การส่งออกปศุสัตว์สร้างรายได้สูงสุดในสินค้าเกษตร

การส่งออกปศุสัตว์สร้างรายได้สูงสุดในกลุ่มสินค้าเกษตร มีมูลค่ามากถึง 217.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งมากกว่า กล้วยไม้และยางที่เคยเป็นสินค้าที่สร้างรายได้สูงสุดแก่สปป.ลาว โดยประเทศคู่ค้าที่สำคัญในการส่งออกปศุสัตว์ของสปป.ลาวคือ เวียดนาม ซึ่งปศุสัตว์เป็น 1 ใน 2 ผลิตภัณฑ์ยอดนิยมที่สปป.ลาวขายให้กับเวียดนามโดยมีมูลค่าการส่งออกเกือบ 220 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งใน 20 อันดับแรกของผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกไปยังประเทศจีนด้วยยอดขายมูลค่า 7.5 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้จีนถือเป็นประเทศที่มีความต้องการในปศุสัตว์สปป.ลาวสูง โดยตลาดในยูนนานของจีนต้องการปศุสัตว์ 500,000 ตัวจากสปป.ลาวเป็นประจำทุกปี สินค้ากลุ่มนี้จึงเป็นสินค้าที่น่าสนใจเพราะอนาคตจะเติบโตได้อีกและสปป.ลาว ยังมีศักยภาพในการแข่งขันด้วยปัจจัยที่สปป.ลาวมีที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงโคเพื่อการค้านั้นเอง

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/livestock-top-earner-among-laos%E2%80%99-agricultural-exports-113626

กระทรวงอุตฯ เผยวิกฤตไวรัสโคโรนาอาจกระทบภาคการส่งออกไปยังจีน

จากข้อมูลของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม เปิดเผยว่าทางหน่วยงานจับตาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาอย่างต่อเนื่อง และให้ผู้ประกอบการเตรียมรับมือกับผลกระทบจากการส่งออกในทิศทางที่เป็นลบ โดยเฉพาะสินค้าส่งออกเกษตรไปยังจีน ซึ่งในปัจจุบัน คาดว่าไวรัสโคโรนายังไม่น่ากระทบต่อการค้าระหว่างเวียดนามกับจีน อย่างไรก็ตาม มีสัญญาบ่งบอกว่ายอดขายสินค้าเกษตรบางรายการไปยังจีนเริ่มชะลอตัวแล้ว เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าวและความเข้มงวดในการป้องกันของไวรัส ทำให้การส่งออกมีความยากลำบากมากขึ้น ทั้งนี้ ทางกรมส่งเสริมการค้าได้แนะนำให้ผู้ประกอบการเวียดนามเตรียมค้นหาตลาดอื่นๆ เพื่อให้มาทดแทนกับตลาดจีน สำหรับตัวเลขสถิติการค้าระหว่างประเทศ พบว่าในปี 2562 ยอดส่งออกสินค้าของเวียดนามอยู่ที่ 41.41 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20 ที่มาจากสินค้าเกษตรกรรม โดยจีนยังคงเป็นตลาดส่งออกสินค้าเกษตรรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม

ที่มา : https://www.vir.com.vn/coronavirus-might-affect-exports-to-china-ministry-73553.html

รายได้จากสินค้าเกษตรเมียนมามากกว่า 1 ดอลลาร์สหรัฐ

เมียนมามีรายรับ 1.082 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากการส่งออกสินค้าเกษตรตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมถึง 17 มกราคมในปีงบประมาณนี้และเมื่อเทียบกับการส่งออกในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วอยู่ที่141.18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนใหญ่เมียนมาส่งออกสินค้าเกษตร ประมง เหมืองแร่ ป่าไม้  สินค้าที่ผลิตแบบ CMP (Cutting Making และ Packaging) และอื่นๆ เมียนมาส่วนใหญ่ส่งออกข้าว งานแสดงสินค้าอัญมณีสามารถเพิ่มการขายหยก สินค้าที่ผลิตแบบ CMP เพิ่มขึ้นทุกปี ราคาก๊าซธรรมชาติเพิ่มสูงขึ้นเพื่อสร้างรายได้มากขึ้น ส่วนการส่งออกถั่วลดลงเป็น 80,000 ตันเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/myanmar-earns-over-us1-b-from-agricultural-products

