ไทย-ฮ่องกง มุ่งกระชับความร่วมมือการค้า-ลงทุน-ท่องเที่ยว

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้พบปะหารือกับนายจอห์น ลี คา-ชิว (The Honorable John Lee Ka-chiu) ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ในระหว่างเดินทางไปร่วมงาน UBS Asian Investment Conference (AIC) 2024 ณ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกงต่างยินดีที่ได้พบกันอีกครั้ง หลังจากเคยหารือทวิภาคีเมื่อครั้งนายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนเขตบริหารพิเศษฮ่องกงในเดือน ต.ค.66 ซึ่งไทยและฮ่องกงมีความร่วมมือใกล้ชิดทางเศรษฐกิจทำให้เกิดมูลค่าทางการค้าระหว่างกันในปริมาณที่สูงขึ้น พร้อมพูดคุยเพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนเพิ่มเติม โดยฝ่ายฮ่องกงชื่นชมนายกรัฐมนตรีที่มีวิสัยทัศน์ที่เอื้อประโยชน์ต่อการลงทุน ขณะที่นายกรัฐมนตรีชื่นชมศักยภาพของฮ่องกงที่มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานซึ่งดึงดูดการลงทุน รวมถึงมีความพร้อมในการจัดการประชุมด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับการท่องเที่ยว ทั้งสองฝ่ายพร้อมแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยว โดยไทยขอบคุณที่ฝ่ายฮ่องกงยินดีให้ไทยมาจัดงานสงกรานต์ที่ฮ่องกง ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปมาหาสู่กันเพิ่มขึ้น และทั้งสองฝ่ายพร้อมทำงานร่วมกันต่อไป เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น

ที่มา : https://www.infoquest.co.th/2024/402451

ธนาคารกรุงเทพ วางยุทธศาสตร์สาขาฮ่องกง สู่เกตเวย์ ‘จีน-อาเซียน’

ธนาคารกรุงเทพ วางยุทธศาสตร์ ‘เกตเวย์ จีน-อาเซียน’ ดันสาขาฮ่องกงเป็นหัวหอก เปิดประตูการค้าเอเชียตะวันออก ปูทางสู่โอกาสลงทุนเขตเศรษฐกิจ GBA มั่นใจจุดแข็งประสบการณ์เกือบ 70 ปีในฮ่องกง แถมเครือข่ายสาขาครอบคลุมภูมิภาคอย่างแข็งแกร่ง ขานรับโอกาสจังหวะเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ขณะเดียวกันพร้อมเปิดต้อนรับเงินทุนจีนไหลเข้าไทย ชี้กลุ่มยานยนต์ EV-ทุนใหญ่ กำลังคึกคัก ชูธง ‘ธนาคารชั้นนำระดับภูมิภาค’ พร้อมพาลูกค้าลุยตลาดอาเซียน เป็น ‘เพื่อนคู่คิด’ เติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคง

ที่มา : https://www.prachachat.net/economy/news-1374506

พาณิชย์รุกส่งออกผลไม้ไทย จับคู่เจรจาธุรกิจออนไลน์เจาะตลาดฮ่องกง

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง รายงานผลการเจรจา จับคู่เร่งรัดการส่งออกผลไม้รองรับผลผลิตผลไม้ไทยปี 2565 เป็นผลสำเร็จ สร้างมูลค่าทางการค้าทันทีประมาณ 2.6 ล้านบาท และมูลค่าคาดการณ์สั่งซื้อภายใน 1 ปี ประมาณ 183.4 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดผลไม้ไทยในฮ่องกงอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดกิจกรรมกระตุ้นการบริโภค กิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับห้างสรรพสินค้าและทำการประชาสัมพันธ์ผลไม้ไทยให้เป็นที่รู้จักในหมู่ผู้บริโภคชาวฮ่องกง เพื่อกระตุ้นการบริโภคให้มากขึ้น
ที่มา : https://www.naewna.com/business/626197

พาณิชย์ เผย 10 เดือนแรกไฟเขียวต่างชาติลงทุนในไทย 213 ราย จ้างงานกว่า 5 พันคน

นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ต.ค.64) คณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ได้อนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย จำนวน 213 ราย เงินลงทุนรวมกว่า 11,554 ล้านบาท เกิดการจ้างงานคนไทยกว่า 5,000 คน ชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 82 ราย คิดเป็น 38% สิงคโปร์ 33 ราย คิดเป็น 15% และฮ่องกง 20 ราย คิดเป็น 9%

