กัมพูชาจ่อออก Golden Visa ให้กับนักลงทุนไทย

กัมพูชาเปิดตัวโครงการ “My 2nd Home” เพื่อสนับสนุนการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในกัมพูชา โดยโปรแกรมนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างนึงว่า “Golden Visa” ซึ่งจะให้วีซ่ากับนักลงทุนเป็นเวลา 10 ปี โดยไม่จำกัดการเข้าออกประเทศ ควบคู่ไปกับสิทธิประโยชน์อื่นๆที่ทางการกัมพูชาจะมอบให้ ซึ่งผู้ที่ต้องการที่จะสมัครวีซ่าดังกล่าว จะต้องเป็นนักลงทุนชาวต่างชาติที่มีเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 100,000 ดอลลาร์ในกัมพูชา และเป็นบุคคลที่รัฐบาลกัมพูชารับรอง โดยไม่จำเป็นต้องมีวุฒิการศึกษาหรือความสามารถทางภาษา ซึ่งนักลงทุนต่างชาติที่ได้รับวีซ่าข้างต้นจะได้รับประโยชน์ในการเข้าถึงประกันและการรักษาพยาบาลแบบวีไอพี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501108375/cambodia-goes-head-on-with-thailand-in-implementing-10-year-golden-visa/

สิ้นเดือนพ.ค.ของปีงบฯ 65-66 เงินลงทุนจากต่างประเทศเข้าสู่เมียนมา ดิ่งลง 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

คณะกรรมการการลงทุนและการบริหารบริษัทของเมียนมา (DICA) ณ สิ้นเดือนพ.ค.2565 ของปีงบประมาณ 2565-2566 เงินลงทุนจากต่างประเทศเพียง 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ไหลเข้าสู่เมียนมา เป็นการลงทุนจากจีนจำนวน 9.017 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไต้หวันระดมทุน 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  ฮ่องกง 1.215 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และญี่ปุ่น.1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดย 6 เดือนแรก สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีการลงทุนในเมียนมามากที่สุด มีมูลค่าการลงทุนมากกว่า 297 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ โครงการลงทุนที่นักลงทุนต่างชาติให้ความสำคัญส่วนใหญ่เป็นโครงการที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาประเทศ เช่น  1) การผลิตปุ๋ย 2) การผลิตปูนซีเมนต์ 3) การผลิตเหล็ก 4) เกษตรกรรมและปศุสัตว์และที่เกี่ยวข้อง: 5) การผลิตอาหารและสร้างมูลค่าเพิ่ม 6) การผลิตยานยนต์ไฟฟ้า7) การผลิตยาและอุปกรณ์การแพทย์  และ 8) การขนส่งสาธารณะ

ที่มา : https://news-eleven.com/article/232391

‘FDI เวียดนาม’ ช่วง 2 เดือนแรก 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ

กรมส่งเสริมการลงทุนต่างประเทศ (FIA) กระทรวงวางแผนและการลงทุนของเวียดนาม (MPI) เปิดเผยว่าเวียดนามดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ได้ราว 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 91.5% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ทั้งนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 20 ก.พ. เวียดนามอนุมัติโครงการ FDI ใหม่จำนวน 183 โครงการ ด้วยทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 631.8 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจำนวนโครงการใหม่เพิ่มขึ้น 45.2% แต่เงินทุนลดลง 80.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี อีกทั้ง นักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่เข้าไปลงทุนในภาคอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป 3.13 พันล้านเหรีญสหรัฐ รองลงมาอสังหาริมทรัพย์, โครงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ การผลิตและจำหน่ายพลังงาน ตามลำดับ

นอกจากนี้ ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ สิงคโปร์เป็นแหล่งเงินทุนรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ด้วยมูลค่ากว่า 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 34.2% ของเม็ดเงินทุนต่างชาติทั้งหมด ตามมาด้วยจีน 538 ล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-attracts-nearly-5-billion-usd-of-fdi-in-two-months/222784.vnp

บริษัทไทยทุ่ม 1 พันล้านดอลล์สรัฐฯ สร้างเมืองอัจฉริยะในสปป.ลาว

รัฐบาลลาวได้ให้สัมปทานแก่บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมรายใหญ่ของประเทศไทย วางแผนที่จะลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในการก่อสร้างอมตะสมาร์ทแอนด์อีโคซิตี้ในภาคเหนือของสปป.ลาว จะเริ่มในต้นปีนี้ โดยมีโอกาสขยายตัวได้ถึง 20,000 เฮกตาร์ในระยะต่อไป เมืองอมตะสมาร์ทแอนด์อีโค มีเป้าหมายเพื่อให้บริการนักลงทุนต่างชาติในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ ผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก เครื่องจักร การแปรรูปอาหารและเครื่องดื่ม ตลอดจนเคมีภัณฑ์และยา รวมถึงโลจิสติกส์และคลังสินค้า

