สปป.ลาว คาดสถานการณ์น้ำมันใกล้กลับมาสู่ภาวะปกติ

ผู้อยู่อาศัยภายในจังหวัดเวียงจันทน์ มีความกังวลเป็นอย่างมากเกี่ยวกับการขาดแคลนเชื้อเพลิง โดยสถานีบริการน้ำมันหลายแห่งในเมืองถูกปิดตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องจากสต็อกน้ำขาดแคลน แต่อย่างไรก็ตามภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ให้ความมั่นใจว่าเร็วๆ นี้ สถานการณ์ทางด้านน้ำมันเชื้อเพลิงภายในจังหวัดจะกลับมาสู่ภาวะปกติ ซึ่งรัฐบาลกำลังเร่งเจรจากับสมาคมเชื้อเพลิงและก๊าซแห่ง สปป.ลาว เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการนำเข้าเชื้อเพลิงจากแหล่งอื่น เนื่องจากคาดว่าสต็อกในปัจจุบันจะหมดลงภายในสิ้นเดือนนี้ และหวังว่าการนำเข้าเชื้อเพลิงจะกลับมาดำเนินการอีกครั้ง โดยปัญหาการขาดแคลนเชื้อเพลิงเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่รัฐบาลใช้มาตรการรุนแรงเพื่อรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจ ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้ช่วยป้องกันไม่ให้ค่าเงินกีบมีมูลค่าลดลง แต่อัตราเงินเฟ้อยังคงเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ โดยรัฐบาลได้พยายามลดต้นทุนการขนส่งโดยการลดค่าธรรมเนียมที่จ่ายให้กับกองทุนบำรุงรักษาถนน เช่นเดียวกับการลดภาษีและค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่จ่ายโดยธุรกิจ เพื่อไม่ให้ราคาสินค้าโดยภาพรวมสูงขึ้นไปมากกว่านี้

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2022_Association149.php

NBC คาดปีนี้ GDP กัมพูชาโต 5.3%

การฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกและการกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกครั้ง จะเป็นตัวผลักดันให้เศรษฐกิจของกัมพูชากลับมาเติบโตในปีนี้ ตามการรายงานของธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) โดยคาดว่าการเติบโตจะได้รับแรงสนับสนุนจากอุตสาหกรรมตัดเย็บเสื้อผ้า การท่องเที่ยว เกษตรกรรม และการก่อสร้าง ซึ่ง NBC คาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาจะอยู่ที่ร้อยละ 5.3 ในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 3 ในช่วงปี 2021 แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังคงต้องคอยติดตามสถานการณ์สงครามระหว่าง รัสเซีย-ยูเครน ที่เป็นผลทำให้เกิดเงินเฟ้อกับสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน ในขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนของกัมพูชาปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 94 ของประชากรทั้งหมด 16 ล้านคน ผลักดันให้รัฐบาลเร่งเปิดพรมแดนของประเทศอีกครั้ง รวมถึงได้ทำการยกเลิกมาตรการด้านสาธารณสุขสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบโดส โดยในช่วงครึ่งแรกของปีกัมพูชาส่งออกสินค้ามูลค่ารวม 11,317 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 31 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การนำเข้าปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 หรือคิดเป็นมูลค่า 15,400 ล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501123527/nbc-sees-cambodias-gdp-growth-at-5-3-in-2022/

พลังงานแจง “ราคาน้ำมัน” ไทย-อาเซียน ต่างกัน ยันน้ำมันไทยไม่ได้แพงที่สุด

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ “ราคาน้ำมัน” ตลาดโลกยังคงมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง ราคาพลังงานสูงขึ้นและบางประเทศขาดแคลนพลังงาน ส่งผลให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลก โดยนายกรัฐมนตรีมีข้อห่วงใยกำชับทุกฝ่ายให้ช่วยกันสร้างการรับรู้ให้ประชาชนมีความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องราคาน้ำมันของไทย เน้นย้ำว่า “ราคาน้ำมัน” ไทยไม่ได้แพงที่สุดในอาเซียน และรัฐบาลให้ความสำคัญกับการรักษาความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ยืนยันว่ารัฐบาลมีความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหาพลังงานของประเทศให้ดีที่สุด ในขณะที่กระทรวงพลังงานชี้แจงเสริมว่า ท่ามกลางสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน  เป็นเหตุให้อุปทานพลังงานลดลง ประกอบกับสถานการณ์โควิดในหลายประเทศดีขึ้น ทำให้ความต้องการใช้พลังงานเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อราคาเชื้อเพลิงตลอดจนค่าครองชีพของประชาชนที่ปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลก หากเปรียบเทียบราคาน้ำมันของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านจะพบว่าจุดที่ทำให้ราคาแตกต่างกันขึ้นกับโครงสร้างน้ำมัน ที่แต่ละประเทศมีมาตรการภาษี และระบบการเก็บเงินเข้ากองทุนหรืออุดหนุนราคาพลังงานที่แตกต่างกัน

