งานหัตถกรรมไม้เริ่มเป็นที่นิยมอย่างมากในเมียนมา
งานหัตถกรรมไม้เหล่านี้มีการผลิตและจำหน่ายในราคาถูกในตลาด
ท้องภายใยนประเทศ ราคาของผลิตภัณฑ์แต่ละประเภทมีราคา
ตั้งแต่ 1,000 ล้านจัต ปัจจุบันการค้าขายผ่านระบบออนไลน์ใน
ประเทศเริ่มเฟื่องฟูเป็นอย่างมาก ปัจจุบันยอดขายถาดรองอาหาร
ออนไลน์เริ่มเป็นนิยมในต่างประเทศ ยอดขายในท้องถิ่นส่วนใหญ่จะ
เป็นบาตรที่ใช้สำหรับพระไว้บิณฑบาต งานหัตถกรรมของเมียนมาที่
ทำจากไม้และสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นที่นิยมอย่างมากในขณะนี้
นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะจัดงานแสดงและขายงานหัตถกรรมจาก
ผู้ค้าในท้องถิ่นอีกด้วย
ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmars-wooden-handicrafts-marketable-at-domestic-market/#article-title
4 เดือนแรกของงบประมาณย่อย เมียนมาส่งออกข้าวไปแล้วกว่า 1 ล้านตัน
รายงานของสหพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) เผย เมียนมาส่งออกข้าวและข้าวหักมากกว่า 1.07 ล้านตันในช่วง 4 เดือนแรกของงบประมาณย่อยในปีปัจจุบัน (ต.ค. 2564 ถึงมี.ค 2565) โดยส่งออกไป 27 ประเทศมีจีนเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ ซึ่งราคาข้าวขาวคุณภาพต่ำราคาอยู่ที่ประมาณ 330-355 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน โดยราคาส่งออกค่อนข้างต่ำกว่าของไทยและเวียดนาม แต่สูงกว่าราคาตลาดของอินเดียและปากีสถาน ปัจจุบันผู้ค้าข้าวหันไปส่งออกทางทะเลแทน เนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้ต้องปิดชายแดน เมียนมาส่งข้าวและข้าวหักไปยังจีน ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน และกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป ส่วนการซื้อขายภายในประเทศค่อนข้างซบเซาท่ามกลางผลผลิตที่ออกมาล้นตลาด เมียนมามีรายได้กว่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการส่งออกข้าวในปีงบประมาณ 2562-2563 โดย ณ วันที่ 30 ก.ย.2564 คาดว่าปริมาณข้าวจะอยู่ที่ 2.5 ล้านตัน จะสร้างรายได้ 700.13 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการส่งออกข้าวและข้าวหัก 1.87 ล้านตันในปีงบประมาณ 2563-2564 (ต.ค.63-ก.ย.64)
ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-ships-over-1-mln-mt-of-rice-in-past-four-months/
MADB ขยายเวลาคืนเงินกู้โควิด ออกไปถึงเดือน มี.ค. 65
ธนาคารเพื่อการพัฒนาการเกษตรแห่งเมียนมา (MADB) เผย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร ได้ประกาศขยายระยะเวลาการชำระคืนเงินกู้พิเศษโควิด-19 ออกไปจนถึงสิ้นเดือนมี.คม 2565 จากเดิม ที่ให้ชำระถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2564 ได้ยืดเวลาการชำระออกไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม พ.ศ. 2565 ส่วนสินเชื่อเพื่อทำการเกษตรช่วงฤดูหนาวกำหนดให้ชำระได้จนถึง 31 ม.ค 2564 ให้ขยายไปจนถึงเป็นสิ้นเดือนก.พ. 2565 ดังนั้น MADB จึงได้แจ้งให้เกษตรกรควรติดต่อสาขาที่ได้ทำการกู้สินเชื่อไปแล้ว
ราคานำเข้าน้ำมันปาล์ม พุ่งพรวด!! ปรับขึ้นอีก 5,000 จัตต่อ viss
สมาคมผู้ค้าน้ำมันพืชเมียนมา เผย ราคาน้ำมันปาล์มขยับขึ้นเป็น 5,000 จัตต่อ viss (viss เท่ากับ 1.6 กิโลกรัม) ในปัจจุบัน ตามราคานำเข้าที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบันอยู่ที่ 1,450 ดอลลาร์ต่อตัน ขณะช่วงต้นเดือนม.ค.65 อยู่ที่เพียง 1,360 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ซึ่งบ่งชี้ว่าเพิ่มขึ้น 90 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตันภายในหนึ่งเดือน ส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มพุ่งพรวดขึ้นเป็น 5,150 จัตต่อ viss โดยธนาคารกลางแห่งเมียนมาขายน้ำมันพืช 77 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับภาคธุรกิจเพื่อจำหน่าย ปัจจุบันราคาขายปลีกน้ำมันอยู่ที่ 4,500 จัตต่อ viss ซึ่งจัดจำหน่ายโดยรถโมบายจากการประสานงานกับสมาคมฯ ทั้งนี้การบริโภคน้ำมันพืชในประเทศอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านตันต่อปี เป็นการผลิตน้ำมันประกอบอาหารมีประมาณ 400,000 ตัน เพื่อความพอเพียงในตลาดภายในประเทศจึงจำเป็นต้องนำเข้าน้ำมันปรุงอาหารประมาณ 700,000 ตันต่อปี
ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/import-price-elevates-palm-oil-price-to-over-k5000-per-viss/#article-title
ไทย เลิกเก็บภาษี ส่งออกข้าวโพดของเมียนมา
ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 65 ถึง 31 สิงหาคมการส่งออกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของเมียนมา ไปยังไทยผ่านชายแดนเมียวดีจะปลอดภาษี มีการส่งออกไปแล้วมากกว่า 2,000 ตัน แต่ยังน้อยกว่าปีที่แล้ว ซึ่งจากข้อมูลพบว่าตอนนี้มีโกดังข้าวโพดหลายแห่งในเมียวดีสามารถรองรับบรรทุกได้ถึง 500 คันต่อวัน แม้ว่าข้าวโพดจะได้รับอนุญาตให้ส่งออกไปยังจีนได้แล้ว แต่ส่งออกไปยังไทยมากกว่าเนื่องจากจีนมีการเก็บภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเกษตรกรชาวจีน ทั้งนี้การค้าระหว่างสองประเทศต้องหยุดชะงักเนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 และรถบรรทุกของไทยได้รับอนุญาตให้บรรทุกสินค้าไปยังเขตการค้าและโกดังสินค้าทางฝั่งเมียนมาได้ แต่รถบรรทุกของเมียนมายังไม่ได้รับอนุญาตวิ่งผ่านด่านแม่สอด
ส่งออกสินค้าเกษตรเมียนมาลดฮวบ 1.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
กระทรวงพาณิชย์เมียนมา เผย ณ วันที่ 21 ม.ค.65 ของงบประมาณย่อย (ต.ค. 64 ถึงมี.ค. 65) มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรดิ่งลง 1.25 พันล้านดอลลาร์ ลดลงอย่าง 375.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งมีมูลค่า 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นการส่งออกไปจีนคิดเป็นร้อยละ 90 ของการส่งออกผักและผลมืทั้งหมด ในช่วงปีงบประมาณที่ผ่านมาการปิดด่านชายแดนของจีนส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตผู้ค้าผลไม้เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ กฎระเบียบการนำเข้าและมาตรการป้องกันโควิด-19 ของจีนยังทำให้เกิดความล่าช้า ปัจจุบัน ชายแดนบางแห่งเริ่มทดลองเป็ดค้าขายเป็นบางแห่งแล้ว ในภาคการส่งออก อุตสาหกรรมการเกษตรมีทิศทางที่สดใส โดยคิดเป็นร้อยละ 37 ของการส่งออกโดยรวม สินค้าส่งออกที่สำคัญในภาคเกษตร ได้แก่ ข้าวและข้าวหัก ถั่วและข้าวโพด ผลไม้และผัก ฯลฯ ตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ บังคลาเทศ อินเดีย อินโดนีเซีย และศรีลังกาเป็น
เมียนมาตั้งเป้าส่งออกน้ำตาล 100,000 ตัน ไป เวียดนาม ในฤดูกาลนี้
Myanmar Sugar and Cane Related Products Association เผย เมียนมาตั้งเป้าส่งออกน้ำตาลประมาณ 100,000 ตันไปยังเวียดนามในฤดูเก็บเกี่ยวนี้ โดยผ่านทางทะเล ขณะที่ปีที่แล้วสามารถส่งออกได้ถึง 160,000 ตัน ที่ลดลงเหลือ 100,000 ตัน เนื่องจากผลอ้อยในประเทศน้อยลงและราคาอ้อยที่เพิ่มสูงขึ้น ปีที่แล้วราคาอ้อยอยู่ที่ 42,000-43,000 จัตต่อตันเท่านั้น ส่งผลให้ชาวไร่อ้อยประสบปัญหาขาดทุน เนื่องจากต้นทุนในการเพาะปลูกที่สูงขึ้น จึงลดการปลูกในปีนี้ลง กระทบให้ราคาเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 จัตต่อตัน ซึ่งจากข้อมูลพบว่าปีที่แล้วพื้นที่ในการปลูกอ้อยครอบคลุมพื้นที่ 450,000 เอเคอร์ของทั้งประเทศ แต่ปีนี้เหลือเพียง 430,000 เอเคอร์
รถโมบายขายน้ำมันปาล์ม เริ่ม เร่ขายแล้วในเขตย่างกุ้ง
สมาคมผู้ค้าน้ำมันของเมียนมา เผย น้ำมันปาล์มเริ่มจำหน่ายผ่านรถโมบายเคลื่อนที่ในพื้นที่เขตย่างกุ้ง ในราคาถูกกว่าราคาผ่านผู้ค้าส่ง ผู้ค้าปลีก หลังจากที่ถูกระงับชั่วคราวและกลับมาดำเนินการในวันที่ 14 ม.ค. 2565 ที่ผ่านมา ปัจจุบันราคาน้ำมันปาล์มแตะ 4,800 จัตต่อ viss (1 viss เท่ากับ 1.6 กิโลกรัม) ในตลาดย่างกุ้ง โดยอ้างอิงจากอัตราของธนาคารกลางแห่งเมียนมา (CBM) และนำมาขายในราคายุติธรรม 4,400 จัตต่อ viss ปัจจุบันราคาปรับตัวสูงขึ้นบ้างตามค่าเงินจัตที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้การบริโภคน้ำมันบริโภคภายในประเทศอยู่ที่ประมาณหนึ่งล้านตันต่อปี แบ่งเป็นการผลิตน้ำมันประกอบอาหารมีประมาณ 400,000 ตัน ส่วนน้ำมันปรุงอาหารประมาณ 700,000 ตัน จะนำเข้าจากมาเลเซียและอินโดนีเซียในทุกๆ ปี