เมียนมานำเข้าปุ๋ย 1.4 ล้านตัน และยาฆ่าแมลงมากกว่า 26,000 ตันในช่วง เม.ย.-ธ.ค. 67

ตามข้อมูลของคณะกรรมการกำกับดูแลการจัดซื้อและจำหน่ายปุ๋ยยูเรีย เมียนมามีการนำเข้าปุ๋ยมากกว่า 1.4 ล้านตันในช่วงเก้าเดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณปัจจุบัน 2024-2025 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสหกรณ์และการพัฒนาชนบทของสหภาพเมียนมา U Hla Moe ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการฯ กล่าวว่าคณะกรรมการจะยังคงทำการประเมินและแนะนำการนำเข้าปุ๋ยและยาฆ่าแมลงที่เหลือต่อไป ด้านสมาคมผู้ประกอบการปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ และยาฆ่าแมลงของเมียนมา (MFSPEA) กล่าวว่าเสริมว่า ต้องมีการตรวจสอบบริษัทผู้นำเข้าแต่ละแห่ง ว่าสามารถนำเข้าตามปริมาณการนำเข้าที่กำหนดได้หรือไม่ โดยควรให้ใบอนุญาตเฉพาะกับบริษัทที่สามารถนำเข้าได้จริงและครบถ้วนเท่านั้น อย่างไรก็ตามคณะกรรมการกำกับดูแลได้รับการขอร้องให้กำกับดูแลร้านค้าในแต่ละภูมิภาคและรัฐว่าปฏิบัติตามราคาปุ๋ยอ้างอิงที่กำหนดหรือไม่ หลังจากบวกค่าขนส่งและอัตรากำไรที่กำหนดไว้ ให้รายงานการเรียกเก็บเงินเกิน ตรวจสอบการจัดการตลาดด้วยสต็อกที่สะสมไว้ และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ รัฐมนตรีสหภาพยังได้กล่าวกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีความล่าช้าในการนำเข้าปัจจัยการผลิตทางการเกษตร การรับประกันคุณภาพ และความยุติธรรมด้านราคา

เมียนมานำเข้าปุ๋ย 1.047 ล้านตันในปีงบประมาณ 2566-2567

จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์เมียนมา ระบุว่ามีการนำเข้าปุ๋ยรวม 1.047 ล้านตันในปีงบประมาณ 2566-2567 โดย คณะกรรมการจัดซื้อและจัดจำหน่ายปุ๋ยยูเรีย รายงานว่า ได้พิจารณาอย่างรอบคอบและแนะนำให้ออกใบอนุญาตนำเข้าปุ๋ย 2 ล้านตันและยาฆ่าแมลง 37,000 ตันในปีงบประมาณที่กล่าวมาข้างต้น ทั้งนี้ ปุ๋ยยูเรียรวม 4,900 ตัน และปุ๋ยผสม 21,000 ตัน ได้รับการกำหนดให้ใช้ในพื้นที่เพาะปลูก 120,000 เอเคอร์ใน 12 รัฐและภูมิภาค รวมถึงกรุงเนปิดอว์ ในโครงการปลูกพืชน้ำมันบริโภคในฤดูหนาว นอกจากนี้ ปุ๋ยยูเรีย 36,000 ตัน และปุ๋ยผสม 36,000 ตัน ได้รับการจัดสรรเพื่อใช้ในพื้นที่นาฤดูร้อน 720,000 เอเคอร์ใน 6 ภูมิภาคและรัฐ รวมถึงกรุงเนปิดอว์ด้วย อย่างไรก็ดี ปุ๋ยทั้งหมด 74,000 ตัน ซึ่งรวมถึงปุ๋ยยูเรียมากกว่า 3,700 ตัน และปุ๋ยผสม 37,000 ตัน คาดว่าจะใช้ในรัฐและภูมิภาค 10 รัฐ รวมถึงกรุงเนปิดอว์ สำหรับโครงการนาข้าวในฤดูมรสุม ปุ๋ยที่จำเป็นเหล่านี้ถือเป็นปัจจัยนำเข้าที่สำคัญสำหรับโครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมเศรษฐกิจของรัฐ และสำหรับโครงการที่ไม่ครอบคลุมอยู่ในกองทุนนี้ เจ้าหน้าที่ได้จัดราคาปุ๋ยที่เหมาะสมสำหรับเกษตรกร

