพื่อหาช่องทางการค้าสินค้าเกษตรระหว่าง 2 ประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งการค้าของภาคเกษตร ป่าไม้และประมง ระหว่างเวียดนามและจีน ลดลงร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในช่วงเดือนแรกของปีนี้ จีนได้อนุมัตินำเข้าผักผลไม้ 9 รายการจากเวียดนาม และยังมีสินค้าเกษตรอีก 8 รายการที่กำลังดำเนินตามขั้นตอนอยู่ ทั้งนี้ รัฐมนตรีฯ ระบุเสริมว่าหวังว่าขั้นตอนการดำเนินงานนั้นจะเป็นไปโดยเร็วที่สุด เพื่อให้เวียดนามส่งออกสินค้าเกษตรไปยังจีนมากขึ้น รวมถึงเรียกร้องให้จีนขยายเวลาทำงานของสำนักงานศุลกากร เพียงแค่ 5-6 ชั่วโมง นอกจากนี้ เวียดนามและจีนควรจะหาแนวทางในการป้องกันการแพร่ระบาดของโวรัส ด้วยระดับความร่วมมือของรัฐบาลและการดำเนินงานร่วมกันระหว่างส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-china-seek-ways-to-push-agriculture-trade/171849.vnp

‘จีน-ไทย’ เห็นพ้องตั้งกองทุนรับมือโควิด-19 ร่วมแก้ปัญหา ป้องกันการแพร่ระบาด

“จีน-ไทย” เห็นพ้องตั้งกองทุนรับมือโควิด-19 ร่วมแก้ปัญหา วางกลไกเตรียมความพร้อมในกรณีฉุกเฉิน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ช่วยเหลือฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยเมื่อวันที่ 15 เม.ย. 63 พล.ต.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศ และผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ประมวลและนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีจีนร่วมการประชุมอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาบวกสาม (จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้) วาระพิเศษ ว่าด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ผ่านระบบทางไกล เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 14 เม.ย.63 ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้ 1.นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ได้กล่าวถึงการเป็นประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันในอนาคต โดยต้องดำเนินการเพื่อเอาชนะโควิด-19 ให้ได้โดยเร็ว ซึ่งนอกจากจะคุกคามต่อสุขภาพและชีวิตของผู้คนแล้ว ยังทำให้เศรษฐกิจโลกได้รับผลกระทบจากการหดตัวของอุปสงค์และอุปทาน รวมถึงเกิดความผันผวนในตลาดการเงินและการค้า ตลอดจนการลงทุนที่ซบเซา ดังนั้น อาเซียนและประเทศคู่เจรจาบวกสามจึงควรแก้ไขปัญหาวิกฤติร่วมกัน โดยวางกลไกการเตรียมความพร้อมในกรณีฉุกเฉินสำหรับต่อสู้กับโรคระบาด และเพิ่มบทบาทในเชิงบวกของการเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความมุ่งมั่นที่จะดำเนินการต่อสู้กับการแพร่ระบาดร่วมกัน และช่วยเหลือกันในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมทั้งเพิ่มความเชื่อมั่นในภูมิภาค

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/876140

จีนได้ส่งผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เพื่อร่วมต่อสู้ Covid-19 ในสปป.ลาว

ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ชาวจีนเดินทางมาถึงเมืองหลวงพระบางและเมืองจำปาสักเพื่อร่วมต่อสู้กับการระบาดของโรค Covid-19 หลังจากก่อนหน้านี้ได้ไปช่วยในนครหลวงเวียงจันทน์ งานหลักของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์จีนจะเกี่ยวข้องกับเรื่องการตรวจสอบและประเมินผลในพื้นที่เสี่ยงของทั้งสองเมืองและจะมีการฝึกอบรมระยะสั้นหลักสูตรที่เกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วย Covid-19 ที่เหมาะสมแก่แพทย์และพยาบาลสปป.ลาวทั้งนี้การได้รับความช่วยเหลือจากทางการจีนจะทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ของสปป.ลาวดีขึ้นจากประสบการณ์ของทีมแพทย์และเครื่องมือที่ทันสมัยที่จะทำให้ระบบสาธารณสุขของสปป.ลาวดีขึ้น

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Chinese_8Arp.php