‘เวียดนาม’ เผยยอดการลงทุน FDI ไหลเข้าประเทศอย่างต่อเนื่อง

เวียดนามดึงดูดเงินลงทุนที่จดทะเบียนใหม่จากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) อยู่ที่ 13.82 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นราว 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่ยอดเงินทุนที่เบิกจ่าย มีมูลค่า 6.74 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งของนักลงทุนในตลาดเวียดนาม โดยเฉพาะในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทานโลก ทั้งนี้ นาย Cấn Văn Lực สมาชิกสภาที่ปรึกษาเชิงนโยบายของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าในปัจจุบัน สิงคโปร์เป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดที่เข้ามาลงทุนในเวียดนาม มูลค่า 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 28.6% ของยอดเงินทุนจดทะเบียนใหม่ รองลงมาจีน ญี่ปุ่น ตามลำดับ ในขณะที่อุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป ยังคงครองส่วนแบ่งทางการตลาด 81% ของเม็ดเงินทุน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของเวียดนามในการดึงดูดการลงทุนในภาคเทคโนโลยีขั้นสูงและภาคส่วนที่มีมูลค่าเพิ่มอย่างชัดเจน

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1718404/foreign-direct-investment-continues-to-pour-into-viet-nam.html

‘เม็ดเงิน FDI’ ไหลเข้าเวียดนาม พุ่ง 40% ในช่วง 4 เดือนแรกปี 68

ตามข้อมูลของสำนักงานการลงทุนจากต่างประเทศ กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่ายอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่ไหลเข้ามายังเวียดนามในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 มีมูลค่าราว 13.82 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 39.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) ทั้งนี้ จากตัวเลข ทุนจดทะเบียนใหม่ ลดลง 23.8% คิดเป็นมูลค่า 5.59 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินทุนเข้าโครงที่มีอยู่ในปัจจุบัน กลับเพิ่มขึ้น 3.9 เท่า มูลค่าราว 6.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเม็ดเงินทุนในการลงทุนและซื้อหุ้น อยู่ที่ 1.83 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ นักลงทุนชาวเอเชียยังคงครองส่วนแบ่งทางการตลาดโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มากที่สุด โดยเฉพาะนักลงทุนชาวสิงคโปร์ที่มีการลงทุนในเวียดนามมากที่สุด ด้วยมูลค่า 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาเกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น และฮ่องกง ตามลำดับ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/fdi-inflow-into-vietnam-surges-by-nearly-40-in-four-months-post318753.vnp

‘FDI’ ไหลเข้าฮานอย พุ่ง 30% ในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้

ตามข้อมูลของหน่วยงานส่วนท้องถิ่น เปิดเผยว่ามีธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งใหม่ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 ทั้งหมด 9,400 ราย ลดลง 2.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) และทุนจดทะเบียนรวม ลดลง 22.3%YoY อย่างไรก็ตาม ยังมีธุรกิจที่กลับมาดำเนินกิจการ จำนวนราว 4,800 ราย เพิ่มขึ้น 5.5%YoY ขณะเดียวกัน จากข้อมูลสถานการณ์การจดทะเบียนธุรกิจในเดือนมีนาคม 2568 พบว่ามีธุรกิจจัดตั้งใหม่ในเมืองฮานอย 2,634 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 24.4 ล้านล้านดอง และธุรกิจที่กลับมาดำเนินกิจการ จำนวน 967 ราย ทั้งนี้ ยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 อยู่ที่ 1.48 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 31%YoY ประกอบไปด้วยโครงการใหม่ 114 โครงการ (41 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตามมาด้วยโครงการที่มีการระดมทุน 45 โครงการ (ราว 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และการลงทุนหรือการซื้อหุ้น 111 โครงการ (241 ล้านเหรียญสหรัฐ)

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/fdi-inflows-into-hanoi-soar-over-30-in-four-months-post318655.vnp

‘เซมิคอนดักเตอร์’ หนุนอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของเวียดนาม

สำนักงานการลงทุนต่างประเทศ กระทรวงวางแผนและการลงทุน เปิดเผยว่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในเวียดนาม ปี 2567 มีมูลค่า 38.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเม็ดเงินลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในโครงการขนาดใหญ่ ได้แก่ เซมิคอนดักเตอร์ พลังงาน และการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ในขณะเดียวกัน นายโทมัส รูนีย์ (Thomas Rooney) รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารอุตสาหกรรมของบริษัท Savills Hanoi กล่าวว่าเวียดนามกำลังก้าวขึ้นมาเป็นจุดหมายปลางทางเชิงกลยุทธ์ของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เนื่องจากเวียดนามมีข้อได้เปรียบทำเลที่ตั้งในห่วงโซ่อุปทานโลก รวมถึงการลงทุนในโครงการเทคโนโลยีขั้นสูง และจัดตั้งศูนย์วิจัย ผลักดันโครงสร้างพื้นฐานและโรงงานต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ เวียดนามยังมีแรงงานจำนวนมาก นนโยบายที่สนับสนุนโครงการเทคโนโลยีขั้นสูง และการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้เวียดนามเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดของนักลงทุนต่างชาติ และผลักดันให้เวียดนามเป็นศูนย์กลางการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูงอีกด้วย