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/politics/1008983

วิกฤตน้ำมันเลวร้ายลง หลังปั๊มน้ำมันเวียงจันทน์เริ่มไม่มีจำหน่าย

ขณะที่ประชาชนทั่วประเทศต้องต่อสู้กับวิกฤตด้านเชื้อเพลิงที่รุนแรง สมาชิกสมาคมเชื้อเพลิงและก๊าซแห่งลาวกล่าวเมื่อวันพุธว่า อุปทานน้ำมันที่ผู้นำเข้าซื้อไว้คาดว่าจะมาถึงลาวในสัปดาห์หน้า สมาคมเชื้อเพลิงและก๊าซสปป.ลาวเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องช่วยแก้ไขวิกฤตน้ำมันเชื้อเพลิง วิกฤตนี้ยังคงส่งผลกระทบต่อผู้คนทั่วประเทศ แม้ว่าทางการจะดำเนินการหลายขั้นตอนเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ปัจจัยที่ทำให้เกิดวิกฤต ได้แก่ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐและเงินบาทที่แข็งค่า จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศลาวประสบปัญหาการขาดแคลนเชื้อเพลิงเป็นเวลาหลายสัปดาห์ และสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้ามาจากหลวงน้ำทา ซึ่งน้ำมันหมดในปลายเดือนมีนาคม กระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย กล่าวว่า สถานการณ์เลวร้ายลงในเมืองปากเซและจังหวัดสะหวันนะเขต ก่อนที่ปัญหาจะกระทบกระทั่งเวียงจันทน์ในที่สุด

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Fuel104.php

‘นายกฯ เวียดนาม’ สั่งคุมราคาน้ำมัน เหตุรักษาเสถียรภาพตลาดในประเทศ

นาย ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ (Pham Minh Chinh) นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้สั่งการให้กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์ราคาพลังงาน รักษาเสถียรภาพระหว่างอุปสงค์และอุปทานของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในประเทศ อีกทั้งสั่งให้กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าทำการตรวจสอบศูนย์หน่วยจำหน่ายและสถานีการค้าทั่วประเทศ เพื่อจัดการกับผู้ที่ทำการกักตุนน้ำมันในการแสวงหากำไรและการละเมิดอื่นๆ นอกจากนี้ รัฐบาลได้สั่งให้กระทรวงการคลังเข้ามาประสานงานกับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า เพื่อทำการศึกษาและเสนอแนวทางปรับนโยบายภาษีเกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อมสำหรับผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม รวมถึงขอความร่วมมือไปยังคณะกรรมการประชาชนจังหวัดและส่วนกลางให้ดำเนินการตรวจสอบและควบคุมการขายน้ำมันที่ร้านค้าปลีกในท้องที่อย่างใกล้ชิด

ที่มา : https://en.nhandan.vn/business/item/11199502-pm-orders-balance-of-petrol-demand-supply-for-domestic-market.html

กลุ่มธุรกิจน้ำมันและการขายปลีก ปตท. มองหาพันธมิตรกัมพูชา สำหรับการดำเนินธุรกิจ

กลุ่มธุรกิจน้ำมันและการขายปลีก ปตท. (PTT&PTTOR) ของไทยกำลังมองหาพันธมิตรในท้องถิ่น ในพื้นที่ตลาดอื่น ๆ ที่ดำเนินการอยู่แล้ว เช่น กัมพูชา สปป.ลาว และฟิลิปปินส์ สำหรับการร่วมทุนให้มีศักยภาพ ซึ่ง PTTOR วางแผนตั้งกรอบการลงทุนไว้ที่ 2.9 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาอีก 5 ปีข้างหน้า เพื่อขยายธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โดยใช้เครือข่ายสถานีบริการน้ำมันขนาดใหญ่ของบริษัท ซึ่งประมาณร้อยละ 42 ของรายจ่ายฝ่ายทุนจะถูกนำไปใช้เพื่อขยายธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน รวมถึงเพิ่มร้านกาแฟและร้านอาหารมากขึ้น และอีกส่วนหนึ่งของการลงทุนจะนำไปใช้กับเทคโนโลยีเพื่อช่วยวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและระบุโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจ โดยแผนการลงทุนพยายามที่จะเพิ่มสัดส่วนของรายได้จากธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันและธุรกิจในต่างประเทศ และลดการมีบทบาทของสถานีบริการน้ำมันลง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501029495/thailands-ptt-oil-and-retail-business-pttor-looks-for-cambodian-partners-for-operations-here/

