นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงแผนการผลักดันการส่งออกในปี 64 ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำแผนส่งเสริมและผลักดันการส่งออก เพื่อนำเงินเข้าประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการทำงานร่วมกับภาคเอกชนในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ให้เข้มข้นมากขึ้น ซึ่งได้กำหนดแผนงานโครงการไว้ชัดเจนหมดแล้ว มีจำนวนรวม 343 กิจกรรม ในประเทศ 135 กิจกรรม และในต่างประเทศ 208 กิจกรรม เช่น การจัดกิจกรรมส่งเสริมอาหารไทย การเจรจาธุรกิจออนไลน์ หรือเจรจาการค้าในรูปแบบไฮบริด และการผลักดันสินค้าไทยเข้าไปจำหน่ายในแพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อดังของประเทศต่างๆ ขณะเดียวกัน จะเร่งเจรจาความตกลงการค้าระหว่างประเทศ เพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับสินค้าไทย นอกจากนี้ จะใช้นวัตกรรมใหม่การทำการค้าแบบลงลึกต้องทำมินิเอฟทีเอ ซึ่งเป็นการตั้งชื่อเอง โดยกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับภาคเอกชน จะทำข้อตกลงทางการค้าเฉพาะกับมณฑล หรือรัฐ หรือเมืองของประเทศใหญ่ๆ ที่มีประชากรมากกว่าบางประเทศ เพื่อสร้างโอกาสในการขยายการค้า การลงทุนให้กับผู้ประกอบการของไทย สำหรับการส่งออกในปี 63 ถือว่าไทยทำได้ดี เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ที่ประสบปัญหาโควิด-19 โดยการส่งออกของไทยเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง จากที่เคยติดลบหนักในช่วงโควิด-19 ระบาด และค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น และคาดการณ์ว่าทั้งปีนี้จะติดลบเพียบ7%และปีหน้าจะบวกได้4%ซึ่งเป็นผลมาจากทำงานอย่างหนักของกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับภาคเอกชน อย่างไรก็ตามการส่งออกในปีนี้ยังมีอุปสรรคที่จะต้องเร่งแก้ไข คือ การค้าชายแดน ที่ล่าสุดได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระบาดรอบ 2 ทำให้จำเป็นต้องปิดด่าน โดยเมียนมาเดือนต.ค.ลบ40% สปป.ลาว ลบ 21%กัมพูชา ลบ17% เป็นผลกระทบจากโควิด-19 และยังมีปัญหาเรื่องขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ที่จะใช้ในการส่งออก เพราะได้ดุลการค้ามากไป นำเข้ามาน้อย แต่ส่งออกไปมาก ทำให้ตู้ขาดแคลน ซึ่งจะเร่งเข้าไปแก้ไขปัญหาต่อไป
ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/910733