‘เวียดนาม’ ตั้งเป้าส่งออกมะพร้าว 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

นายกาว บา ดัง ควา รองเลขาธิการสมาคมมะพร้าวเวียดนาม (VCA) ระบุว่ามะพร้าวนับเป็นแหล่งรายได้ให้กับกลุ่มครัวเรือนเกษตรกร ประมาณ 390,000 ครัวเรือน และหากพิจารณาตัวเลขของมูลค่าการส่งออกมะพร้าวเมื่อปี 2552 พบว่าทำรายได้จากการส่งออกเพียง 1 แสนดอลลาร์สหรัฐต่อปี แต่ว่าตัวเลขของการส่งออกดังกล่าวได้ปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ 940 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 ด้วยเหตุนี้ จากการประชุมของสมาคมฯ เมื่อวันที่ 28 ต.ค. มีมติที่ประชุมให้ตั้งเป้าการส่งออกมะพร้าวต่อปี อยู่ที่ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในอีก 5 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ มะพร้าวของเวียดนามยังได้รับการอนุมัติให้ส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา และบางประเทศในยุโรป

ที่มา : https://en.nhandan.vn/vietnams-coconut-sector-aims-for-export-revenue-of-1-billion-usd-post130737.html

“เวียดนาม” กลายเป็นแหล่งลงทุน 5 ชั้นนำของโลก สำหรับธุรกิจยุโรป

สภาหอการค้าสหภาพยุโรปในเวียดนาม (EuroCham) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีบรรยากาศทางธุรกิจ (Business Climate Index: BCI) ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 อยู่ที่ระดับ 48.0 ต่ำกว่าฐานดัชนี และปรับตัวลดลง 14.2 จุด เมื่อเทียบกับ 3 เดือนที่แล้ว อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจเวียดนามขยายตัวมากกว่า 8% ในปี 2565 แต่ว่าจะยังคงเผชิญกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก การปรับขึ้นดอกเบี้ย ภาวะเงินเฟ้อสูงขึ้นและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อ่อนแอ ทั้งนี้ นาย Alain Cany ประธานสภาหอฯ กล่าวว่าสิ่งต่างๆ จะเป็นไปในทิศทางที่เป็นบวกลดลงในไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี อย่างไรก็ตาม เวียดนามมีโอกาสที่ดีมากกว่าประเทศคู่แข่งในภูมิภาค เห็นได้ชัดจากสมาชิกของสภาหอฯ ส่วนใหญ่มองว่าเวียดนามเป็นศูนย์กลางของกลยุทธ์การลงทุนระดับโลก

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-remains-top-5-global-investment-sites-for-eu-firms/247155.vnp

‘เวียดนาม’ ส่งออกไปยุโรป 10 เดือนแรกปี 65 พุ่ง 23.5%

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MoIT) เปิดเผยตัวเลขการค้าระหว่างเวียดนามและตลาดสหภาพยุโรป (EU) อยู่ที่ 52.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ขยายตัว 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออก 39.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 23.5% (YoY) โดยปัจจุบันตลาดอียูเป็นคู่ค้าเบอร์ต้นๆ ของเวียดนามและเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่อันดับที่ 3 ด้วยอัตราการเติบโตของการส่งออกที่ 7.5% คิดเป็นสัดส่วน 13.6% ของมูลค่าการส่งออกรวมของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปี 2558-2564

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnams-exports-to-eu-grow-235-in-ten-months-post985857.vov

ผู้นำเอเชีย ยุโรป สนับสนุนการฟื้นตัวหลังเกิดโรคระบาด

ผู้นำจากสปป.ลาวและอีก 30 ประเทศหารือเกี่ยวกับการควบคุมการระบาดใหญ่ของโควิด-19 และการฟื้นตัวของสังคมและเศรษฐกิจ ขณะเข้าร่วมการประชุมหุ้นส่วนรัฐสภาเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 11 (ASEP 11) ทางวิดีโอลิงก์ ดร.ไซสมพร พรหมวิหาร ประธานรัฐสภาสปป.ลาว กล่าวในที่ประชุมว่า “เสถียรภาพและการพัฒนาที่ยั่งยืนนั้นเกี่ยวพันกัน ในขณะที่สันติภาพและความมั่นคงเป็นปัจจัยพื้นฐานสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกประเทศเพื่อสนับสนุนสิ่งนี้ ลาวให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ” รัฐบาลได้รวมเป้าหมายเหล่านี้ไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะเวลา 5 ปีสำหรับปี 2564-2568 และวิสัยทัศน์ปี 2030 เพื่อการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน โดยมีเป้าหมายที่จะนำลาวออกจากสถานะประเทศพัฒนาน้อยที่สุดในอนาคตอันใกล้อีกด้วย