ที่มา : https://www.infoquest.co.th/2021/148468

ข่าวดี! เอฟทีเอ อาเซียน-ฮ่องกง เพิ่มความร่วมมือทางศก.อีก 5 สาขา จูงใจลงทุนแรงสุด

นายสรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้เป็นหัวหน้าผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมหารือรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน – ฮ่องกง ครั้งที่ 5 ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยหารือในประเด็นการติดตามความคืบหน้าการดำเนินการภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน–ฮ่องกง (AHKFTA) และความตกลงด้านการลงทุนอาเซียน–ฮ่องกง (AHKIA) ซึ่งมีผลบังคับใช้กับทุกภาคีสมาชิกแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้

ทั้งนี้ นายสรรเสริญ กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบให้เพิ่มสาขาความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการอีก 5 สาขา ได้แก่ มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช มาตรฐาน/กฎระเบียบทางเทคนิค/กระบวนการประเมินความสอดคล้อง ทรัพย์สินทางปัญญา เทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับการอำนวยความสะดวกทางการค้า และการส่งเสริมการลงทุน จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 5 สาขา ได้แก่ พิธีการศุลกากร บริการวิชาชีพ การอำนวยความสะดวกทางการค้า/โลจิสติกส์ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสาขาความร่วมมือที่เพิ่มขึ้นมาใหม่นี้จะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจของไทยและอาเซียนในตลาดโลกได้

ที่มา : https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2950650

อาเซียน-ฮ่องกง FTA อีก 5 สาขาไทยได้ประโยชน์

นายดวงอาทิตย์ นิธิอุทัย รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้เข้าร่วมการประชุมและทำหน้าที่ประธานฝ่ายอาเซียนในการประชุมคณะกรรมการร่วมกำกับการดำเนินงานภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกง (AHKFTA-JC) ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าการเจรจาเรื่องการลงทุน กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดเฉพาะรายสินค้า และการบังคับใช้ตารางการลดภาษี ที่มีการแปลงพิกัดจากของภาคีสมาชิก ซึ่งปัจจุบันเหลือเพียงบรูไน ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ และที่ประชุมได้เห็นชอบขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการภายใต้ความตกลง AHKFTA เพิ่มเติมใน 5 สาขา ได้แก่ สุขอนามัยและสุขอนามัยพืช มาตรฐาน กฎระเบียบทางเทคนิค ทรัพย์สินทางปัญญา เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้า และ การส่งเสริมการลงทุน จากเดิมที่เห็นชอบแล้ว 5 สาขา โดยไทยมีความตกลงกับฮ่องกง 2 ฉบับ คือ ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกง (AHKFTA) และความตกลงด้านการลงทุนอาเซียน-ฮ่องกง (AHKIA) ซึ่งครอบคลุมการเปิดเสรีการค้าสินค้าและการค้าบริการ การส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ

ที่มา : https://www.innnews.co.th/news/news_144568/

พาณิชย์โปรโมตอาหารไทยเจาะกลุ่มกำลังซื้อสูงฮ่องกง

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง จัดกิจกรรมโปรโมตอาหารไทย ดึงนักธุรกิจรุ่นใหม่ ดารา เซเลบริตี้ ซึ่งได้รับการตอบรับเข้าร่วมการแข่งขันกันเป็นจำนวนมาก ร่วมแข่งขันทำอาหารไทย เมนูยำส้มโอ พร้อมจัด Thai Food Fair ทั่วเกาะฮ่องกง ขยายตลาดสินค้าอาหารไทยในฮ่องกงเพิ่ม และในสถานการณ์โควิด-19 ร้านอาหารไทยมีการปรับตัว โดยจัดทำเมนูอาหารสำเร็จรูป ออกจำหน่าย เช่น ต้มยำกุ้ง แกงเขียวหวาน ผัดไท และผักบุ้งไฟแดง เป็นต้น ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกัน ได้ยังร่วมกับห้าง 759 Store ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกรายใหญ่ใน จัดงาน In-Store Promotion ภายใต้ชื่อ Thai Food Fair ระหว่างวันที่ 9–22 เม.ย.2564 รวม 14 วัน เพื่อประชาสัมพันธ์และกระตุ้นการบริโภคอาหารไทย

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/economic/837819

พาณิชย์เผยกัมพูชาปิดท้ายร่วม FTA อาเซียน-ฮ่องกงมีผลครบทุกชาติ 12 ก.พ.

