9 เดือน เมียนมาส่งออกไปญี่ปุ่น แตะ 694 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา เผย มูลค่าการส่งออกไปญี่ปุ่นในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (ต.ค.63 – มิ.ย.64) ของปีงบประมาณ 63-64 แตะระดับ 694.964 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  เมียนมาได้ดุลการค้า 271.7 964 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมูลค่าการค้าระหว่างประเทศอยู่ที่ 966.66 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีงบประมาณปัจจุบัน ดังนั้นญี่ปุ่นจึงถูกจัดเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่อันดันสามของเมียนมาร์ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เสื้อผ้าสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์ทางทะเล ข้าว งาดำ ถั่วเขียว ยางและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ด้านการนำเข้าจะเป็นเครื่องจักรและอุปกรณ์เ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ปุ๋ย เคมีภัณฑ์ ยา รถยนต์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ข้อมูลของคณะกรรมการการลงทุนและการบริหารบริษัท (DICA) พบว่า ปีงบประมาณนี้ มีบริษัทสามแห่งจากญี่ปุ่นได้รับการอนุมัติให้ลงทุน 518 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเมียนมา ซึ่งญี่ปุ่นมีสัดส่วนการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมากกว่า 34.7% ในเขตเศรษฐกิจพิเศษติลาวา อีกทั้งองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่นหรือ JICA ได้เสนอเงินกู้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ หรือ ODA (Official Development Assistance) เพื่อพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของเมียนมา

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/exports-to-japan-top-694-mln-in-nine-months/#article-title

ญี่ปุ่นเร่งกระจายการลงทุนไปยังหลายพื้นที่เศรษฐกิจ รวมถึงกัมพูชา

กัมพูชาและญี่ปุ่น เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 22 ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยมีสมาชิกภาคเอกชนเข้าร่วมมากกว่า 130 คน โดยจะร่วมหารือมุ่งเน้นไปที่ค่าแรงขั้นต่ำ ภาษี การขนส่ง และการสร้างความเข้าใจต่อห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศกัมพูชามากขึ้น ตามคำแถลงของสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ซึ่ง CDC รายงานถึงการอนุมัติโครงการการลงทุนทั้งหมด 145 โครงการ มูลค่ารวม 2.8 พันล้านดอลลาร์ โดยมี 66 โครงการตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งนักลงทุนญี่ปุ่นถือเป็นส่วนสำคัญต่อภาคการลงทุนในกัมพูชา สู่การพัฒนาระบบเศรษฐกิจในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการผลิตที่นอกเหนือจากอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมสำคัญของกัมพูชา เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับภาคธุรกิจในกัมพูชา และถือเป็นการลดความเสี่ยงในภาคธุรกิจ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50927114/japanese-investments-to-diversify-economy-praised/

ผู้บริโภคชาวญี่ปุ่น ชื่นชอบเม็ดมะม่วงหิมพานต์ของเวียดนาม

ตามข้อมูลของศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (ITC) เผยว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ญี่ปุ่นนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์ มูลค่า 33.17 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 11.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยเฉพาะญี่ปุ่นลดการนำเข้าเม็ดมะม่วงหิมพานต์จากอินเดียอย่างมาก ถือเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์ดังกล่าวรายใหญ่ที่สุด ส่งผลให้มูลค่าลดลง 22.8% อยู่ที่ 19.14 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในทางตรงกันข้ามนั้น ญี่ปุ่นนำเข้าเม็ดมะม่วงหิมพานต์เพิ่มขึ้น 4.5% เป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 12.92 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยส่วนแบ่งการตลาดของเม็ดมะม่วงหิมพานต์ของเวียดนามสำหรับการนำเข้ารวมของญี่ปุ่น คิดเป็น 38.97% ของการนำเข้ารวม ตั้งแต่เดือนม.ค.-พ.ค. สูงกว่า 33.09% เมื่อเทียบกับ 5 เดือนแรกของปีที่แล้ว

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/more-japanese-consumers-prefer-vietnamese-cashew-nuts/206853.vnp

การค้าระหว่างกัมพูชาและญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็น 1.1 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงครึ่งแรกของปี

การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ รายงานจากองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) แสดงให้เห็นว่าตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายน กัมพูชาส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังญี่ปุ่นมูลค่ารวม 814 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะเดียวกัน กัมพูชาทำการนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นมูลค่ารวมประมาณ 295 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 35 รวมปริมาณการค้าทวิภาคีมูลค่า 1.109 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าส่งออกสำคัญของกัมพูชาไปยังญี่ปุ่น ได้แก่ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เฟอร์นิเจอร์ เครื่องสำอาง กระดาษ เครื่องใช้สำนักงาน และเครื่องหนัง เป็นต้น ส่วนกัมพูชานำเข้าเครื่องจักร รถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เฟอร์นิเจอร์ ผ้า และพลาสติก จากประเทศญี่ปุ่นเป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50917490/cambodia-japan-trade-surges-in-first-half-of-2021-to-1-1-billion/

กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชาหารือญี่ปุ่นส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร

กัมพูชาและญี่ปุ่นได้ร่วมประชุมระหว่างกันเพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีการส่งเสริมโครงการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในกัมพูชา โดยอธิบดีกระทรวงการท่องเที่ยวด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวและความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้จัดการประชุมทางวิดีโอกับ Naoya Okada ผู้แทนจากสถานทูตญี่ปุ่น และ Katsuhito Nabeshima ผู้ก่อตั้งบริษัท Yamato Green Co. Ltd. ซึ่ง Yamato Green ถือเป็นบริษัทญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในกรุงพนมเปญ ที่ใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงการเกษตรในกัมพูชา ยกระดับคุณภาพอาหารและความปลอดภัย รวมถึงส่งเสริมผลิตผลในท้องถิ่นในต่างประเทศ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและ Yamato Green ตกลงที่จะร่วมพัฒนาภาคการท่องเที่ยว ให้เกิดความหลากหลาย ในด้านของการท่องเที่ยวเชิงเกษตร การท่องเที่ยวตามธรรมชาติ การท่องเที่ยวชุมชน และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ซึ่งกระทรวงกำลังเตรียมโครงการนำร่องเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ในจังหวัดกำปงธม และโครงการปลูกพืชไร่ปลอดสารพิษ โดยภาคการท่องเที่ยวมีสัดส่วนเกือบร้อยละ 23 ของ GDP ซึ่งรัฐบาลกล่าวว่าภาคส่วนนี้จะเพิ่มอีกร้อยละ 1.6 ในปี 2021

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50916487/tourism-chief-holds-talks-with-japan-on-boost-to-agri-tourism/

ญี่ปุ่นเจรจาส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรภายในกัมพูชา

กัมพูชาและญี่ปุ่นร่วมหารือเกี่ยวกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร การพัฒนาและการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวหลังสิ้นสุดการระบาดของโควิด-19 โดยอธิบดีกรมการพัฒนาการท่องเที่ยวกัมพูชาร่วมกับพันธมิตรญี่ปุ่น ได้จัดการเตรียมความพร้อมสำหรับโครงการท่องเที่ยวเชิงเกษตรเพื่ออำนวยความสะดวกในการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศกัมพูชาหลังสิ้นสุดการระบาดใหญ่ ซึ่งคาดว่าการฟื้นตัวจะได้รับการส่งเสริมโดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและเชิงอนุรักษ์รูปแบบใหม่ ภายใต้ Green Belt ตลอดจนการส่งเสริมมูลค่าเพิ่มในการท่องเที่ยว ด้วยความร่วมมือนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวจึงได้จัดทำโครงการนำร่องการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและเทคนิคการเพาะปลูกสมัยใหม่ในอำเภอบาราย จังหวัดกำปงธม ซึ่งเป้าหมายของโครงการคือการศึกษาและค่อยๆ พัฒนาภาคการท่องเที่ยวเชิงเกษตรผ่านการปลูกผักและผลไม้ให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารสมัยใหม่ นอกจากนี้ยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและอำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิตของคนในท้องถิ่นอีกด้วย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50915060/cambodia-and-japan-in-talks-to-promote-agro-tourism-and-recovery-of-tourism-sector-post-pandemic/

กระทรวงเศรษฐกิจการคลังกัมพูชาร่วมกับสถานทูตญี่ปุ่นจัดเสวนาให้กับนักลงทุน

กรมสรรพากร หน่วยงานภายใต้กระทรวงเศรษฐกิจการคลังกัมพูชา และสถานทูตญี่ปุ่นประจำกัมพูชา ร่วมกันจัดเสวนาเกี่ยวกับการพิจารณาอัตราภาษี สำหรับนักลงทุนชาวญี่ปุ่นที่ดำเนินธุรกิจกัมพูชาหรือนักลงทุนผู้ที่สนใจลงทุนในกัมพูชา รวมถึงการตั้งเป้าหมายในการร่วมพัฒนาสภาพแวดล้อมด้านการลงทุนในกัมพูชา เพื่อส่งเสริมการลงทุนและความสะดวกในการทำธุรกิจ ซึ่งจากข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2021 กัมพูชาได้รับเงินลงทุนโดยตรงจากญี่ปุ่นรวมมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ ครอบคลุม 144 โครงการ ในการสนับสนุนสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50908193/gdt-and-japanese-embassy-hosts-virtual-discussion-with-investors/