อีกทั้งเมืองอัจฉริยะนี้ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟนาทวย ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนจีนประมาณ 20 กม. มีสถานีรถไฟสองแห่งซึ่งทำหน้าที่เป็นประตูระหว่างอาเซียนและจีนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและการแลกเปลี่ยนทางการค้า การสร้างเมืองอัจฉริยะไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจในสปป.ลาว แต่ยังจะส่งเสริมให้นักลงทุนในภูมิภาคนี้ย้ายโรงงานของพวกเขามาที่นี่อมตะมีแผนจะเชิญบริษัทข้ามชาติและรัฐบาลจากจีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และไทย มาส่งเสริมโครงการอมตะสมาร์ทแอนด์อีโคซิตี้เพื่อพัฒนาโครงการนี้อย่างเต็มศักยภาพ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Thai_12_22.php

กัมพูชารายงานถึงโครงการลงทุนมูลค่ารวม 1.716 พันล้านดอลลาร์

หลังจากทางการกัมพูชากำหนดกฎหมายด้านการลงทุนฉบับใหม่ ซึ่งถือเป็นสิ่งจูงใจสำคัญอย่างนึงให้กับนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนยังกัมพูชา รวมถึงปัจจุบันกัมพูชาได้เข้าร่วมกลุ่ม RCEP และได้ทำการลงนามข้อตกลงการค้า FTA ร่วมกับจีน ตลอดจนได้รับสิทธิพิเศษ EBA จากสหภาพยุโรป และ GSP จากสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่จะดึงดูดการลงทุนใหม่จากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศมากขึ้น โดยกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังกัมพูชา พบว่าปัจจุบันมีโครงการลงทุนนอกเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้งหมด 107 โครงการ ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2021 ลดลง 34 โครงการเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งการลงทุนทั้งหมดมีมูลค่า 1.716 พันล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 72.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะสร้างงานใหม่ให้กับคนในประเทศประมาณ 89,000 ตำแหน่ง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501004396/investment-projects-worth-1-716-billion-registered-in-january-november/

นักลงทุนต่างชาติ เชื่อมั่นเศรษฐกิจเวียดนามฟื้นตัว

หนังสือพิมพ์ Dau Tu (Viet Nam Investment Review) รายงานว่านักลงทุนต่างชาติเข้ามาขยายการลงทุนเพิ่มเติม เพื่อขยายการผลิตในเวียดนาม สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของเวียดนาม อีกทั้ง ทางฝั่งของบริษัทยักษ์ใหญ่สัญชาติสวิส “เนสท์เล่ (Nestle)” ชี้ว่ากำลังทุ่มเงินเพิ่มอีกกว่า 130 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้มูลค่าการลงทุนในเวียดนามเพิ่มขึ้นเป็น 730 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากบริษัทอย่างเนสท์เล่แล้ว ยังมีบริษัทต่างชาติอื่นๆ ที่คงรักษาการดำเนินงานในเวียดนามต่อไป แม้จะเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) มองว่าถึงแม้เวียดนามจะเผชิญกับความท้าทายหลายอย่างในปัจจุบันที่เกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส แต่ธุรกิจญี่ปุ่นในเวียดนามจะพยายามปรับตัวและพัฒนาระบบการผลิตในสถานการณ์ใหม่ นอกจากนี้ หอการค้ายุโรปในเวียดนาม ชี้ว่านักธุรกิจยุโรปยังคงเชื่อมั่นต่อรัฐบาลเวียดนามว่าจะประสบความสำเร็จในการควบคุมไวรัสโควิด-19 และตั้งใจที่จะรักษาการดำเนินงานในเวียดนามอีกต่อไป

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/foreign-investors-keep-trust-in-vietnams-recovery/208690.vnp

 

อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เวียดนาม ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ

