‘แบงก์ชาติเวียดนาม’ แจ้งสถาบันผู้ออกบัตร เร่งตรวจสอบขั้นตอนการออกบัตร

ธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) ประกาศคำสั่งให้ธนาคารพาณิชย์ดำเนินการทบทวนในเรื่องขั้นตอนการออกบัตรและการจัดการบัตรธนาคาร (Bank Card) ซึ่งธนาคารกลางให้ความสำคัญมากที่สุดในการรักษาความปลอดภัย สิทธิของผู้บริโภคและธนาคารที่ได้รับความคุ้มครอบภายใต้กฎหมายและระเบียบในปัจจุบัน

ทั้งนี้ ธนาคารพาณิชย์จะต้องเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม อัตราดอกเบี้ย วิธีการคำนวณดอกเบี้ย เป็นต้น การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของธนาคารกลางอย่างเคร่งครัดและจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูกค้าได้รับแจ้งสิทธิและภาระผูกพันของตน โดยเฉพาะบัตรเครดิต

นอกจากนี้ ธนาคารกลางเรียกร้องให้ธนาคารพาณิชย์ใช้มาตรการสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลและทราบถึงสิทธิของตน รวมถึงให้คำแนะนำเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1652701/central-bank-told-card-issuers-to-review-procedures.html

‘แบงก์ชาติสปป.ลาว’ ควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

ธนาคารแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (BOL) ได้มติกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เพื่อเป็นแนวทางให้กับธนาคารพาณิชย์ในการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ ซึ่งการดำเนินการของธนาคารแห่งชาติในครั้งนี้ เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์มีความคล่องตัวในการซื้อขายเงินต่างประเทศและยังช่วยรักษาเสถียรภาพของค่าเงินกีบ ทั้งนี้ อัตราซื้อและขายของเงินกีบต่อดอลลาร์สหรัฐของธนาคารพาณิชย์จะต้องไม่เกินกว่า +/- 4.5% จากอัตราอ้างอิงของธนาคารแห่งชาติ รวมถึงไม่มีการจำกัดเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนของเงินกีบเทียบกับสกุลเงินยูโร บาท หยวนและสกุลเงินอื่นๆ ที่แตกต่างจากอัตราอ้างอิงของธนาคารแห่งชาติสปป.ลาว

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten36_BOL_y23.php

อุตสาหกรรมธนาคารในกัมพูชายังคงเติบโตต่อเนื่องในปี 2022

ปี 2022 อุตสาหกรรมการธนาคารของกัมพูชายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านสินเชื่อและเงินฝาก ตามรายงานประจำปีของธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) โดยในรายงานระบุว่าสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 21.7 เมื่อเทียบเป็นรายปีที่มูลค่า 56,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่เงินฝากของลูกค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.3 คิดเป็นมูลค่า 45,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเงินกู้ยืมดังกล่าวได้ออกให้กับภาคส่วนสำคัญๆ เช่น การค้า ที่อยู่อาศัย การก่อสร้าง การเกษตร โรงแรมและภัตตาคาร และภาคการผลิต รวมถึงภาคส่วนสำคัญอื่นๆ โดยปัจจุบันกัมพูชามีธนาคารพาณิชย์รวมทั้งสิ้น 58 แห่ง ธนาคารเฉพาะกิจ 9 แห่ง และสถาบันการเงินรายย่อย 86 แห่ง โดยมีสำนักงานใหญ่และสาขารวม 2,614 แห่ง รวมถึงเครื่องถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) 3,998 เครื่องทั่วประเทศ ด้าน Heng Bomakara รองอธิบดีฝ่ายกำกับดูแลการธนาคารของ NBC กล่าวว่าร้อยละ 67 ของประชากรในกัมพูชาสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้ภายในปี 2022 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 59 เมื่อเทียบกับปี 2021

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501223356/the-banking-industry-in-cambodia-continues-to-enjoy-high-growth-in-2022/

สถานะธนาคารรัฐทั้งหมดยังแข็งแกร่ง

สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศหลายแห่ง ทั้งทริสเรทติ้ง, มูดีส์ อินเวสเตอร์ส และฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของสถาบันการเงิน ของรัฐหลายแห่ง ทั้งธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิม แบงก์) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยพบว่าแม้ต้องเผชิญวิกฤติโควิด-19 และเป็นเครื่องมือของรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชน แต่สถานะธนาคารรัฐทั้งหมดยังแข็งแกร่ง และคงอันดับความน่าเชื่อถือไว้ที่ระดับสูง

