CDC ยอมรับข้อเสนอ UK ในการจัดตั้ง Green SEZ

สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) เห็นชอบต่อคำขอจากเอกอัครราชทูตอังกฤษให้จัดตั้ง “เขตเศรษฐกิจพิเศษสีเขียว (Green SEZ)” และพร้อมที่จะช่วยส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนยังกัมพูชา โดยคำร้องขอดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการเข้าเยี่ยมคารวะโดยคณะผู้แทนซึ่งนำโดย Dominic Williams เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำกัมพูชา เข้าพบ Sun Chanthol รองนายกรัฐมนตรีและรองประธานลำดับที่ 1 ของ CDC เพื่อปรับปรุงความยั่งยืนทางเศรษฐกิจของกัมพูชา ภายใต้การรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ โดยเน้นไปที่การให้ลำดับความสำคัญ คือการปรับปรุงถนนแห่งชาติหมายเลข 5, การก่อสร้างทางด่วนพนมเปญ-บาเว, การตรวจสอบบนทางด่วนพนมเปญ-เสียมราฐ-ปอยเปต รวมถึงการปรับปรุงทางด่วนพนมเปญ-สีหนุวิลล์ (PPSV) และโครงการฟูนันเตโช ซึ่งจะเป็นโครงการประวัติศาสตร์ของประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501436295/cdc-consents-to-uk-proposal-for-establishing-green-sez/

คาดการค้าทวิภาคี กัมพูชา-อังกฤษ เติบโตภายใต้โครงการใหม่

หลังอังกฤษตัดสินใจเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับ Brexit ทำให้สหราชอาณาจักรจำเป็นที่จะต้องแทนที่ Generalized Scheme of Preferences (GSP) ด้วยโครงการใหม่ที่มีชื่อว่า Developing Countries Trading Scheme (DCTS) สำหรับกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา (LDC) ในการกระตุ้นภาคการค้าทวิภาคี ซึ่งจะทำการยกเว้นภาษีในอัตราร้อยละ 99 ให้กับประเทศในกลุ่ม LDC เพื่อเป็นการกระตุ้นการนำเข้าสินค้าจากประเทศที่กำลังพัฒนา โดยกัมพูชาถือเป็นหนึ่งในผู้รับผลประโยชน์จากทั้งหมด 65 ประเทศทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันกลุ่มประเทศ LDC มีประชากรประมาณร้อยละ 13 ของประชากรโลก แต่มูลค้ากลับคิดเป็นเพียงประมาณร้อยละ 1 ของมูลค่าการค้าโลก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501136142/cambodia-uk-trade-to-soar-under-new-scheme/

“เวียดนาม-ยูเค” ยอดการค้าระหว่างประเทศ แตะ 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ตามข้อมูลของสำนักงานตลาดยุโรป-สหรัฐฯ ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม เปิดเผยว่าในปีที่แล้ว การส่งออกและการนำเข้าระหว่างเวียดนาม-สหราชอาณาจักร (UK) มีมูลค่าอยู่ที่ 6.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 17.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และจากการคาดการณ์ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า ตัวเลขของการค้าทั้งสองประเทศจะสูงถึง 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สาเหตุหลักมาจากการลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสหราชอาณาจักร-เวียดนาม (UKVFTA) ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหราชอาณาจักรคาดว่าจะฟื้นตัว หลังสิ้นสุดการแพร่ระบาดและรัฐบาลฯ ยกเลิกข้อจำกัดในการเดินทางระหว่างประเทศ เริ่ม 18 มี.ค.65 ทำให้ความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้น ถือว่าเป็นโอกาสแก่ผู้ส่งออกเวียดนาม โดยเฉพาะตลาดยูเคที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 3 ของเวียดนามในยุโรป รองจากเยอรมนีและเนเธอแลนด์ นอกจากนี้ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของสหราชอาณาจักรไปยังเวียดนามในปี 2564 อยู่ที่ 4.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นสองเท่าของมูลค่าก่อนที่จะก่อตั้งหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1268982/viet-nam-uk-trade-expected-to-reach-us-10-billion.html

อังกฤษได้รับสถานะ “คู่เจรจา” ของอาเซียน

อังกฤษพยายามขอสถานะ “คู่เจรจาของอาเซียน” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายหลังเบร็กซิท ที่จะเปลี่ยนไปเน้นความสัมพันธ์กับประเทศที่มีอัตราการขยายตัวสูงในเอเชียและอินโด-แปซิฟิก มากยิ่งขึ้น และให้ความสำคัญน้อยลงกับสมาชิกอียู ที่อังกฤษถอนตัวออกมาเมื่อปี 2020 โดยอาเซียนกล่าวในแถลงการณ์หลังจากการประชุมสมาชิกครั้งล่าสุดว่า อาเซียนตกลงที่จะให้สถานะประเทศคู่เจรจาแก่สหราชอาณาจักร โดยมองจากความสัมพันธ์กับอาเซียนและความร่วมมือในอดีตที่ผ่านมาและการมีส่วนร่วมกับอาเซียนเมื่อครั้งที่อังกฤษจะเป็นสมาชิกอียู การที่อังกฤษได้รับสถานะประเทศคู่เจรจา จะทำให้อังกฤษสามารถเข้าร่วมในการประชุมในระดับสูงของการประชุมสุดยอดอาเซียน ซึ่งรัฐบาลอังกฤษหวังว่าจะสามารถช่วยให้มีความร่วมมือในทางปฏิบัติกับอาเซียนในประเด็นอื่น ๆ ด้วย เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศและเสถียรภาพในภูมิภาค นอกจากนี้แล้ว อังกฤษยังสมัครเข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก โดยเป็นความตกลงการค้าเสรีที่ครอบคลุมในเรื่องการค้า การบริการ และการลงทุนเพื่อสร้างมาตรฐานและกฎระเบียบร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิก โดยอังกฤษคาดหวังว่าจะช่วยเปิดตลาดใหม่ๆ ให้กับสินค้าและบริการจากอังกฤษ พร้อมทั้งเสริมสร้างการเชื่อมต่อด้านการพาณิชย์ที่มีอยู่ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ที่มา : https://tna.mcot.net/world-752244