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_AsiaEurope
227.php

บริษัทเทคฯ เวียดนาม ส่งออกสมาร์ทโฟน “Bphone” ล็อตแรกไปยังยุโรป

นาย Nguyen Tu Quang ประธานกรรมการ กล่าวว่าบริษัท Bkav เป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีสัญชาติเวียดนาม ได้ทำการส่งออกสมาร์ทโฟน “Bphone” ล็อตแรกไปยังสหภาพยุโรป บริษัทร่วมลงนามว่าด้วยการจัดหาซัพพลายกับพาร์ทเนอร์จากกลุ่มประเทศอียู ซึ่งการร่วมมือดังกล่าว คาดว่าจะเปิดตัวโมเดลการทำธุรกิจแบบใหม่ พร้อมกับสร้างจุดแข็งของธุรกิจ อาทิ การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์และการผลิตฮาร์ดแวร์ระดับพรีเมียม เป็นต้น รวมถึงหวังว่าผู้นำในยุโรปจะใช้สมาร์ทโฟนสัญชาติเวียดนามในสักวันหนึ่ง ทั้งนี้ บริษัทยังวางแผนที่จะเปืดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ตั้งแต่ระดับท็อปไปจนถึงระดับกลาง-ต่ำ ภายในปีนี้ อย่างไรก็ตามคงไม่ได้เปิดเผยวันที่จำหน่ายและชื่อผลิตภัณฑ์ได้ นอกจากนี้ บริษัท Bkav ได้ประกาศว่าจะเปิดตัวชุดหูฟังไร้สาย “AirB” ที่จะใช้ชิปเซ็ต Qualcomm พร้อมปล่อยจำหน่ายตามเวลาที่กำหนด

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnamese-tech-firm-exports-first-bphone-smartphones-to-eu-316743.html

EDF พักโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำในเมียนมา

Electricite de France SA (EDF) หนึ่งในบริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปสั่งเบรคโครงการไฟฟ้าพลังน้ำในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเมียนมาที่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทค้าขายสินค้าอุปโภค-บริโภคจากญี่ปุ่นอย่าง Marubeni ซึ่งการเบรคโครงการมีผลจากการรัฐประหารเมื่อเดือนที่แล้ว Marubeni เป็นกลุ่มที่ผลักดันให้สร้างสถานีไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่บนแม่น้ำเชวลี (Shweli) ในรัฐฉาน รัฐบาลฝรั่งเศสเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน EDF บริษัทได้วางแผนที่จะสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาด 671 เมกะวัตต์ภายในปี 2569 ด้วยต้นทุนประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์ทำให้เป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดโครงการหนึ่งในเมียนมา EDF ได้แจ้งว่าเพื่อเป็นการเคารพสิทธิมนุษยชนในเมียนมาจึงได้ระงับโครงการไว้ก่อน นอกจากนี้ยังปรึกษากับรัฐบาลฝรั่งเศสและสหภาพยุโรปเพื่อเผ้าดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด Marubeni ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในโครงการรวมถึงขนาดของการลงทุน ซึ่งในการแถลงการล่าสุดบริษัทจะจัดการกับสถานการณ์นี้อย่างเหมาะสม แต่ทั้งนี้ยังไม่ได้ประเมินทิศทางในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/marubeni-involved-hydropower-project-in-myanmar-to-be-frozen

สหภาพยุโรปวางแผนสนับสนุนกัมพูชาด้านการพัฒนาประเทศ

สหภาพยุโรป (EU) กล่าวถึงแผนให้ความช่วยเหลือกัมพูชาอีก 510 ล้านดอลลาร์ ช่วยเหลือในด้านการพัฒนาประเทศของกัมพูชา ในช่วงปี 2021-2027 ตามคำแถลงของสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) โดยจะนำไปสู่การปรับปรุงภาคการเกษตร การศึกษา และการปกครองของประเทศเป็นหลัก ซึ่งกัมพูชาเล็งเห็นถึงความสำคัญกับความสำเร็จที่เกิดขึ้นในความร่วมมือด้านการพัฒนาของสหภาพยุโรปสำหรับกัมพูชาในช่วงปี 2014-2020 ที่ผ่านมา ที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาที่ยั่งยืนของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาได้กล่าวขอบคุณสหภาพยุโรปและพันธมิตรทั้งหมดของสหภาพยุโรปที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลกัมพูชาในการตอบสนองต่อการระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะในด้านสาธารณสุข การเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้คน ความมั่นคงด้านอาหาร การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการสร้างงานภายในประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/820485/eu-pledges-510-million-to-cambodia-in-2021-2027/

