การเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาอาจจะชะลอตัวลงเหลือ 2.5% ในปีนี้

ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาจะชะลอตัวลงอยู่ที่ราว 2.5% ในปีนี้ ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการระบาดของ COVID-19 แต่ธนาคารโลกก็คาดว่าอัตราการเติบโตจะฟื้นตัวเป็น 5.9% ในปี 2564 ภายใต้สถานการณ์ปรกติ โดยรายงานของธนาคารโลกระบุเสริมว่าการระบาดใหญ่ในครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศในทุกภาคส่วนที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นภาคการเกษตร การท่องเที่ยว เสื้อผ้า สิ่งทอและการก่อสร้าง ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดการเติบโตของกัมพูชาคาดว่าจะลดลงเหลือ 1% ในปี 2563 และ 3.9% ในปี 2564 ตามรายงานของธนาคารโลก ซึ่ง ABD ได้ทำการคาดการณ์ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดสำหรับกัมพูชา ว่ารายรับจากการท่องเที่ยวของกัมพูชาอาจลดลงเป็นเหลือ 856.5 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2563 โดยในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในกัมพูชาลดลง 15% ตลอดทั้งปี 2019 กัมพูชาได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยว 6.6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6.6% จากปีก่อน ซึ่งภาคดังกล่าวสามารถสร้างรายได้ประมาณ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 12% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50708030/kingdoms-growth-to-drop-to-2-5-percent/

ไวรัส มรณะ ฉุดส่งออกไทยติดลบ 5.5 % สูญ 13,480 ล้านเหรียญสหรัฐ

ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินโลกน็อคดาวน์ทำส่งออกไทยติดลบ 7.1%  ต่ำสุดรอบ 1 ปี เสียหายยับเยิน 5.5 แสนล้านบาท เฉพาะโควิด-19 ทำส่งออกไทยหาย 13,480 ล้านเหรียญสหรัฐ  ชี้อาเซียน-ฮ่องกงหนัก โดยผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ส่งออกไทยในปี 63 คาดว่าจะมีมูลค่า 228,816 ล้านเหรียญสหรัฐลดลงจากปีก่อน 7.1%   หรือลดลง 17,429 ล้านเหรียญสหรัฐ (557,728 ล้านบาท) ถือเป็นอัตราที่ต่ำสุดรอบ 10 ปี แบ่งเป็นได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำจากการระบาดไวรัส โควิด-19 ถึง 80%  ,ความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยน 10%, สงครามการค้าสหรัฐ-ประเทศคู่ค้า 5% และความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ-อิหร่าน 5% เบื้องต้นคาดการณ์ว่าการส่งออกไทยไปยังอาเซียนจะเสียหายมากสุดหรือลดลง  5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ รองลงส่งออกไปฮ่องกงลดลง 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ,ญี่ปุ่นลดลง  3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จีนเสียลดลง  2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และสหภาพยุโรป ลดลง 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นต้น โดยหากประเมินเฉพาะผลกระทบจากการระบาด โควิด-19 อย่างเดียว ไม่รวมปัจจัยอื่น พบว่าจะมีผลต่อการส่งออกในปีนี้ติดลบ 5.5% หรือคิดเป็นมูลค่า 13,480 ล้านเหรียญสหรัฐ (431,360 ล้านบาท)

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/873679

กระทรวงโยธาธิการและการขนส่งได้ประกาศระงับการให้บริการรถบัสทั้งหมด

กระทรวงโยธาธิการและการขนส่งได้ประกาศระงับการให้บริการรถบัสทั้งหมดและปิดสถานีรถบัสเป็นการชั่วคราวระหว่างวันที่ 1-10 เมษายน เพื่อป้องกัน Covid-19 หลังจากมีการยืนยันผู้ติดเชื้อเพิ่ม มาตราการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขยืนยันจำนวนการติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 9 คน นอกจากนี้การดำเนินการดังกล่าวยังสอดคล้องไปกับมาตราการควบคุมต่างๆ ทั้งการให้ทุกคนกักตัวไม่ให้พบปะกัน การปิดพรหหมแดน ไม่เพียงแต่การแพร่ระบาดที่รัฐบาลได้ออกมาตราการต่างๆมาควบคุม เพราะในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ประชาชนสปป.ลาวมีการกักตุนอาหารทำให้ราคาสินค้าอาจมีการปรับตัว แต่อาจมีผู้ไม่หวังดีในช่วงนี้ที่จะปรับราคาเกินที่กำหนด รัฐบาลจึงต้องมีประกาศออกมาควบคุมในเรื่องราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงนี้เพื่อไม่ให้ราคาสูงเกินไป รัฐบาลจะจัดตั้งหน่วยงานเพื่อตรวจสอบอย่างเข้มงวดหากร้านค้ามีการปรับขึ้นราคาเกินจริงจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos65.php