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน – ฮ่องกง (ASEAN – Hong Kong Free Trade Agreement : AHKFTA) มีผลบังคับใช้ระหว่างฮ่องกงและประเทศสมาชิกอาเซียนบางส่วน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2562 โดยกัมพูชา เป็นประเทศเดียวในปัจจุบันที่ยังไม่ได้มีผลบังคับใช้ จึงได้แจ้งสำนักเลขาธิการอาเซียนว่าพร้อมที่จะเริ่มใช้ความตกลง AHKFTA แล้ว ซึ่งการดำเนินการของกัมพูชา จะส่งผลให้ความตกลง AHKFTA มีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์กับทุกประเทศสมาชิก ตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ.นี้ ทั้งนี้ ปัจจุบันฮ่องกงเป็นคู่ค้าอันดับ 8 ของไทย โดยในปี 2563 การค้าระหว่างไทยกับฮ่องกง มีมูลค่า 13,298 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออก มูลค่า 11,292 ล้านเหรียญสหรัฐ และไทยนำเข้า มูลค่า 2,006 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ อากาศยาน ยานอวกาศและส่วนประกอบ โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่นๆ และข้าว สินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ เครื่องเพชรพลอย เงินแท่งและทองคำ ผ้าผืน เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ สินแร่โลหะอื่นๆ และเสื้อผ้าสำเร็จรูป

ที่มา : https://www.infoquest.co.th/2021/64964

ฮ่องกงลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศสูงสุดในเมียนมาในปีงบประมาณนี้

ฮ่องกงกลายเป็นแหล่งที่มาของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่สำคัญ จากช่วงเจ็ดเดือนแรกของปีงบประมาณ 2562-2562 ซมีสัดส่วนประมาณ 32 % ของภาระผูกพันโดยรวม จากเดือนตุลาคม 2562 ถึงเมษายน 2563 มีการลงทุนโดยตรงจากหน่วยงานต่าง ๆ ในฮ่องกงจำนวน 39 แห่งมีมูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากข้อมูลจากคณะกรรมการการลงทุนและการบริหารบริษัท (DICA) คิดเป็น 23% ของเป้าหมายการลงทุน 5.8 พันล้านดอลลาร์ตามเป้าหมายของรัฐบาล ส่วนใหญ่จะลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าและพลังงาน การผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ตั้งแต่ปี 2531 มีบริษัทจากฮ่องกงกว่า 200 แห่งได้ทำสัญญา FDI มากกว่า 9.5 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากความต้องการ พลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน และภาคการผลิตของประเทศขยายตัวตามความต้องการที่สูงขึ้น

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/hong-kong-top-fdi-source-myanmar-fiscal-year.html

บริษัทฮ่องกงลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าในเจาะพยู มูลค่ากว่า 172 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากข้อมูลของคณะกรรมการการลงทุนและกำกับดูแลบริษัท (DICA)  บริษัท CNTIC VPower KY3 Limited จากฮ่องกงวางแผนสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนและผลิตเชื้อเพลิงด้วยเงินลงทุน 172 ล้านดอลลาร์สหรัฐในจาะพยูเพื่อผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 658,800,000 กิโลวัตต์/ชั่วโมง คณะกรรมการการลงทุนแห่งเมียนมา (MIC) อนุญาตการลงทุนด้วยสี่ข้อเสนอและการลงทุนใน 17 รายการมูลค่า 310.451 ล้านดอลลาร์สหรัฐและสามารถสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่นได้ถึง 10,102 คน MIC อนุมัติการลงทุนจากต่างประเทศมูลค่า 1,546.94 ล้านดอลลาร์สหรัฐและ 716.451 พันล้านจัตรวมถึงการลงทุนในท้องถิ่น 128.4 ล้านเหรียญสหรัฐตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมถึง 10 มกราคมในปี 62-63  ทั้งนี้กระทรวงที่เกี่ยวข้องกำลังพิจารณาการลงทุนภาคเหมืองในปี 63 จากข้อมูลของ DCA พบว่าจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน 62 มีการลงทุนในภาคเหมืองแร่มากกว่า 2.904 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/hong-kong-company-invests-us172-m-to-build-a-power-station-in-kyaukphyu