ภาคการท่องเที่ยวอาเซียนผนึกกำลังภาคการขนส่ง ดันการเติบโตภาคนักท่องเที่ยว

การประชุมระหว่างคณะรัฐมนตรีการท่องเที่ยวอาเซียนและรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของอาเซียน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ณ กรุงพนมเปญ นำโดย Sok Soken รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา ได้มีฉันทามติในประเด็นเร่งด่วนร่วมกันในการสนับสนุนความร่วมมือของภาคการท่องเที่ยวและการขนส่งของอาเซียน ในการผลักดันให้ภาคการท่องเที่ยวอาเซียนกลับมาเติบโตอีกครั้งหลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด รวมถึงมีความพยายามที่จะเพิ่มการไหลเวียนด้านการเดินทางของนักท่องเที่ยวภายในกลุ่มประเทศอาเซียน สำหรับทางการกัมพูชาให้ความสำคัญกับการปรับใช้กลยุทธ์เพื่อขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยว ให้กลายมาเป็นเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญ รวมถึงผลักดันให้ภาคสังคมเกิดการเติบโตด้วยการเพิ่มโอกาสการจ้างงานสร้างรายได้ โดยปัจจุบันนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มสำคัญมาจากสหภาพยุโรป ซึ่งมีปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 80 และนักท่องเที่ยวจากกลุ่มชาติเอเชียเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 60 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2019 ก่อนเกิดการแพร่ระบาด สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 239.60 ล้านดอลลาร์ โดยมีอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR 2023-2027) ที่เฉลี่ยร้อยละ 10.34 ซึ่งคาดว่ามูลค่าจะปรับเพิ่มขึ้นสู่ 355.20 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2027

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501391621/asean-tourism-joins-forces-with-transport-sector-to-boost-numbers/

ประธานาธิบดี สปป.ลาว แนะฉงฉิ่งส่งสินค้าผ่านทางรถไฟสาย สปป.ลาว-จีน

ประธานาธิบดีทองลุน สีสุลิด เสนอให้ สปป.ลาวและเทศบาลนครฉงชิ่งของจีน ร่วมมือกันขนส่งสินค้าโดยใช้ทางรถไฟสาย สปป.ลาว-จีน โดยการใช้ทางรถไฟเพื่อขนส่งสินค้าจะถือเป็นการเปิดตลาดให้กับ สปป.ลาว ไปยังพื้นที่ตอนกลางและตะวันตกของจีน นอกจากนี้ ทางประธานาธิบดียังขอให้ทางการฉงชิ่งสนับสนุนธุรกิจต่างๆ ของ สปป.ลาว รวมถึงการเข้ามาลงทุนยัง สปป.ลาว เพิ่มขึ้น ด้าน Yuan Jiajun ผู้ว่าการมณฑลฉงฉิ่งกล่าวเสริมว่าความสำเร็จในความร่วมมือระหว่าง สปป.ลาว และเทศบาลนครฉงชิ่งในปีที่ผ่านมาถือว่าผ่านไปได้ด้วยดี ภายใต้ข้อตกลงที่ทำขึ้นระหว่างผู้นำของทั้งสองฝ่าย เพื่อหวังยกระดับความร่วมมือทวิภาคีมากขึ้นเรื่อยๆ โดยการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 500 เมื่อเทียบเป็นรายปี นับตั้งแต่ต้นปีนี้การรถไฟฯ ได้ขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนไปแล้วกว่า 600,000 เมตริกตัน รวมถึงขนส่งสินค้านำเข้ากว่า 510,000 ตัน คิดเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 500 ตามรายงานจาก China Railway Kunming Group

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_President119.php

อินโดนีเซียจ่อใช้ประโยชน์จาก “ท่าบก-ท่านาแล้ง” ในสปป.ลาว

ผู้พัฒนาท่าบก-ท่านาแล้ง กล่าวถึงคณะผู้แทนของอินโดนีเซียว่า อินโดนีเซียสามารถเชื่อมต่อกับตลาดจีนและยุโรปทางบก ด้วยการขนส่งทางรถไฟผ่าน สปป.ลาว ซึ่งหลายประเทศในภูมิภาค โดยเฉพาะจีน สปป.ลาว และไทย เริ่มใช้บริการขนส่งทางรถไฟแล้วด้วยความคุ้มค่าคุ้มราคาเมื่อเทียบกับการขนส่งในช่วงก่อนมีทางรถไฟสายดังกล่าว ด้าน Tee Chee Seng รองประธาน บริษัท Vientiane Logistics Park Co., Ltd. ผู้พัฒนาท่าบก กล่าวว่า ปัจจุบันเครือข่ายของท่าบกได้เชื่อมไปถึงมาเลเซียและสิงคโปร์แล้ว และในอนาคตอันใกล้ตั้งใจจะเชื่อมไปถึงอินโดนีเซีย เพื่อเอื้อต่อภาคการขนส่งระหว่างประเทศ โดยท่าบกถือเป็นประตูการค้าแห่งแรกและสำคัญที่สุดระหว่างจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2021 ด้วยมูลค่าการลงทุนก่อสร้างรวม 727 ล้านดอลลาร์ ประกอบด้วยศูนย์โลจิสติกส์ 7 โซน ในการอำนวยความสะดวกแก่ภาคการขนส่ง

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_Thanleng106.php

‘ศักดิ์สยาม’ เร่งลงทุนขนส่งบูม ศก.ไทย ปักธงฮับอาเซียน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “Empowering Thailand 2021 เคลื่อนอนาคตไทยด้วยการลงทุน” ในงานสัมมนาเรื่อง “EMPOWERING THAILAND 2021 เคลื่อนอนาคตไทยด้วยการลงทุน” ว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัส โควิด-19 ตั้งแต่ปี 2019 ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกเกิดภาวะชะงักงัน โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้คาดการณ์ว่าในปีนี้เศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวได้ดีขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 6 เนื่องจากมีวัคซีนในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมมีแผนการขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของภูมิภาคอาเซียน เพื่อให้การคมนาคมขนส่งของประเทศมีความสะดวก ปลอดภัย และรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งทางราง เพื่อลดต้นทุนการขนส่งของประเทศ และการเตรียมความพร้อมการคมนาคมขนส่งทางอากาศรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยว ตามนโยบายของรัฐบาลที่จะเปิดประเทศ ภายใน 120 วัน หรือ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” (Phuket Sandbox)

ที่มา : https://www.posttoday.com/economy/news/656301