บริษัทน้ำมันในกัมพูชากำหนดส่งมอบน้ำมันดิบครั้งแรกในเดือนนี้

Kris Energy บริษัทจากทางสิงคโปร์ที่ดำเนินการขุดเจาะน้ำมันในกัมพูชา วางแผนจัดส่งน้ำมันดิบไปยังตลาดต่างประเทศเป็นครั้งแรกในเดือนนี้ ปริมาณมากถึง 300,000 บาร์เรล ตามข้อมูลของอำนวยการใหญ่ด้านปิโตรเลียมของกระทรวงเหมืองแร่และพลังงาน โดยเกือบ 5 เดือนหลังจากการขุดเจาะน้ำมันดิบครั้งแรกออกจากพื้นที่อัปสราแปลง A ในน่านน้ำกัมพูชาในอ่าวไทย ซึ่งบ่อน้ำมันทั้ง 5 แห่งในบล็อก A เขตอัปสราได้เริ่มทำการสูบน้ำมันอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 2,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งยังต่ำกว่าปริมาณที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 7,500 บาร์เรลต่อวัน ที่คาดการณ์ไว้โดย Kris Energy ซึ่งหลังจากไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้บริษัทจึงได้นำที่ปรึกษาด้านวิศวกรรม Netherland, Sewell & Associates Inc (NSAI) มาประเมินสถานการณ์ในระยะถัดไปใหม่ถึงปริมาณน้ำมันดิบที่คาดว่าจะผลิตได้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50859589/first-crude-oil-shipment-due-this-month

บริษัทจัดจำหน่ายน้ำมันชั้นนำ ‘Petrolimex’ ของเวียดนาม กำไรร่วง 74%

‘Petrolimex’ ผู้ประกอบธุรกิจจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ระบุว่าในปีที่แล้ว กิจการมีกำไรสุทธิ 1.23 ล้านล้านดอง (53.69 ล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี ทั้งนี้ เมื่อปี 2562 กำไรของกิจการอยู่ที่ 4.77 ล้านล้านด่อง และกิจการยังมีสถานีจำหน่ายน้ำมันหลายพันแห่งทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ยอดขายน้ำมันเครื่องบินลดลง 74% หลังจากเที่ยวบินระหว่างประเทศถูกระงับตลอดทั้งปี 2563 นอกจากนี้ กิจการดังกล่าวมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 50% รองลงมา PV Oil ครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 2 ในเวียดนาม

  ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/companies/oil-distributor-petrolimex-profit-falls-74-pct-4231261.html

ผลกระทบทางเศรษฐกิจ จากความสามารถในการผลิตน้ำมันของกัมพูชา

นายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวว่ารายได้จากการขุดเจาะน้ำมันจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศในระยะสั้น น้อยกว่าภาคธุรกิจดั้งเดิมอื่น ๆ จากคำกล่าวของนายกฮุนเซน ซึ่งหลุมขุดเจาะแรกได้ดำเนินการมาแล้ว 33 วัน และสกัดน้ำมันได้ที่ 1,236 บาร์เรลต่อวัน รวม 40,788 บาร์เรล ตั้งแต่ได้มีการขุดเจาะ โดยหากน้ำมันหนึ่งถังมีราคาอยู่ที่ 50 ดอลลาร์ ในหนึ่งปีสำหรับการขุดเจาะและทำการสกัดน้ำมันจะสร้างรายได้ให้กับประเทศได้เพียง 30 ล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่งน้อยกว่ารายได้จากวีซ่าการท่องเที่ยวที่ออกให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เคยได้รับในช่วงปกติเสียด้วยซ้ำ โดยนายกฮุนเซนคาดว่ากัมพูชาจะสามารถผลิตน้ำมันได้มากกว่า 7,000 ถึง 7,500 บาร์เรลต่อวันเมื่อมีการขุดเจาะบ่อน้ำมันทั้งหมดที่กำลังจะเริ่มขึ้นในเร็ว ๆ นี้กว่า 4 แห่ง ซึ่งทางการกัมพูชาได้ร่วมกับบริษัท KrisEnergy Ltd. ของสิงคโปร์ ในการดำเนินการโครงการนี้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50809405/oil-revenue-no-short-term-fix-to-economic-growth-pm/

บ.น้ำมัน “PetroVietnam” ยังคงท็อป 3 บริษัทรายใหญ่ที่สุดในเวียดนามเป็นปีที่ 10 ติดต่อกัน

ตามรายงานของ Vietnam Assessment Report (Vietnam Report) ร่วมกับ VietNamNet เปิดเผยการจัดอันดับอย่างเป็นทางการ 500 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม (VNR500) พิจารณาจากรายได้, กำไร, อัตราการเติบโต, แรงงาน, ส่วนของเจ้าของและสินทรัพย์รวม ซึ่งถือเป็นปีที่ 14 ติดต่อกัน โดยบริษัทน้ำมันแห่งชาติเวียดนาม (PetroVietnam) ติดอันดับที่ 3 จากจำนวน 500 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม รองจากซัมซุงเวียดนามที่อยู่ในอันดับที่ 1 และการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) อันดับที่ 2 ทั้งนี้ บริษัท PetroVietnam  นับติดอันดับเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน แสดงให้เห็นว่าธุรกิจได้ทำผลงานที่โดดเด่นในด้านการผลิตและการดำเนินธุรกิจ รวมถึงกำไรสูง ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/petrovietnam-remains-in-vietnams-top-3-largest-firms-for-10th-consecutive-year/190897.vnp