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/hi-tech-semiconductor-sectors-promote-vn-s-industrial-property-development-2372091.html

‘เศรษฐกิจเวียดนาม’ เติบโตดี จากแรงหนุนลงทุน-การบริโภค

นายอดัม ซัมดิน (Adam Samdin) ผู้ช่วยนักเศรษฐศาสตร์ขององค์กรวิจัยพยากรณ์เศรษฐกิจระดับโลก ‘Oxford Economics’ กล่าวว่าเศราฐกิจเวียดนามมีการเติบโตที่โดดเด่น ได้แรงหนุนมาจากภาคการผลิตที่แข็งแกร่งและอุปสงค์ในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น มีผลทำให้เศรษฐกิจขยายตัวไปข้างหน้า แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามนั้น แทนที่จะพึ่งพาอุปสงค์ภายนอก กลับกันเวียดนามได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศ โดยเฉพาะไตรมาสที่ 3-4

นอกจากนี้ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ มีส่วนสำคัญต่อการสนับสนุนการส่งออกของเวียดนามประมาณ 75% เนื่องมาจากธุรกิจที่ลงทุนจากต่างประเทศ ได้รับประโยชน์จากนโยบายรัฐบาล ซึ่งได้สร้างเงื่อนไขเชิงโครงสร้างที่เอื้อประโยชน์ต่อการส่งออกของประเทศ รวมถึงยังตั้งข้อสังเกตว่าการเติบโตของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากบริษัทข้ามชาติกระจายตลาด เพื่อลดความเสี่ยง

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnamese-economy-thrives-on-investment-and-consumption-growth-drivers-post1147117.vov

‘เวียดนาม’ เผยดึง FDI ช่วง 5 เดือนแรกปี 67 ทะลุ 11.07 พันล้านเหรียญสหรัฐ

สำนักงานการลงทุนต่างประเทศ กระทรวงการวางแผนและการลงทุน (MPI) เปิดเผยว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในเวียดนาม ช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่จากข้อมูล ณ วันที่ 30 พ.ค. พบว่าเวียดนามมีโครงการลงทุน 40,285 โครงการ และมีมูลค่าทุนจดทะเบียน 481.33 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ ภาคการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ เกินดุลการค้า 19.57 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ภาคในประเทศ ขาดดุลการค้า 11.05 พันล้านเหรียญสหรัฐ

นอกจากนี้ สาขาการผลิตและแปรรูปยังคงได้รับเงินลงทุนจากต่างประเทศมากที่สุด มีมูลค่าเกินกว่า 7.43 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วน 67.1% ของจำนวนเงินทั้งหมด เพิ่มขึ้น 11.9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว รองลงมาสาขาอสังหาริมทรัพย์ มีมูลค่าราว 1.98 พันล้านเหรียญสหรัฐ และสาขาการค้าส่งค้าปลีก การขนส่งและการจัดเก็บสินค้า มีมูลค่ากว่า 856.4 ล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1656338/fdi-reaches-us-11-07-billion-in-first-five-months-of-2024.html

‘สถาบันวิจัย’ คาดเศรษฐกิจเวียดนามปีนี้ ขยายตัว 6%

สถาบันวิจัยเศรษฐกิจและนโยบายของเวียดนาม (VEPR) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเวียดนามในปี 2567 จะขยายตัว 5.6% – 6% โดยได้ปัจจัยหนุนมาจากการส่งออก การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศและภาคอุตสาหกรรม ในขณะที่อุปสงค์ในประเทศยังคงอ่อนแอ ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาถึงแนวโน้มทางเศรษฐกิจของเวียดนามในปีนี้ จะเห็นได้ว่าทิศทางของเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวในไตรมาสแรก บ่งชี้ให้เห็นสัญญาณเชิงบวก อย่างไรก็ดียังมีความไม่แน่นอนอยู่ นอกจากนี้ เวียดนามยังได้รับผลกระทบจากความล่าช้าในการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออก การลงทุนจากต่างประเทศและการผลิตของภาคอุตสาหกรรม

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1655818/vepr-forecasts-vietnamese-economy-growth-at-below-6-per-cent.html

‘สื่อ’ เผยการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในเวียดนาม ส่งสัญญาเขิงบวก ปี 2567

