5 เดือน ของปีงบ 65-66 MIC ไฟเขียวให้ต่างชาติมาลงทุน 35 โครงการ เม็ดเงินทะลุ 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา (เดือนเมษายน-เดือนสิงหาคม 2565) ของปีงบประมาณปัจจุบัน 2565-2566 สำนักงานคณะกรรมการการลงทุนแห่งเมียนมา (MIC) ให้ไฟเขียวโครงการต่างประเทศ 35 โครงการจาก 6 ประเทศ มีเม็ดเงินลงทุนกว่า 1.23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  เป็นการลงทุนในภาคเกษตรกรรม การผลิต พลังงาน อสังหาริมทรัพย์ และบริการตามลำดับ โดยมีสิงคโปร์เป็นอันดับหนึ่งที่เข้ามาลงทุนในเมียนมา มีมูลค่าการลงทุน 1.089 พันล้านดอลลาร์ รองลงมา คือ ฮ่องกง 70.239 ล้านดอลลาร์จากโครงการ 7 โครงการ ส่วนจีนอยู่ในอันดับที่สาม 56.7 ล้านดอลลาร์จาก 15 โครงการ ที่ผ่านมาเมียนมาดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศจำนวน 647 ล้านดอลลาร์ในช่วงงบประมาณย่อยปี 2564-2565 (เดือนตุลาคม 2564 ถึง เดือนมีนาคม 2565)

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/mic-nods-35-foreign-projects-worth-1-2-bln-in-5-months/

เมียนมา ลุย พร้อมส่งออกมะม่วงเส่งตะลง ทั้งทางอากาศและทะเล บุกตลาดสิงคโปร์

นาย U Kyaw Soe Naing เลขาธิการสมาคมพัฒนาตลาดมะม่วงและเทคโนโลยีเมียนมาร์ (มัณฑะเลย์) เปิดเผย เมียนมากำลังส่งออกมะม่วงเส่งตะลง (Seintalone) ไปยังสิงคโปร์โดยใช้การขนส่งทางอากาศและทางทะเล แม้การส่งออกทางอาศจะมีต้นทุนที่ค่อนข้างสูงแต่มีความเร็วและไม่ทำให้มะม่วงเน่าเสีย ซึ่งต่างจากการขนส่งทางทะเลที่ใช้เวลาถึงหนึ่งอาทิตย์ในการขนส่งและผลมะม่วงอาจได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ช่วงฤดูการเพาะปลูกที่ผ่านมาเกษตรกรได้ลดต้นทุนในการปลูกทำให้ผลผลิตออกมาไม่ได้คุณภาพจึงเกิดโรคของผลมะม่วงหลังการเก็บเกี่ยวตามมา ราคามะม่วงเส่งตะลงแถบชายแดนเมียนมา-จีน ในปัจจุบันมีสูงถึง 140 จัตต่อตะกร้า (ขนาด 16 กิโลกรัม) ส่วนมะม่วงคุณภาพต่ำราคาจะอยู่ที่ 100 จัตต่อตะกร้า ปัจจุบัน การเพาะปลูกมะม่วงส่วนใหญ่กระจุกอยู่ในเขตอิรวดี โดยมีเนื้อที่ประมาณ 46,000 เอเคอร์ ลำดับต่อมาคือ เขตพะโค มีพื้นที่ 43,000 เอเคอร์, เขตมัณฑะเลย์ มีพื้นที่ 29,000 เอเคอร์, กะเหรี่ยงมีพื้นที่ 24,000 เอเคอร์, รัฐฉานมีพื้นที่ 20,400 เอเคอร์  และเขตซะไกง์มีพื้นที่ 20,000 เอเคอร์

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-conveying-seintalone-mango-to-singapore-by-air-maritime-transport/

กัมพูชา-สิงคโปร์ ร่วมส่งเสริมการค้าทวิภาคี

กัมพูชา-สิงคโปร์ ร่วมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความพยายามในการฟื้นฟูวิกฤตหลังวิกฤตโควิด-19 และความคืบหน้าของการตอบสนองของอาเซียนต่อวิกฤตโควิด-19 ไปจนถึงการส่งเสริมการค้าทวิภาคีระหว่างกัน โดยกัมพูชาและสิงคโปร์ยืนยันอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและสิงคโปร์มีมูลค่าสูงถึง 4.2 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ในด้านการลงทุนของสิงคโปร์ในกัมพูชาระหว่างปี 1994-2020 มีมูลค่ารวมกันอยู่ที่ 1.29 พันล้านดอลลาร์ โดยสิงคโปร์นำเข้าสินค้าทางการเกษตรจากกัมพูชาเพิ่มขึ้น รวมไปถึงพริกไทย น้ำตาลปี๊บ มะม่วง และข้าวสาร เป็นสำคัญ ในขณะที่การนำเข้าของกัมพูชาจากสิงคโปร์ ได้แก่ น้ำมัน เครื่องจักร อาหารและเครื่องดื่ม กระดาษ อัญมณี และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501042016/cambodia-singapore-to-further-boost-bilateral-trade/