ยุโรปเรียกร้องให้จีนชะลอการชำระหนี้ของเมียนมา

ประเทศในยุโรปตกลงที่จะเลื่อนการชำระคืนเงินกู้ของเมียนมาเป็นจำนวนเงินรวม 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังเรียกร้องให้จีนทำเช่นเดียวกัน ออสเตรีย, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมันนี, เนเธอร์แลนด์และโปแลนด์มีการผ่อนผันการชำระคืนเป็นจำนวนเงินรวม 98 ล้านเหรียญสหรัฐรวมทั้งดอกเบี้ยสำหรับงวดเดือนพฤษภาคมถึงเดือนธันวาคม 2563 จำนวนหนี้ประกอบด้วยร้อยละ 20 ของการชำระหนี้ตามกำหนดเวลาของเมียนมาซึ่งมีมูลค่าประมาณ 500 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลานี้ สหภาพยุโรปเรียกร้องให้เจ้าหนี้รายใหญ่ของเมียนมาปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน เช่นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของคือ จีนและญี่ปุ่น หนี้ของเมียนมาในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 10 พันล้านดอลลาร์ซึ่ง 4 พันล้านดอลลาร์เป็นหนี้ที่กู้จากจีน การบรรเทาหนี้ครั้งนี้จะช่วยให้เมียนมาในการสนับสนุนระบบสาธารณสุขชุมชนและธุรกิจในท้องถิ่น สหภาพยุโรปได้ระดมทุนและตั้งโครงการสำหรับภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากวิกฤต COVID-19 ซึ่งได้แก่กองทุนฉุกเฉิน The Myan Ku Fund เป็นจำนวนเงิน 5 ล้าน สำหรับแรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าใ นเดือนพฤษภาคมและได้จ่ายเงินไปแล้วกว่า 2 พันล้านจัต จากจำนวนแรงงาน 21,690 นอกจากนี้ยังระดมเงินทุนสูงถึง 30 ล้านยูโรสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม พนักงานสาธารณสุข แรงงานข้ามชาติ และผู้ที่อาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยและพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/europe-defer-myanmars-debt-payments-urges-china-follow-suit.html

เปิดเวทีผู้ส่งออกคุยทูตพาณิชย์ เจาะตลาดยุโรป-อาเซียน-เอเชียตะวันออก

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรม มีกำหนดจัดโครงการเปิดโลกการค้ากับทูตพาณิชย์ออนไลน์ หรือ Online Export Clinic 2020 ประจำเดือนสิงหาคม 2563 โดยจะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่สนใจจะปรึกษาด้านการทำตลาดต่างประเทศ การส่งออกสินค้า ได้มีโอกาสปรึกษาโดยตรงกับผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์ ซึ่งครั้งนี้ มีทูตพาณิชย์จากกลุ่มประเทศในภูมิภาคยุโรป และ CIS ภูมิภาคอาเซียน และภูมิภาคเอเชียตะวันออก มาให้คำปรึกษา ข้อแนะนำ และแนวทางการเข้าสู่ตลาด โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 17 กรกฎาคม 2563 ภูมิภาคอาเซียน กำหนดจัดวันที่ 13-14 สิงหาคม 2563 สามารถปรึกษาการทำตลาดและการเข้าสู่ตลาดกัมพูชา อินโดนีเซีย เมียนมา มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และสปป.ลาว โดยผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) กล่าวว่าผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถสมัครเข้าร่วมได้ที่ https://exportcliniconlineaug2020.as.me/ และเมื่อได้รับการสมัครจากท่านแล้ว ทางผู้จัดจะทำการตรวจสอบคุณสมบัติ หากผ่านเกณฑ์การคัดเลือก ทีมงานจะจัดตารางเวลาและทำการนัดหมายกับท่านต่อไป สำหรับประเภทสินค้าที่สามารถขอรับคำปรึกษาได้ เช่น อาหารและเครื่องดื่ม เสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่น เครื่องใช้และของตกแต่งบ้าน ยาและอาหารเสริม ผลิตภัณฑ์ความสวยความงามและสปา เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องจักร เครื่องประดับ การบริการ และอื่นๆ

ที่มา : https://www.naewna.com/business/502524