เมียนมาส่งออกแร่มากกว่า 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 62

สิ้นปีงบประมาณ 61 – 62 เมื่อกันยายนที่ผ่านมา เมียนมามีมูลค่าส่งออกแร่ 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 700 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สินค้าส่งออกหลักที่ส่งไปยังต่างประเทศ ได้แก่ ผลผลิตจากฟาร์ม ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แร่ธาตุ ผลิตภัณฑ์ทางทะเล ผลิตภัณฑ์จากป่า ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปทางอุตสาหกรรม และอื่น ๆ แม้มีการจัดนิทรรศการหยกแต่ยอดส่งออกลดลง ด้วยการกำกับของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย Myanma mid-year gem emporium ได้จัดขึ้นที่เนปิดอร์ ตั้งแต่วันที่ 16-25 กันยายน ที่ผ่านมา

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/mineral-export-volume-reaches-more-than-us-1-4-billion-till-2019-end

เวียดนามเผยยอดส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ไปยังจีนพุ่งสูงขึ้น ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 62

จากข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม (MoIT) เปิดเผยว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2562 เวียดนามส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ไปยังประเทศจีน ด้วยมูลค่า 327 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 35.4 ทางด้านปริมาณอยู่ที่ 42,199 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 60.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยสหรัฐอเมริกา จีน และเนเธอร์แลนด์ ยังคงเป็นผู้นำเข้าเม็ดมะม่วงหิมพานต์รายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ในช่วงเวลาดังกล่าว ในส่วนของสถานการณ์การส่งออกสินค้าไปยังจีนนั้นอย่างเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เนื่องมาจากความตึงเครียดของสงครามการค้าสหรัฐ-จีน เป็นต้น นอกจากนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแนะนำผู้ประกอบการให้ความสำคัญในการปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และสร้างมาตรฐานความปลอดภัยอาหาร เพื่อให้สามารถส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศได้เพิ่มมากขึ้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnams-cashew-nut-exports-to-china-surge-in-nine-months-404405.vov

ไทยถูกหวยสงครามการค้า 26 รายการขี่ม้าขาวดันส่งออกโค้งสุดท้ายปีนี้

“พาณิชย์” เผยผลวิเคราะห์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนต่อการค้าไทยในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ และรอบใหม่ที่เริ่ม 1 ก.ย.ที่ผ่านมา พบไทยมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นทั้ง 2 ตลาด ซึ่งสินค้าที่ส่งออกได้ดี ทดแทนสินค้าจีนในสหรัฐฯ และทดแทนสินค้าสหรัฐฯในจีน มีกว่า 26 รายการ แนะไทยเร่งส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ให้ได้เพิ่มมากขึ้น เพิ่มยอดส่งออกโค้งสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งผลกระทบจากสงครามการค้า ทำให้สหรัฐฯ นำเข้าจากจีนลดลงจากสัดส่วน 20.51% ใน 6 เดือนของปีที่ผ่านมาเหลือ 18.02% ในช่วงเดียวกันของปีนี้ โดยสินค้าของไทยที่มีศักยภาพในการส่งออกทดแทนในตลาดสหรัฐฯและจีน ภายใต้มาตรการตอบโต้ที่สหรัฐฯขึ้นภาษีจีน 250,000 ล้านเหรียญ และจีนตอบโต้สหรัฐฯ มูลค่า 110,000 ล้านเหรียญ ที่มีผลบังคับใช้แล้ว พบว่าสินค้าไทยที่ส่งออกไปทดแทนสินค้าจีนในตลาดสหรัฐฯเพิ่มขึ้น เช่น ปลานิลแช่แข็ง กุ้งและปลาหมึกแช่แข็ง เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (ที่ไม่ใช่น้ำผักและผลไม้) และสินค้าที่ไทยส่งออกไปทดแทนสินค้าสหรัฐฯ ในตลาดจีน เช่น น้ำแอปเปิ้ล น้ำผึ้ง แป้ง ผงที่ทำจากพืช กระดาษแข็ง เครื่องแก้วสำหรับใช้ในครัวเรือนหรือรวมทั้งสองตลาดกว่า 26 รายการ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1679366