สปป.ลาวจะเข้าสู่การlockdownประเทศ

สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส covid-19 ทั่วโลกยังคงมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่ง ณ ขณะนี้สปป.ลาวพบผู้ติดเชื้อแล้ว 9 คนตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมาถึงแม้ตัวเลขที่ติดเชื้ออาจไม่สูงมากนักแต่ทางการสปป.ลาวก็ได้มีมาตราการเพื่อป้องกันและลดการขยายในการแพร่ระบาดโดยเริ่มจากการที่รัฐบาลสปป.ลาวประกาศให้ประชาชนอาศัยอยู่บ้านและลดกิจกรรมพบปะต่างๆ แต่มาตราการดังกล่าวก็ได้เพิ่มความเข้มงวดไปอีกหลังจากยอดผู้ติดเชื้อของสปป.ลาวยังเพิ่มขึ้นโดยรัฐบาลได้ปิดด่านพรหมแดนต่างๆ รวมถึงให้หน่วยงานเอกชนและราชการทำงานจากที่บ้านมีผลตั้งแต่วันนี้ 1 เมษายนถึง 19 เมษายนรวมถึงห้ามมิให้มีการรวมตัวกันมากกว่า 10 คนและยกเลิกกิจกรรมทุกอย่างที่จะจัดในเดือนนี้ ทั้งนี้เป็นไปเพื่อความปลอดภัยของประชาชนในสปป.ลาว

ที่มา : https://www.ttrweekly.com/site/2020/04/laos-goes-into-total-lockdown/

นายกฮุนเซนสั่งห้ามส่งออกข้าวเพื่อป้องกันอุปทานภายในประเทศ

นายกรัฐมนตรีฮุนเซนได้สั่งหยุดการส่งออกข้าวขาวและข้าวเปลือกทั้งหมดกำหนดตั้งแต่วันที่ 5 เมษายนจนกว่าจะมีประกาศให้ทำการส่งออกดังเดิม โดยนายฮุนเซนกล่าวในการแถลงข่าวหลังจากการประชุมรัฐสภาว่าการตัดสินใจในครั้งนี้ทำไปเพื่อปกป้องอุปทานภายในประเทศเพื่อตอบสนองต่อการขาดแคลนอาหารในช่วงของการระบาด COVID-19 ซึ่งรัฐบาลได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้าหนึ่งสัปดาห์เพื่อให้ผู้ผลิตข้าวและผู้ส่งออกสามารถจัดการและควบคุมสต็อค รวมถึงเคลียคำสั่งซื้อต่างๆที่มีอยู่ จากรายงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กัมพูชาได้ส่งออกข้าวสาร 214,612 ตัน ไปยังตลาดต่างประเทศ โดยคิดเป็นส่งออกไปยังประเทศจีน 94,060 ตัน สหภาพยุโรป 62,998 ตัน ตลาดอาเซียน 27,937 ตัน และตลาดอื่น ๆ 29,617 ตัน รวมไปถึงการส่งออกอย่างไม่เป็นทางการที่คาดว่ามากกว่า 800,000 ตัน ไปยังเวียดนาม ซึ่งรองประธานสหพันธ์ข้าวกัมพูชา (CRF) กล่าวว่าการส่งออกข้าวขาวของกัมพูชายังคงมีเสถียรภาพ โดยข้าวขาวที่ผลิตในประเทศส่งออกประมาณ 20 ถึง 25% ในแต่ละเดือน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50707627/pm-bans-white-rice-and-paddy-exports-in-effort-to-safeguard-local-supply/

กระทรวงเสนอจำกัดปริมาณการส่งออกข้าว 400,000 ตันต่อเดือน

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MoIT) ได้เสนอแผนต่อนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการควบคุมปริมาณส่งออกข้าวต่อเดือนและการกักตุน 400,000 ตัน จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยข้อเสนอดังกล่าวนั้น คาดว่าปริมาณการส่งออกข้าวในเดือนเม.ย.-พ.ค. อยู่ที่ประมาณ 800,000 ตัน และนากยรัฐมนตรีจะนำไปพิจารณาถึงการส่งออกข้าวในเดือนพ.ค. ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนเม.ย. ทั้งนี้ ทางกระทรวงฯ เสนอให้ส่งออกข้าวผ่านชายแดนระหว่างประเทศเท่านั้น ซึ่งมีอุปกรณ์อินเทอร์เน็ตครบครันที่จะทำให้กรมศุลกากรสามารถตรวจสอบได้ สำหรับความต้องการบริโภคและการเก็บสินค้า ทางกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทคาดว่าความต้องการข้าวเปลือกในประเทศปีนี้ อยู่ที่ 29.96 ล้านตัน ส่วนที่เหลือจะนำไปส่งออกประมาณ 13.5 ล้านตัน

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/ministry-proposes-limiting-rice-exports-to-400000-tonnes-per-month-411991.vov

ทางรถไฟวงแหวนของย่างกุ้งลดจำนวนเที่ยวโดยสารลง

จากการติดเชื้อ COVID-19 ได้แพร่กระจายไปทั่วประเทศในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจำนวนผู้โดยสารรถไฟของย่างกุ้งลดลง การรถไฟเมียนมาจึงตัดสินใจลดจำนวนเที่ยวรถไฟลงตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา ปัจจุบันเส้นทางวงเวียนในย่างกุ้งมีความจุ 198 ตู้ จากจำนวนทั้งหมด 69 ตู้โดยสารซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของความจุผู้โดยสารรวมจะถูกหยุดชั่วคราวทำให้เหลือเที่ยวโดยสาร 99 เที่ยวที่ดำเนินการตามปกติ ปกติมีผู้โดยสารกว่า 50,000 คนเดินทางบนรถไฟทุกวัน แต่ปัจจุบันลดลงเหลือประมาณ 30,000 คน