สปป.ลาวรับมอบวัคซีนโควิดครั้งแรกจากอังกฤษ

การส่งมอบวัคซีน AstraZeneca Covid-19 จำนวน 415,000 โด๊สครั้งแรกที่รัฐบาลสหราชอาณาจักร (สหราชอาณาจักร) มอบให้สปป.ลาว ได้มาถึงนครเวียงจันทน์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนความพยายามในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 การมาถึงของวัคซีน AstraZeneca ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหราชอาณาจักรนั้นเหมาะสมมาก เนื่องจากรัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายที่จะฉีดวัคซีนให้กับประชากร 50 เปอร์เซ็นต์ภายในสิ้นปีนี้ การส่งมอบครั้งนี้จะพาเราไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมาย ปัจจุบันถึงแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในสปป.ลาวจะไม่รุนแรงแต่เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลต้องรีบดำเนินการเรื่องการฉีดวัคซีนเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการเกิดการระบาดระลอกที่รุนแรง เพราะหากสปป.ลาวเผชิญกับวิกฤตเช่นนั้นจะทำให้ ระบบสาธารณสุขและเศรษฐกิจรับลกระทบอย่างรุนแรงจนนำมาสู่วิกฤตครั้งใหม่ของสปป.ลาว

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos_receives_149.php

เวียดนาม-อังกฤษ เผยมูลค่าการค้าพุ่ง หลังบังคับใช้ข้อตกลงการค้าเสรี UKVFTA

สำนักงานส่งเสริมตลาดยุโรปและอมริกา ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า เผยว่าในเดือนมกราคม มูลค่าการส่งออกและนำเข้าระหว่างเวียดนามและสหราชอาณาจักร พุ่งสูงถึง 657 ล้านเหรียญสหรัฐ เวียดนามส่งออกสินค้าไปยังสหราชอาณาจักร มูลค่ากว่า 598 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 84.6% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ถือว่าเป็นการเติบโตได้ดีท่ามกลางโควิด-19 ระบาด และอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการยกระดับการส่งออกของเวียดนามคือ ความตกลงทางการค้าเสรีระหว่างสหราชอาณาจักร – เวียดนาม (UKVFTA) ที่มีผลยังคับใช้เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2563 โดยสินค้าส่งออกไปยังตลาดดังกล่าว อาทิ อาหารทะเล ผัก ชิ้นส่วนโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ เป็นต้น ทั้งนี้ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว สหราชอาณาจักรเข้ามาลงทุนในเวียดนาม จำนวน 411 โครงการ ด้วยมูลค่าทุนจดทะเบียน 3.84 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่จะเข้ามาลงทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับการเงิน การธนาคารและพลังงานหมุนเวียน

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/economy/vietnam-uk-trade-turnover-soars-after-post-brexit-free-trade-deal-4241118.html

เอกอัครราชทูตอังกฤษยืนยันสถานะ GSP ต่อกัมพูชา

สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือได้ยืนยันถึงสถานะของ Generalized System of Preferences (GSP) สำหรับกัมพูชา ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ โดยคำยืนยันดังกล่าวเกิดขึ้นในการประชุมระหว่างรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศกัมพูชากัมพูชา ซึ่งในระหว่างการประชุมเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรแจ้งว่าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2021 สหราชอาณาจักรจะดำเนินนโยบายการค้าเสรีกับกัมพูชา โดยคำนึงถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจาก COVID-19 ต่อสมาชิกประเทศกลุ่มเปราะบางที่สุดสำหรับการพัฒนาประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50795156/uk-ambassador-confirms-gsp-status-for-cambodia/

เมียนมาเริ่มส่งออกอะโวคาโดไปอังกฤษ

จากประกาศของสถานทูตเมียนมาในกรุงลอนดอน เมียนมาเริ่มส่งออกอาโวคาโดจำนวนครึ่งตันไปยังอังกฤษ ได้แก่สายพันธ์ Amara (พันธุ์ท้องถิ่น) Hass และ Buccaneer โดยสมาคมผู้ผลิตและส่งออกผักและผลไม้แห่งเมียนมา (MFVP) ได้เชื่อมโยงธุรกิจกับหอการค้าอังกฤษโดยในการส่งออกตัวอย่างสินค้าไป ทั้งยังได้รับความสนใจจากทั้งสิงคโปร์ ฮ่องกง และไต้หวัน โดย 85% ของอาโวคาโดถูกส่งออกไปยังไทยเนื่องจากการค้าชายแดนหยุดชะงักไปตั้งแต่ปี 62 จึงไม่มีการส่งออกไปยังจีน ซึ่งราคาต่อตันในตลาดอังกฤษอยู่ที่ประมาณ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ และ 1,200 ดอลลาร์สหรัฐในตลาดไทย

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/myanmar-avocado-exported-britain-london-embassy.html