เวียดนามดำเนินขอรับใบอนุญาตส่งออกอะโวคาโดไปยังสหรัฐฯ

จากข้อมูลของสำนักงานการค้าเวียดนาม สาขาซานฟรานซิสโก (สหรัฐอเมริกา) เปิดเผยว่าอะโวคาโดส่วนมากที่จำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตนั้น ดังนั้น ผู้จัดจำหน่ายต้องควบคุมขั้นตอนของห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการจัดจำหน่ายสินค้า ในขณะที่ ผู้ส่งออกต้องมีใบรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์ สำหรับการจะเข้าตลาดสหรัฐฯ ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดขั้นต่ำตามข้อบังคับว่าด้วยการกำหนดระดับความสุก, สี, น้ำหนัก, สะอาด และปราศจากแมลง เป็นต้น ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กมักจะประสบปัญหาในการเข้าถึงตลาดดังกล่าวอย่างมาก เป็นผลมาจากขาดประสบการณ์ในการทำธุรกิจ นอกจากนี้ สำหรับสินค้าทางการเกษตร เช่น มะม่วง เวียดนามจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินรับใบอนุญาต 10 ปี ถึงจะสามารถส่งออกมะม่วงไปยังสหรัฐฯได้

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/536540/viet-nam-trying-to-get-us-export-licence-for-avocados.html#GO48zrRXQqiBzJqc.97

เวียดนามเผยยอดส่งออกไม้ 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 62

จากรายงานสถิติของสำนักงานบริหารป่าไม้เวียดนาม (Vietnam Administration of Forestry) เปิดเผยว่าเวียดนามส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากไม้ ด้วยมูลค่า 7.932 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยตลาดส่งออกหลักไม้ และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากไม้ของเวียดนาม ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน สหภาพยุโรป เกาหลีใต้ เป็นต้น ซึ่งประเทศดังกล่าว มีมูลค่ารวมกันเกือบ 6.93 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 87.4 ของมูลค่าการส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากไม้รวม ในขณะเดียวกัน เวียดนามได้ลงนามข้อตกลงที่สำคัญกับสหภาพยุโรป ในวันที่ 30 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา รวมไปถึงข้อตกลงการค้าเสรี (EVFTA) และข้อตกลงการคุ้มครองการลงทุนเวียดนาม-สหภาพยุโรป (EVIPA) ซึ่งเมื่อข้อตกลงดังกล่าวมีผลบังคับใช้ จะมีการลดภาษีนำเข้าทั้ง 2 ฝ่ายกว่าร้อยละ 99 ของสินค้านำเข้า และจะทยอยลดภาษีสินค้าที่เหลือภายใน 7 ปี แต่ว่าบริษัทที่ทำธุรกิจไม้และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากไม้เวียดนาม ต้องได้ใบรับรองที่ออกโดยองค์กร FSC เพื่อที่จะสามารถเข้าตลาดกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปได้ และตลาดอื่นๆ

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/wood-and-forestry-exports-hit-close-to-us8-bil-in-ninemonth-period-404037.vov

เวียดนามเผยส่งออกสินค้าเกษตร ป่าไม้ และประมง พุ่งสูงขึ้น 2.7% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 62

จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ป่าไม้ และประมงของเวียดนามอยู่ที่ 30.02 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน เวียดนามนำเข้าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจากต่างประเทศกว่า 23.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยปัจจัยที่ทำให้เวียดนามส่งออกเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากได้รับแรงหนุนของผลิตภัณฑ์ป่าไม้ และผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ ในส่วนของผลิตภัณฑ์ส่งออกที่มีมูลค่ามากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ทำมาจากไม้ และไม้แปรรูป กาแฟ ข้าว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผักผลไม้ และกุ้ง เป็นต้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/agroforestryfishery-exports-up-27-percent-in-nine-months-403952.vov