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/yangons-circular-railway-line-carriages-be-reduced.html

ก่อสร้างหดตัวเนื่องจากการระบาดของ COVID-19

สหพันธ์ผู้ประกอบการก่อสร้างของเมียนมา (MCEF) ให้ข้อมูลว่าการก่อสร้างเมียนมาชะลอตัวลงราว 30% เนื่องจากการขาดแคลนวัสดุก่อสร้างที่นำเข้าและบางส่วนได้หยุดชั่วคราวเนื่องจากปัญหากระแสเงินสด ประมาณ 70%  ของโครงการยังคงทำงานตามปกติแต่สถานการณ์ยังไม่เลวร้ายนัก จากผลกระทบของการระบาด COVID-19 โครงการก่อสร้างต้องหยุดลงหากรัฐบาลเรียกร้องให้มีการหยุดโครงการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส คนงานได้รับอนุญาตให้กลับบ้านเกิดของพวกเขาหากพวกเขาต้องการและโครงการก่อสร้างดำเนินงานไปบางส่วน เพื่อรักษางานและเพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไป

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/construction-contraction-due-virus-outbreak.html

คณะกรรมการป้องกันและควบคุมของ Covid-19 ขอความร่วมประชาชนในการดาเนินการป้องกัน Covid-19 อย่างเคร่งครัด

คณะกรรมการระดับชาติที่รับผิดชอบการป้องกันและควบคุมของ Covid-19 (Taskforce) ได้เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนทั่วประเทศดำเนินการตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีอย่างมีประสิทธิภาพเนื่องจากจำนวนผู้ป่วยไวรัสเพิ่มขึ้นเป็น 9 คนในปัจจุบัน ทั้งนี้รัฐบาลได้กำหนดมาตรการสำคัญเพื่อจากัด การเคลื่อนไหวอย่างอิสระ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนจนถึงวันที่ 19 เมษายน ยกเว้นเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ต่อสู้กับ Covid-19 รวมถึงงานสาคัญอื่น ๆ มาตรการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเนื่องจากรัฐบาลเชื่อว่าหากยังมีการพบปะกันของประชาชนในระยะยาวจะทำให้มีการแพร่เชื้อไวรัสสู่ผู้อื่นได้ ทั้งนี้ปัจจุบันไม่เพียงแค่การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 เท่านั้นที่สปป.ลาวกาลังเผชิญแต่ปัญหาในเรื่องฝุ่น P.M. 2.5 ก็ยังพบว่ามีค่าเกินมาตราฐานในหลายพื้นที่โดยเฉพาะบริเวณที่ติดชายแดนทางตอนเหนือของไทย ทำให้มาตราการที่ออกมาดังกล่าวจะต้องครอบคลุมในการแก้ปัญหาค่าฝุ่นที่เกินมาตราฐานด้วย รัฐบาลเชื่อว่าหากประชาชนให้ความร่วมมือได้อย่างมีประสิทธิภาพจะทำให้ปัญหาที่เผชิญในปัจจุบันบรรเทาลงและกลับมาฟื้นตัวได้ในอนาคต

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Taskforce.php

รัฐบาลสปป.ลาวแจ้วสถานทูตต่างประเทศในสปป.ลาวถึงมาตราการป้องกัน COVID -19

รัฐบาลสปป.ลาวได้จัดการประชุมระหว่างรัฐบาลและสถานทูตต่างประเทศ ผู้แทนทางการทูตและองค์กรระหว่างประเทศในสปป.ลาวเพื่อทำความเข้าใจและวางแผนแก้ไขปัญหาที่พวกเขาอาจเผชิญในระหว่างการปิดตัวของสปป.ลาวเพื่อต่อสู้กับการระบาดใหญ่ของโควิด -19 โดยในที่ประชุมมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนาย Saleumxay Kommasith เป็นประธานได้กล่าวว่า“ เราจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อสื่อสารกับต่างชาติที่อาศัยและทางานในสปป. ลาวในมาตรการใด ๆ ที่รัฐบาลจะดาเนินการต่อไปเพื่อตอบสนองต่อ Covid-19 โปรดทราบว่าเราจะดำเนินการผ่านเว็บไซต์ของกระทรวงต่างประเทศของเราหากรัฐบาลดำเนินมาตรการเพิ่มเติม ” คาสั่งของนายกรัฐมนตรีใหม่นี้ครอบคลุมถึงมาตรการที่เข้มงวดเกี่ยวกับการข้ามประเทศและการเดินทางภายในประเทศลาว ทั้งนี้เป็นไปเพื่อความปลอดภัยของประชาชนชาวสปป.ลาวและผู้อยู่ในสปป.ลาวทุกคน

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos64.php