‘สิงคโปร์’ ผู้นำการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ FDI ในเวียดนาม ปีนี้

ตามรายงานของหน่วยงานการลงทุนในต่างประเทศ (FIA) ภายใต้กระทรวงวางแผนและการลงทุนของเวียดนาม เปิดเผยว่าสิงคโปร์ครองอันดับ 1 ของนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่เข้าไปลงทุนในเวียดนาม มูลค่า 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 59.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว รองลงมาเกาหลีใต้ 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 12% และจีน 538 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 29.3% ตามลำดับ โดยอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปเป็นภาคธุรกิจที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติมากที่สุด คิดเป็นสัดส่วน 63% ของทุนจดทะเบียนรวมทั้งหมด หรือเป็นมูลค่า 3.13 พันล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมาภาคอสังหาริมทรัพย์ มีมูลค่ารวมกว่า 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ (30% ของทั้งหมด) อีกทั้ง เมืองโฮจิมินห์ยังคงเป็นเมืองที่ได้รับการดึงดูดจากเม็ดเงิน FDI มากที่สุด มีมูลค่ามากกว่า 52.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 12.6% ของเงินลงทุนทั้งหมด รองลงมาจังหวัดบิ่นห์เยืองและฮานอย

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/economy/singapore-leads-fdi-pledges-in-vietnam-this-year-4432527.html

4 เดือนของงบประมาณฯ สิงคโปร์นำโด่งเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดของเมียนมา

จากข้อมูลคณะกรรมการการลงทุนและการบริหารบริษัท ( DICA) พบว่า สิงคโปร์กลายเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในเมียนมาในช่วงสี่เดือนของบประมาณปัจจุบัน (2564-2565) ซึ่งเริ่มในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยดึงดูดเงินลงทุนกว่า 506 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากวิสาหกิจต่างชาติที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาลงทุนในประเทศ ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 64 ถึงวันที่ 31 ม.ค. 65 ภาคบริการครองอันดับหนึ่งของเงินลงทุนจากต่างประเทศมากที่สุดด้วยเงินลงทุนกว่า 206 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  รองลงมาคือภาคการผลิตมีมูลค่าการลงทุนกว่า 114 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และภาคการก่อสร้าง 65 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยสิงคโปร์เป็นผู้นำด้านการลงทุนด้วยเม็ดเงินกว่า 275 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ในปีงบประมาณที่แล้ว เมียนมาได้รับเงินลงทุนในประเทศกว่า 3.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา: https://english.news.cn/asiapacific/20220207/812846d52591466085c5fa7840faf7a1/c.ht

“สิงคโปร์” รั้งอันดับ 2 ผู้นำสินค้ารายใหญ่จากเมียนมา

จากข้อมูลกระทรวงพาณิชย์เมียนมาเผย ปีงบประมาณ 2563-2564 สิงคโปร์เป็นผู้นำเข้ารายใหญ่อันดับสองของเมียนมา มีมูลค่าการนำเข้าประมาณ 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยปีงบประมาณที่แล้ว มูลค่าการค้าของทั้งสองประเทศอยู่ที่ 2.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯแบ่งเป็นการส่งออกมีมูลค่าถึง 207.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้ามีมูลค่ากว่า 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมียนมาขาดดุลการค้าประมาณ 2.39 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสิงคโปร์เป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับสองของเมียนมาในภูมิภาค รองจากไทย โดยเมียนมาส่งออกสินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตร รองเท้า สิ่งทอและเสื้อผ้า แร่ธาตุ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ขณะที่นำเข้าพลาสติก น้ำมันเชื้อเพลิง สินค้าทุน สินค้าขั้นกลาง สินค้าอุปโภคบริโภค โลหะ และเคมีภัณฑ์

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/singapore-ranked-myanmars-second-largest-importer-in-fy2020-2021/

พาณิชย์ เผย 10 เดือนแรกไฟเขียวต่างชาติลงทุนในไทย 213 ราย จ้างงานกว่า 5 พันคน

นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ต.ค.64) คณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ได้อนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย จำนวน 213 ราย เงินลงทุนรวมกว่า 11,554 ล้านบาท เกิดการจ้างงานคนไทยกว่า 5,000 คน ชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 82 ราย คิดเป็น 38% สิงคโปร์ 33 ราย คิดเป็น 15% และฮ่องกง 20 ราย คิดเป็น 9%

ที่มา : https://www.infoquest.co.th/2021/148468

‘สิงคโปร์’ ก้าวเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ในเวียดนาม ในช่วง 10 ด.