เวียดนามส่งออกสำปะหลังเพิ่มขึ้น ในช่วงเดือนสิงหาคม

จากรายงานสถิติของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าในช่วงเดือนสิงหาคมของปี 2562 ปริมาณการส่งออกมันสำปะหลัง และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากสำปะหลังของเวียดนาม พุ่งสูงขึ้น 180,720 ตัน คิดเป็นมูลค่ารวม 71.82 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งตัวเลขดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 88.2 และมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 70.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่ ในปัจจุบันโรงงานหลายแห่งได้เข้าสู่ช่วงการผลิตใหม่ ในช่วงปี 2562-2563 อย่างไรก็ตาม แหล่งวัตถุดิบมันสำปะหลังสดยังคงผลิตไม่แน่นอน โดยตลาดส่งออกสำปะหลังของเวียดนามไปยังประเทศจีน เพิ่มขึ้นกว่า 162,460 ตัน และมูลค่า 64.78 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นผลมาจากสินค้าคงเหลืออยู่ในระดับต่ำ ทำให้มีความต้องการผลิตภัณฑ์สำปะหลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ ราคาสินค้าแป้งมันสำปะหลังของเวียดนามอยู่ในระดับต่ำกว่าเมื่อเทียบกับราคาสินค้าไทย ส่งผลให้ลูกค้าชาวจีนสั่งซื้อสินค้าจากเวียดนามพุ่งสูงขึ้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/cassava-exports-enjoy-august-boost-403605.vov

เวียดนามเผยส่งออกกาแฟลดลง 10.3% yoy ในช่วงเดือนม.ค.-สิ.ค.

จากข้อมูลของสำนักงานสถิติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าการส่งออกกาแฟของเวียดนามอยู่ที่ 1.19 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 10.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และการส่งออกข้าวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 ซึ่งปริมาณการส่งออกกาแฟในเดือนสิงหาคมประมาณ 130,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 220 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่ เวียดนามอยู่ในอันดับที่ 3 ของโลกที่มีการส่งออกมากที่สุด ซึ่งในเดือนสิงหาคม เวียดนามส่งออกข้าวอยู่ที่ 252 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทางด้านปริมาณการส่งออกรวม 580,000 ตัน นอกจากนี้ ในเดือนมกราคม-สิงหาคม การส่งออกน้ำมันดิบของเวียดนามอยู่ที่ 2.68 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://tuoitrenews.vn/news/business/20190829/vietnam-janaug-coffee-exports-likely-fell-103-y-y-govt/51119.html

เก้าเดือนแรกของปีงบฯ เมียนมาส่งออกข้าว 370,000 ตันไป 33 ประเทศ

9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 61-62 เมียนมาส่งออกข้าวหักกว่า 370,000 ตันไปยัง 33 ประเทศ โดย 48% ของการส่งออกทั้งหมดไปเบลเยียม มีรายได้จากการส่งออกมากกว่า 99.628 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่เป็นเบลเยียม 179,739 ตันหรือข้าวหักมูลค่า 48.155 ล้านเหรียญสหรัฐคิดเป็น 48% ของยอดส่งออกทั้งหมด อินโดนีเซีย 57,360 ตันมูลค่า 15.668 ล้านเหรียญสหรัฐ จีน 25,000 ตันมูลค่า 6.723 ล้านเหรียญสหรัฐ เนเธอร์แลนด์ 21,400 ตันมูลค่า 5.324 ล้านเหรียญสหรัฐ และสหราชอาณาจักร 18,000 ตันมูลค่า 4.743 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมถึง 12 กรกฎาคมปีงบประมาณนี้มีรายรับ 562.191 ล้านเหรียญสหรัฐจากการส่งออกข้าวและข้าวหักจำนวน 1.858 ล้านตัน ในปี 60-61 มีการส่งออกข้าวเกือบ 3.6 ล้านตันทำสถิติสูงสุดในรอบ 50 ปี

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/over-370000-tons-of-broken-rice-exported-to-33-countries-in-more-than-nine-months