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-imports-1-047-million-tonnes-of-fertilizers-in-2023-24-fy/

‘เมียนมา’ เดือน มิ.ย. นำเข้าปุ๋ย 144,900 ตัน

จากข้อมูลสถิติของกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าเมียนมานำเข้าปุ๋ยจากต่างประเทศในเดือน มิ.ย. อยู่ที่ 144,900 ตัน มูลค่า 58.04 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยนำเข้าปุ๋ยผ่านเส้นทางเดินเรือ 106,900 ตัน และผ่านเส้นทางการค้าชายแดน 38,000 ตัน ทั้งนี้ ปุ๋ยที่นำเข้าผ่านเส้นทางเดินเรือส่วนใหญ่มาจากประเทศจีน 44,000 ตัน รองลงมาโอมาน ไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม รัสเซีย เกาหลีใต้ มาเลเซีย สปป.ลาว สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอร์เวย์และจอร์แดน ในขณะที่ปุ๋ยที่นำเข้าผ่านเส้นทางการค้าชายแดนส่วนใหญ่มาจากประเทศจีน 36,000 ตัน และไทย 2,000 ตัน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-imported-144900-tonnes-of-fertilizer-in-june/#article-title

เมียนมานำเข้าปุ๋ยทางทะเลทะลุ 75,000 ตัน มูลค่า 46.847 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ระหว่างวันที่ 1-31 ตุลาคม 2565 เมียนมานำเข้าปุ๋ยจากการค้าทางทะเลกว่า 75,000 ตัน มูลค่า 46.847 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยนำเข้าจากโอมานมากกว่า 25,000 ตัน จีน 27,000 ตัน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 8,500 ตัน เวียดนาม 5,200  ตัน และไทย 3,800 ตัน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ปริมาณการนำเข้าลดลงกว่า 35,000 ตันเมื่อเทียบกับเดือนกันยายนที่ผ่านมา ส่วนการนำเข้าผ่านชายแดนมีปริมาณมากกว่า 11,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 4.281 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเป็นการนำเข้าจากจีนประมาณ 5,700 ตัน ไทย 3,700 ตัน และอินเดีย 1,100 ตัน ทั้งนี้ราคาปุ๋ยจะเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 65,000-170,000 จัตต่อถุงกระสอบ (50 กก.) ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและชนิดของปุ๋ย

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-imports-over-75000-tonnes-of-fertilizer-worth-46-847-mln-by-sea-in-oct/#article-title

‘สงครามรัสเซีย-ยูเครน’ บีบให้เวียดนามค้นหาซัพพลายเออร์ปุ๋ยรายอื่นทดแทน

ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้เวียดนามต้องค้นหาซัพพลายเออร์ปุ๋ยรายอื่น เพื่อรองรับกับปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบและราคาที่สูงขึ้น กระทรวงเกษตรและพัฒนาบท (MARD) เปิดเผยว่าความขัดแย้งดังกล่าว ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อตลาดปุ๋ยในประเทศ ซึ่งประสบปัญหากับการขาดแคลนทางด้านอุปทานและราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น เหตุจากการได้รับผลกระทบของเชื้อไวรัสโควิด-19 และการหยุดชะงักห่วงโซ่อุปทาน ทั้งนี้ รัสเซียเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกปุ๋ยที่มีต้นทุนต่ำที่สุดรายใหญ่ของโลก โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงอุตฯ ของรัสเซียประกาศให้ผู้ผลิตปุ๋ยของประเทศทำการหยุดการส่งออกชั่วคราว ด้วยเหตุนี้ ราคาปุ๋ยทำสถิติสูงสุดในรอบ 50 ปี ราคาปุ๋ยเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ประกอบกับราคาน้ำมันและก๊าซที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของต้นทุนการผลิต ทำให้ผลักดันราคาปุ๋ยให้สูงขึ้นเช่นเดียวกัน

ที่มา : https://vir.com.vn/russia-ukraine-conflict-forces-vietnam-to-look-for-alternative-fertiliser-suppliers-91979.html