กระทรวงวางแผนและการลงทุน เปิดเผยว่าในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ นักลงทุนสิงคโปร์ลงทุนในเวียดนาม มีมูลค่ากว่า 6.77 พันล้านเหรียญสหรัฐ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำลงทุนในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองลงมาเกาหลีใต้ ด้วยทุนจดทะเบียน 4.15 พันล้านเหรียญสหรัฐ และญี่ปุ่น 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็นต้น โดยตั้งแต่เดือน ม.ค.-ต.ค. พบว่านักการเงินอัดฉีดเม็ดเงิน 23.74 พันล้านเหรียญสหรัฐไปยังเวียดนาม เพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่เข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป มีมูลค่า 12.74 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 53.7% ของเงินทุนจดทะเบียน นอกจากนี้ สำนักงานการลงทุนต่างประเทศ กล่าวว่าปัจจุบัน การระบาดของโควิด-19 ค่อยๆ อยู่ภายใต้การควบคุม และรัฐบาลได้ใช้นโยบายต่างๆ เพื่อขจัดอุปสรรคการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนช่วยฟื้นฟูการผลิตและกิจกรรมทางธุรกิจในช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้

ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/singapore-leads-foreign-investment-in-vietnam-in-10-months-37296.html

ปีงบฯ 63-64 สิงคโปร์ทุ่มลงทุนในเมียนมา กว่า 429 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

สำนักงานบริหารจัดการบริษัทและทะเบียนบริษัท (DICA) เผย ปีงบประมาณ 2563-2564 สถานประกอบการที่จดทะเบียนในสิงคโปร์ นำเงินลงทุนในเมียนมาไปแล้วกว่า 429 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนใหญ่ลงทุนในการพัฒนาเมือง อสังหาริมทรัพย์ พลังงาน และภาคการผลิต ซึ่งในปีงบประมาณนี้ เมียนมาดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมากกว่า 3.79 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก 48 บริษัท รวมถึงการขยายทุนในวิสาหกิจและการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวา โดยมีญี่ปุ่นเป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับ 2 ด้วยทุนจดทะเบียนประมาณ 518.76 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่อันดับ 2 ในเขตเศรษฐกิจพิเศษติลาวา รองจากญี่ปุ่นอีกด้วย

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/singapore-puts-capital-of-429-mln-into-myanmar-in-2020-2021fy/

11 เดือนแรกของปีงบฯ 63-64 เมียนมา – สิงคโปร์ ดันยอดการค้ากว่า 2.67 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสิงคโปร์นำเข้ากว่า 2,470 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากตัวเลขของกระทรวงพาณิชย์ สิงคโปร์นำเข้ามากกว่า 2.770 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 63-64 โดยในปีงบประมาณ 60-61 การส่งออกของเมียนมาอยู่ที่ 753.495 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การนำเข้ามูลค่า 3,084.631 ล้านดอลลาร์ โดยมีปริมาณการค้า 3,838.126 ล้านดอลลาร์ ในปีงบประมาณ 2561-2562 มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 344.740 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การนำเข้ามูลค่า 3,162.511 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีปริมาณการค้า 3507.50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนในปีงบประมาณ 62-63 มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 753.114 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การนำเข้ามีมูลค่า 3,052.194 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และปริมาณการค้า 3,805.307 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ยุทธศาสตร์การส่งออกแห่งชาติ (NES) ปี 63-68 เป็นโอกาสให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนทำงานร่วมกันเพื่อสร้างงานและโอกาสใหม่ๆ ให้กับชาวเมียนมา ซึ่งยุทธศาสตร์การส่งออกแห่งชาติ (NES) ปี 2020-2025 จะสร้างโอกาสใหม่สำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและผู้ส่งออกที่มีอยู่ในตลาดในประเทศและทั่วโลก

ที่มา: https://news-eleven.com/article/218047