แผนกจังหวัดของกัมพูชาได้รับอนุญาตในการออกหนังสือรับรองหรือฟอร์มดี

กระทรวงพาณิชย์มุ่งมั่นที่จะมอบหมายการออกแบบฟอร์มดี สำหรับรับรองแหล่งกำเนิดให้กับกระทรวงพาณิชย์ทั่วประเทศภายในปีนี้เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในกิจกรรมทางธุรกิจและการส่งออกตามรายงานประจำปีของกระทรวง โดยใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (CO) เป็นเอกสารอย่างเป็นทางการที่ใช้เพื่อรับรองว่าผลิตภัณฑ์นั้นผลิตและมีแหล่งที่มาจากแหล่งใด ซึ่งทั่วไปจะเป็นเอกสารสำคัญที่ผู้ซื้อต้องการ โดย CO ของรูปแบบ ฟอร์มดี จะต้องได้รับจากบริษัทที่ขายผลิตภัณฑ์ไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนจนถึงขณะนี้มีโครงการถึง 16 จังหวัด โดยจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ระดับจังหวัดสามารถออกฟอร์มดีและเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานระดับชาติและระดับจังหวัดที่ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ตามที่กระทรวงระบุว่าการยื่นแบบฟอร์มดีที่แผนกการพาณิชย์จังหวัดใช้เวลาเพียง 16 ชั่วโมงเทียบกับ 10 วันถึงสองสัปดาห์หากการยื่นขอนั้นอยู่ที่กระทรวงพาณิชย์ในกรุงพนมเปญ ซึ่งกระทรวงตั้งเป้าในปีนี้เพื่อมอบหมายการออกแบบฟอร์มดี ไปยังแผนกพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจโดยเฉพาะการส่งออก โดยกัมพูชาส่งออกสินค้าเกษตรประมาณ 7 ล้านตันในปี 2562 ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรระบุว่าเวียดนามเป็นผู้ซื้อสินค้าเกษตรรายใหญ่ที่สุดของกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50676991/provincial-departments-will-be-allowed-to-issue-d-notices

เวียดนามส่งออกสินค้าเกษตรหลัก ลดลง 5.3% ในปี 62

จากรายงานของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่าในปี 2562 มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรหลักอยู่ที่ 18.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 5.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนมูลค่าการส่งออกสินค้าประมงและสินค้าป่าไม้ ขยับตัวเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 2.7 และ 19.2 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ตามลำดับ โดยตลาดส่งออกสินค้าเกษตรกรรมสำคัญของเวียดนาม ได้แก่ จีนและฮ่องกง (คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 27.8 ของการส่งออกสินค้าเกษตรรวม) รองลงมาสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป อาเซียน และญี่ปุ่น ตามลำดับ ทั้งนี้ หากจำแนกสินค้าเกษตรสำคัญ พบว่าข้าว ผักผลไม้ กาแฟและพริกไทย มีมูลค่าการส่งออกลดลง แต่ว่ามันสำปะหลังและใบชา มีมูลค่าการส่งออกขยับตัวเพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกัน มูลค่าการนำเข้าสินค้าเกษตรกรรมของเวียดนามรวมอยู่ที่ 30.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่งผลให้เวียดนามเกินดุลการค้าราว 10.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/export-of-main-agricultural-products-down-53-percent-in-2019-408382.vov

รายได้ส่งออกสินค้าเกษตรเมียนมาพุ่ง 470 ล้านเหรียญสหรัฐ

จนถึงวันที่ 22 พ.ย.ของปีงบประมาณนี้รายรับจากการส่งออกของภาคเกษตรอยู่ที่ 473.892 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 114.241 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ 359.651 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่ส่งออกฟาร์มปสุสัตว์ สินค้าทางทะเลเหมืองแร่ ป่าไม้ อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่ใช้เทคนิค CMP และอื่น ๆ ในช่วงสองเดือนแรกของปีงบประมาณนี้รายรับจากการส่งออกสูงถึง 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 580 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/farm-produce-export-earnings-exceed-470-m

งานแสดงสินค้าการเกษตรและสินค้าในประเทศเพิ่มโอกาสแก่เกษตรกรและผู้ผลิตเวียงจันทน์

งานดังกล่าวจัดขึ้นโดยคณะกรรมการบริหารของเวียงจันทน์และคณะกรรมการเฉพาะกิจว่าด้วยการส่งเสริมการผลิตและการบริโภคสินค้าในประเทศ ในงานมีธุรกิจท้องถิ่นกว่า 300 แห่งแสดงสินค้าทั้งผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์แปรรูป โดยงมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้คนในท้องถิ่นใช้และบริโภคผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่น รวมถึงผู้ผลิตและเกษตรกรในท้องถิ่นยังได้ขยายตลาดและมีการโปรโมตสินค้าของพวกเขาสู่สาธารณะอีกด้วยในท้ายที่สุดจะช่วยลดปริมาณสินค้านำเข้าได้ ซึ่งปัจจุบันงานดังกล่าวยังจัดขึ้นเฉพาะเวียงจันทร์เท่านั้นแต่ในอนาคตจะมีการจัดงานแสดงสินค้าในหลายๆแขวงเพื่อกระตุ้นการบริโภค รวมถึงส่งเสริมและเพิ่มโอกาสแก่เกษตรกรและผู้ผลิตทั้งประเทศ

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/fair-boosts-market-opportunities-vientiane-farmers-producers-109501

เวียดนามเผยภาคเกษตรกรรมเกินดุลการค้า 8.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วง 11 เดือน

จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่าภาคเกษตรกรรมเวียดนามมียอดเกินดุลการค้าอยู่ที่ 8.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ นับว่าสูงกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว คิดเป็นมูลค่า 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสินค้าส่งออกสำคัญมีอยู่ 7 รายการ ที่มีมูลค่ามากกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ได้แก่ กาแฟ ยางพารา ข้าว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผลไม้ กุ้ง ไม้และไม้แปรรูป เป็นต้น ประเทศจีนยังคงเป็นผู้นำสินค้าเกษตรรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 26.9 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด รองลงมาสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป อาเซียน และญี่ปุ่น ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม สินค้าส่งออกสำคัญบางรายการที่ได้รับผลกระทบในทิศทางลบ ได้แก่ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผลไม้ ข้าว กาแฟ และพริกไทย เป็นต้น นอกจากนี้ จากตัวเลขสถิติการส่งออกสินค้าเกษตรเวียดนาม แสดงให้เห็นว่าในปีที่แล้ว เวียดนามสามารถทำสถิติการส่งออกสินค้าเกษตรพุ่งสูงขึ้น 40.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ และเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรรายใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/agricultural-sector-gains-trade-surplus-of-88-bln-usd-in-11-months-406933.vov

แนวทางใหม่สำหรับการนำเข้า / ส่งออกสินค้าเกษตรในสปป.ลาว

 รัฐบาลได้ระบุประเภทของสินค้าและปริมาณของสินค้าเกษตรและพืชที่สามารถนำเข้าและส่งออกผ่านด่านศุลกากรสปป.ลาว ภายใต้แนวทางใหม่ทุกครัวเรือนควรมีเครื่องมือและเครื่องจักร เช่น รถแทรกเตอร์ ปั๊มมอเตอร์ เครื่องบดอาหาร มอเตอร์หมุน และโรงสีข้าว หนึ่งคนอาจนำเข้าหรือส่งออกสินค้าเกษตรและพืชต่อวัน ดังนี้ เมล็ดข้าวโพดหวาน 10 กก. เมล็ดพืช 200 กรัม  เมล็ดถั่ว 5 กก. สปอร์เห็ด 10 ขวด เห็ดสด 5 กก. ปุ๋ยเคมี 2 กระสอบ สมุนไพร 5 กก. ผลไม้สด 10 กก. ไม่ประดับหรือต้นกล้า 10  ต้น ปริมาณสัตว์แปรรูปและผลิตภัณฑ์ประมงที่อนุญาตได้ต่อคนต่อสัปดาห์ 30 กก. อาหารทะเลสด 3 กก. อาหารทะเลแห้ง 2 กิโลกรัม เมล็ดหญ้าสำหรับอาหารสัตว์ 15 กก. และปลาขนาด 3-5 ซม. 500 ตัว แนวทางดังกล่าวมุ่งเน้นไปที่การจัดการการส่งออกและนำเข้าสินค้าเชิงพาณิชย์ที่ดีขึ้นตามกฎหมายและข้อบังคับ เพื่อปรับปรุงสุขภาพของพืชและสัตว์และปกป้องสิ่งแวดล้อม การส่งออกและนำเข้าจะไม่ต้องเสียภาษีหรืออากรศุลกากรหากสินค้ามีมูลค่าไม่เกิน US $ 50 หากมูลค่าของสินค้ามากกว่า US $ 50 จะต้องตรวจสอบสินค้าที่จุดผ่านแดนระหว่างประเทศที่สำคัญ หากผู้ส่งออกหรือผู้นำเข้าได้รับอนุญาตจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องหรือจดทะเบียนจะไม่ถูกเก็บภาษี

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/new-guidelines-importexport-agricultural-products-laos-107313

สปป.ลาว-จีน ร่วมมือในการควบคุมคุณภาพของการส่งออกสินค้าเกษตร

บันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกได้ลงนาม โดยอธิบดีกรมวิชาการเกษตร กระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ และ the Chairman of Yunnan Yuzhan Agriculture Development Co., Ltd ทั้งสองฝ่ายจะสร้างห้องทดลอง ห้องปฏิบัติการทดสอบสุขอนามัยพืชและสัตว์และศูนย์ฝึกอบรมแบบบูรณาการรวมทั้งจัดนิทรรศการสินค้าเกษตร เจ้าหน้าที่จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในการตรวจสอบพืช สัตว์และผลิตภัณฑ์จากพืช รวมถึงมาตรฐานด้านสุขอนามัยของผลิตภัณฑ์ที่ถูกกฎหมาย โครงการดังกล่าวจะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสปป.ลาวและจีนและอำนวยความสะดวกในการส่งออกพืช สัตว์และผลิตภัณฑ์พืชไปยังจีน นอกจากนี้ยังจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจการเกษตรของทั้ง 2 ประเทศรวมถึงการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมและส่งผลให้คนในท้องถิ่นมีรายได้มากขึ้น ซึ่งความร่วมมือนี้จะยกระดับมาตรฐานการเกษตรในประเทศสปป.ลาวและสร้างความมั่นใจว่าสินค้าเกษตรมีคุณภาพดีขึ้น

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos228.php