รายงานจากเว็บไซต์ newswire vendor.com เปิดเผยบทความว่าอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เวียดนาม ยังคงเติบโตได้ดี แม้ว่าจะได้รับผลกระทบของโควิด-19 บทความดังกล่าวชี้ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เวียดนามได้ลงนามความตกลงการค้าเสรีกับประเทศอื่นๆ และนโยบายที่มีความยืดหยุ่น เพื่อจะดึงดูดนักลงทุนต่างชาติและเปิดโอกาสแก่ผู้ประกอบการ เนื่องจากอุตสาหกรรมมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเวียดนาม อีกทั้ง คาดว่าเวียดนามจะเป็นหนึ่งผู้ส่งออกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่อันดับที่ 12 ของโลก ประกอบกับยอดการส่งออกเติบโตอย่างต่อเนื่อง มูลค่าเฉลี่ย 12 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ขณะที่การนำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นราว 2 เท่า ตั้งแต่ปี 2558-2562 นอกจากนี้ เวียดนามได้ลงนามความตกลงการค้าเสรีสหภาพยุโรป-เวียดนาม ซึ่งจะสร้างโอกาสอันดีแก่ทั้งสองฝ่าย

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnams-electronics-industry-appeals-to-foreign-investors-entrepreneurcom-884404.vov

จีนยังคงเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในสปป.ลาว

จีนยังคงเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในลาว โดยดำเนินโครงการทั้งหมด 813 โครงการ มูลค่า 16,000 ล้านเหรียญสหรัฐ นาย Sonexay Siphandone รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุน กล่าวระหว่างการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งที่ 5 ระหว่างผู้ประกอบการลาวและจีนเมื่อวันศุกร์ว่าจีนยังคงเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในลาว ตามรายงานของ Lao Youth Radio จาก 53 ประเทศที่ลงทุนสปป.ในลาว จีนมีจำนวนการลงทุนมากที่สุด นาย Sonexay Siphandone กล่าวเสริม “เขตเศรษฐกิจพิเศษ ทางด่วนเวียงจันทน์-วังเวียง สวนอุตสาหกรรม และโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่เป็นพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดของการลงทุนของจีนในสปป.ลาว” อีกทั้งการรถไฟสปป.ลาว-จีน ซึ่งเป็นโครงการโครงสร้างพื้นฐานหลักของสปป.ลาว เสร็จสมบูรณ์แล้วกว่าร้อยละ 90 และคาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคมปีนี้

ที่มา : https://laotiantimes.com/2021/08/17/china-remains-the-largest-foreign-investor-in-laos-2/

นักวิเคราะห์ ชี้นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นเวียดนาม เหตุกังวลการระบาดโควิด-19

ตามรายงานของบริษัทหยวนต้า เผยว่านักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นบลูชิพ เป็นมูลค่ากว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ นักลงทุนที่เทขายหุ้นส่วนใหญ่มาจากเกาหลีใต้ ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ ไทยและอินเดีย เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของโควิด-19 ตลอดจนภาวะเงินเฟ้อโลกและค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า โดยในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเพียงเดือนเดียว มีการเทขายหุ้นเป็นมูลค่า 12 พันล้านเหรียญสหรัฐใน 6 ตลาด คิดเป็น 4% ในเวียดนาม อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นเวียดนามยังได้รับมุมมองในเชิงบวก ทั้งด้านเศรษฐกิจและศักยภาพของตลาดหุ้นที่มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/economy/foreign-investors-sell-out-blue-chips-on-covid-fears-analyst-4302717.html

ผู้เชี่ยวชาญ ชี้เวียดนามก้าวขึ้นเป็นจุดที่สดใสของนักลงทุนต่างชาติ

องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) เผยเวียดนามได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางชั้นนำของนักลงทุนชาวญี่ปุ่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบกับคาดว่าเวียดนามจะมีจำนวนประชากรสูงถึง 106 ล้านคนในปี 2593 ด้วยจำนวนคนชนชั้นกลางที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นแรงหนุนต่อภาคธุรกิจค้าปลีก ทั้งนี้ Torben Minko รองประธานหอการค้ายุโรปในเวียดนาม กล่าวว่าธุรกิจยุโรปมีความมั่นใจถึงความพยายามและมาตรการรับมือต่างๆในการต่อสู่กับโควิด-19 ของเวียดนาม อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจล่าสุดของหอการค้ายุโรป เผยว่าดัชนีบรรยากาศทางธุรกิจ (BCI) พุ่งแตะระดับ 73.9 จุด ในไตรมาสแรกของปีนี้ นับว่าเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 ก่อนเกิดการระบาด เมื่อถามถึงแนวโน้มสภาพแวดล้องทางธุรกิจเวียดนามในไตรมาสหน้า คาดว่าเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน นอกจากนี้ หน่วยงานจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลกอย่าง Moody’s, S&P และ Fitch ปรับมุมมองในทิศทางที่เป็นบวกต่อเวียดนาม