ที่มา: https://www.thairath.co.th/business/finance/2570805

จำนวนบัญชีเงินฝากในสถาบันการเงินกัมพูชา เพิ่มขึ้นกว่า 18% ในช่วง 8 เดือนแรกของปี

จำนวนบัญชีเงินฝากภายในธนาคารพาณิชย์และสถาบันรับฝากเงินรายย่อย (MDIs) ในกัมพูชา เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 14.3 ล้านบัญชี ณ เดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 18 จากจำนวน 12.1 ล้านบัญชี ณ สิ้นปี 2021 โดยในจำนวนนี้คิดเป็นบัญชีในธนาคารพาณิชย์ 11.7 ล้านบัญชี และอีก 2.6 ล้านบัญชีอยู่ใน MDIs ซึ่งมูลค่าเงินฝากเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 8 หรือคิดเป็นมูลค่า 41.5 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาดังกล่าวจากมูลค่าเงินฝาก 38.4 พันล้านดอลลาร์ ณ สิ้นปี 2021 โดยปัจจุบันกัมพูชามีธนาคารพาณิชย์รวมทั้งสิ้น 58 แห่ง, ธนาคารเฉพาะกิจ 9 แห่ง และสถาบันไมโครไฟแนนซ์ 86 แห่ง รวมถึง MDIs 5 แห่ง ซึ่งมีสำนักงานใหญ่และสาขารวม 2,593 แห่ง ขณะที่มีตู้เอทีเอ็ม (ATM) รวมกันทั้งสิ้น 4,219 แห่งทั่วประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501177879/number-of-deposit-accounts-at-cambodias-banks-financial-institutions-up-18-pct-in-first-8-months/

ภาคธนาคารในกัมพูชาปรับขึ้นดอกเบี้ยตาม Fed

ธนาคารและสถาบันไมโครไฟแนนซ์ (MFI) หลายแห่งในกัมพูชาได้ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในสกุลเงินดอลลาร์และเรียลประมาณร้อยละ 0.5 และร้อยละ 1 ต่อปี ตามลำดับ แต่ยังคงไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ตามการรายงานของสมาคม โดยการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากภายในกัมพูชาเกิดขึ้นหลังจากคณะกรรมการตลาดกลางแห่งสหพันธรัฐ (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ Federal Reserve ได้ปรับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงธนาคารพาณิชย์ให้อยู่ในช่วงร้อยละ 2.25-2.5 ซึ่งปัจจุบันกัมพูชามีธนาคารพาณิชย์ดำเนินการภายในกัมพูชา 58 แห่ง, ธนาคารเฉพาะกิจ 9 แห่ง และสถาบันไมโครไฟแนนซ์ 86 แห่ง โดยมีสำนักงานใหญ่และสาขารวม 2,614 แห่ง รวมทั้งตู้เอทีเอ็ม (ATM) 3,998 แห่งทั่วประเทศ ตามรายงานล่าสุดของธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) ที่ออกเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501128445/banks-mfis-raise-interest-rates-following-fed-move/

เมียนมา จับมือ รัสเซีย หารือความร่วมมือด้านการธนาคาร

ธนาคารกลางของรัสเซียและธนาคารกลางแห่งเมียนมา (CBM) ดำเนินการประชุมความร่วมมือด้านการให้บริการของธนาคารครั้งที่ 2 ผ่านลิงก์วิดีโอเมื่อวันที่ 22 ก.ค.2565 เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการใช้บริการของประชาชน และหารือด้านนโยบายการเงิน การพัฒนาธนาคารให้มีเสถียรภาพ ทั้งนี้ยังขอความร่วมมือกับธนาคารทั่วประเทศปฏิบัติตามกฎระเบียบ คำสั่ง กฎและขั้นตอนที่ออกโดย CBM อย่างเคร่งครัด

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/myanmar-russia-discuss-banking-cooperation

ธนาคารพาณิชย์เวียดนามหั่นเป้ากำไรลง จากการแพร่ระบาดโควิด-19

ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งในเวียดนามได้ปรับลดกำไรเป้าหมายลงในปี 2563 และเตรียมการส่งเสริมบริษัทที่ประสบปัญหารุนแรงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกเหนือจากนี้ ธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) ออกคำสั่งเมื่อวันที่ 31 มี.ค. ถึงธนาคารพาณิชย์ให้ตัดต้นทุนและจ่ายโบนัส รวมถึงงดจ่ายเงินปันผล โดยธนาคารพาณิชย์ Nam A Bank ได้ทำการตรวจสอบผลการดำเนินงานในปี 2562 และแผนของปีนี้ ซึ่งในปัจจุบันตั้งเป้ากำไรก่อนภาษีอยู่ที่ 34 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ ลดลงร้อยละ 13.5 จากปีที่แล้ว แต่ก็มีแผนที่จะดำเนินเป้าหมายอื่นให้ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ประกอบกับทางธนาคารได้ปล่อยผลิตภัณฑ์สินเชื่อ 42.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แก่ลูกค้าบุคคลในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 9.9 ทั้งนี้ ธนาคารพาณิชน์ฮานอย (SHB) วางเป้ากำไรลดลงในปีนี้ ด้วยมูลค่าน้อยกว่า 1 ล้านล้านด่ง และยังวางแผนที่จะลดต้นทุนการดำเนินงาน รวมถึงผู้บริหารได้อาสาที่จะตัดค่าจ้างลงร้อยละ 50 จนกว่าสถานการณ์โรคโควิด-19 จะสิ้นสุดลงไป ขณะที่ หัวหน้าแผนกสามารถตัดค่าจ้างได้ประมาณร้อยละ 10-30 นอกจากนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่าการเติบโตของสินเชื่อปรับลดลงในปีนี้ อยู่ที่ร้อยละ 0.65 และ 1.72 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/commercial-banks-cut-profit-target-amid-covid19-pandemic-412360.vov