ตามรายงานของเว็บไซต์ข่าว ‘Vietnam Briefing’ เปิดเผยว่าภาพรวมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในเวียดนาม ปี 2567 มีแนวโน้มที่จะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และจากรายงานดังกล่าวได้อ้างข้อมูลของสำนักงานการค้าต่างประเทศที่ระบุว่าเวียดนามได้รับเม็ดเงินลงทุน FDI ของเดือน ม.ค. และ ก.พ. มูลค่ามากกว่า 4.29 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 38.6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่มูลค่าการเบิกจ่ายเงินลงทุนในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ มีอุตสาหกรรมที่ได้รับเงินลงทุนจากต่างประเทศหลายภาคส่วน ได้แก่ เทคโนโลยี พลังงานทดแทน สุขภาพ การธนาคารและอสังหาริมทรัพย์ ในขณะเดียวกัน เวียดนามยังมีนโยบายที่เป็นมิตรกับนักลงทุน รวมถึงการลดหย่อนภาษีและมีศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่จะจัดตั้งในเมืองฮานอยและโฮจิมินห์ ทำให้เวียดนามเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนต่างชาติที่กำลังมองหาโอกาสการเติบโตในระยะยาวที่ยั่งยืน

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/fdi-flows-in-vietnam-forecast-to-boom-this-year/283248.vnp

CDC อนุมัติการลงทุนให้แก่บริษัท 12 แห่ง มูลค่า 66.6 ล้านดอลลาร์

สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ได้อนุมัติโครงการลงทุน 12 โครงการ มูลค่ารวม 66.6 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าจะสร้างโอกาสในการจ้างงานมากกว่า 12,000 ตำแหน่ง ครอบคลุมกิจกรรมการผลิตอุปกรณ์กีฬา โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า รองเท้า โรงงานผลิตอาหารสัตว์ โรงงานผลิตโคมไฟ และโรงงานผลิตสี โดย CDC ได้รายงานเสริมว่านับตั้งแต่ต้นปี 2023 จนถึงเดือนกันยายน ได้อนุมัติโครงการการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) รวม 191 โครงการ เพิ่มขึ้นร้อยละ 27 เมื่อเทียบกับจำนวนโครงการในช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีทุนจดทะเบียนรวมกว่า 45.8 พันล้านดอลลาร์ ณ ไตรมาสแรกของปี 2023 ด้านธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) รายงานเสริมว่าแหล่งเงินทุนหลักยังคงมาจากทางประเทศ จีน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เวียดนาม มาเลเซีย ไทย และสหราชอาณาจักร เป็นสำคัญ โดยการไหลเข้าของ FDI ครอบคลุมภาคส่วนสำคัญต่างๆ เช่น ภาคการเงิน การผลิต อสังหาริมทรัพย์ โรงแรมและรีสอร์ท ไปจนถึงเกษตรกรรม พลังงานทดแทน และการก่อสร้าง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501385590/cdc-nod-for-12-manufacturing-investments-worth-66-6m/

“เวียดนาม” กลายมาเป็นตลาดบริการรับฝากเซิร์ฟเวอร์ที่น่าสนใจ ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ

จากรายงานของ KPMG ล่าสุดที่เผยแพร่เมื่อต้นเดือนนี้ พบว่าเวียดนามอยู่ในอันดับที่ 7 ของตลาดเกิดใหม่ชั้นนำที่ให้บริการเช่าพื้นที่สำหรับการวางเซิร์ฟเวอร์ (Server) และคาดการณ์ว่าขนาดตลาดจะพุ่งสูงขึ้นแตะ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2569 ทั้งนี้ คุณ Meir Tlebalde ผู้อำนวยการของบริษัท KPMG ประจำเวียดนาม กล่าวกับหนังสือพิมพ์ Vietnam Investment Review ว่าการลงทุนทางด้านเทคโนโลยีขนาดใหญ่มักจะเกิดขึ้นกับตลาดเทียร์-1 เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง ซิดนีย์และโตเกียว คิดเป็นสัดส่วน 82% ของขนาดข้อมูลทั้งหมดในเอเชียแปซิฟิก อย่างไรก็ดี ตลาดเทียร์-1 กำลังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนที่ดินจำนวนมากที่ใช้ในการพัฒนาและต้นทุนของพลังงานทดแทนที่มีราคาสูง เป็นต้น อีกทั้ง จากข้อมูลของ Tlebalde ชี้ให้เห็นว่าตัวขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญของตลาดให้บริการเช่าพื้นที่สำหรับการวางเซิร์ฟเวอร์ของเวียดนาม มาจากต้นทุนที่ต่ำที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และระบบอินเทอร์เน็ตที่มีศักยภาพ ประกอบกับแหล่งพลังงานที่เชื่อถือได้ในราคาต้นทุนที่ต่ำที่สุดในภูมิภาค และการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่เร่งดีดตัวขึ้นอย่างก้าวกระโดด

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-becomes-attractive-colocation-markets-for-foreign-investors-2151582.html