7 เดือนของปีงบ 63-64 ยอดส่งออกไปญี่ปุ่น พุ่ง 582 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา เผย มูลค่าการส่งออกไปญี่ปุ่นในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา (ต.ค.63-เม.ย.64) ของปีงบประมาณปัจจุบัน 63-64 อยู่ที่ 582.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่าเพียง 231.87 ล้านดอลาสร์สหรัฐฯ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เสื้อผ้าสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์ทางทะเล ข้าว งาดำ ถั่วเขียว ยางและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ส่วนการนำเข้าจะเป็นเครื่องจักรและอุปกรณ์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ปุ๋ย เคมีภัณฑ์ ยา รถยนต์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ มูลค่าการค้าของทั้ง 2 ประเทศ ในปีงบประมาณ 62-63 อยู่ที่ 1.92 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ปีงบประมาณ 61-62 อยู่ที่ 1.89 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ปีงบประมาณ 60-61 อยู่ที่ 1.92 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ปีงบประมาณ 59-60 อยู่ที่ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และปีงบประมาณ 58-59 อยู่ที่ 1.84 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามลำดับ ญี่ปุ่นมีสัดส่วนการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมากกว่า 34.7% ในเขตเศรษฐกิจพิเศษติลาวา ขณะที่องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) ได้เสนอเงินกู้ ODA เพื่อนำไปพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม

ที่มา: https://gnlm.com.mm/exports-to-japan-cross-582-mln-in-seven-months/

ญี่ปุ่นมอบเงิน 3 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

รัฐบาลญี่ปุ่นตกลงที่จะให้เงินช่วยเหลือจำนวน 313 ล้านเยน (ประมาณ 3 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในสปป.ลาว เงินทุนดังกล่าวจะถูกเบิกจ่ายภายใต้โครงการทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งมอบทุนการศึกษาสำหรับข้าราชการระดับกลางและระดับท้องถิ่นเพื่อศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น โครงการนี้จะช่วยให้ข้าราชการรุ่นเยาว์ของสปป.ลาวได้ขยายความรู้และทักษะเพื่อตอบสนองความต้องการในการพัฒนาของลาว ญี่ปุ่นถือเป็นผู้บริจาคเงินช่วยเหลืออันดับต้นๆ ให้กับสปป.ลาวและมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือระหว่างประเทศ                      ในปี 2560 ญี่ปุ่นเป็นผู้ลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศรายใหญ่อันดับที่ 6 ในสปป.ลาว นอกจากนี้ญี่ปุ่นยังได้ช่วยสปป.ลาวในการรับมือกับการระบาดใหญ่ของโควิด-19 รวมถึงการฟื้นตัวจากปัญหาเศรษฐกิจท้ายที่สุดนายทาเควากาตัวแทนรัฐบาลญี่ปุ่น กล่าวเพิ่มเติมว่าเขาเชื่อว่าโครงการทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์จะมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในสปป.ลาวและกระชับความสัมพันธ์และมิตรภาพระหว่างสปป.ลาวและญี่ปุ่น

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Japan137.php

ปริมาณการส่งออกสินค้าของญี่ปุ่นมายังกัมพูชาเพิ่มสูงขึ้น

องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) กล่าวถึง Global Trade Atlas ที่ระบุว่าการส่งออกตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายนเพิ่มขึ้นเป็น 204.046 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 34.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในทางกลับกันการส่งออกของกัมพูชาไปยังญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 สู่ 639.475 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาเดียวกัน โดยหอการค้ากัมพูชารายงานตัวเลขการส่งออกที่สูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งกัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 ในช่วง 4 เดือนแรกของปี รวมมูลค่า 643 ล้านดอลลาร์ โดยสินค้าส่งออกสำคัญของกัมพูชาที่ได้ทำการส่งออกไปยังญี่ปุ่น ได้แก่ สิ่งทอ รองเท้า เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์สำนักงาน เครื่องหนัง เครื่องสำอาง กระดาษ และเหล็กกล้า ส่วนสินค้าส่งออกของญี่ปุ่นมายังกัมพูชา ได้แก่ เครื่องจักร รถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เฟอร์นิเจอร์ ผ้า และพลาสติก เป็นต้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50879441/japanese-exports-to-cambodia-surge/