รัฐบาลสปป.ลาวและUN Habitat ดำเนินการระยะสองในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำ

รัฐบาลสปป.ลาวและUN Habitat จะเริ่มดำเนินการในระยะที่สองของโครงการ Adaptation Fund ตามแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก – ตะวันตกในภาคกลางของสปป.ลาว โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อจัดหาโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำให้เข้ากับการวางผังเมืองรวมถึงมีความยืดหยุ่นต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง บันทึกความเข้าใจ (MOU) สำหรับกองทุนดำเนินการในระยะที่สองของโครงการ Adaptation Fund ได้รับความร่วมมือระหว่างกระทรวงโยธาธิการและการขนส่งและมูลนิธิที่อยู่อาศัยของสหประชาชาติ ซึ่งภายในงานนางวิไลคำรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงโยธาธิการและคมนาคมได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของน้ำ เพราะเป็นปัจจัยสำคัญในการชี้วัดความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คน และเธอหวังว่าโครงการดังกล่าวจะเข้าถึงผู้คนที่เปราะบางมากขึ้น การพัฒนาการโครงสร้างพื้นฐานทางน้ำดังกล่าว จะเป็นรากฐานที่สำคัญที่ในการทำให้แนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก – ตะวันตกในภาคกลางของสปป.ลาว แข็งแกร่งและดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุนได้มากขึ้นและเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกจสปป.ลาวต่อไป

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Ministry_165.php

SECC และ CCC ลงนาม MoU ในการส่งเสริมกลุ่มหลักทรัพย์ในกัมพูชา

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งกัมพูชา (SECC) และหอการค้ากัมพูชา (CCC) ได้ทำบันทึกความเข้าใจ (MoU) เกี่ยวกับความร่วมมือในการสร้างความตระหนักและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของ บริษัท ในกลุ่มหลักทรัพย์กัมพูชา โดยบันทึกความเข้าใจนี้ลงนามเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยอธิบดี SECC และประธานของ CCC ได้บันทึกความเข้าใจซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือในการส่งเสริมและสร้างความตระหนักในตลาดหลักทรัพย์ให้กับองค์กรการค้าเพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุนในตลาดทุน รวมถึงเพื่อดึงดูดการลงทุนจากภาคเอกชนในท้องถิ่น ด้วยการลงนามใน MoU ถือเป็นภาพสะท้อนของการมีผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์มากขึ้นในกัมพูชาให้ความสนใจกับตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา (CSX) โดยเตรียมเข้าสู่ตลาดเพื่อรวบรวมเงินทุนจากตลาดหุ้นและการค้าในตลาดหุ้น แสดงความมั่นใจต่อสมาชิกของ CCC ในตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา ปัจจุบัน CSX มี บริษัท 11 แห่ง บริษัท หลักทรัพย์ 5 แห่งและ บริษัท หุ้นกู้ 6 แห่ง ซึ่งมีเงินทุนรวมทั้งสิ้น 223 ล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50726211/secc-ccc-sign-mou-on-promoting-securities-sector/

รอบสองเดือนการค้าเมียนมา-จีน แตะ1.337 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

มูลค่าการค้าระหว่างเมียนมาและจีนอยู่ที่ 1.337 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในสองเดือนของปีงบประมาณนี้และเมียนมามีดุลการค้าเนื่องจากนำเข้าสินค้าเพียง 551 ล้านดอลลาร์ ส่วนการส่งออกมูลค่ากว่า 785 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งสองประเทศเปิดศูนย์ธุรกิจและดำเนินการเพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนและการลงทุนตามที่กระทรวงกำหนด กระทรวงพาณิชย์ของเมียนมาลงนาม MoU กับจีนเพื่อจัดตั้งเขตความร่วมมือทางเศรษฐกิจชายแดน (EOI) และเชิญให้นักธุรกิจท้องถิ่นเข้าร่วมในพื้นที่ดังกล่าวเช่น Muse, Nantkhan, Kanpiketie, Laukkai และ Chinshwehaw

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/myanmar-china-trade-volume-reaches-to-us1337-b-within-two-months

สภาหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติลาวเสริมสร้างความสัมพันธ์สภาธุรกิจจีน – อาเซียน

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติลาว (LNCCI) ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับสภาธุรกิจจีน – อาเซียน (CABC) ในการบันทึกความเข้าใจนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างทั้ง2ฝ่ายทั้งด้านการลงทุน การอำนวยความสะดวกด้านการค้าและความร่วมมือเพื่อประโยชน์ในอนาคตปัจจุบันนักลงทุนจีนกำลังให้ความสนใจกับภูมิภาคอาเซียนรวมถึงสปป.ลาว โดยจีนเป็นกลุ่มนักลงทุนหลักของสปป.ลาว ธุรกิจที่ลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเป็นจำนวนมากในสปป.ลาว ได้แก่ ไฟฟ้าพลังน้ำ การเกษตร การก่อสร้างการท่องเที่ยวและโลจิสติกส์ การลงทุนไม่เพียงแค่เข้าสู่ตลาดสปป.ลาว แต่ยังรวมถึงตลาดอาเซียนซึ่งมีมากกว่า 600 ล้านคน ทำให้ข้อตกลงดังกล่าวเป็นผลดีแก่สปป.ลาวที่จะเกิดการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดรวมถึงพัฒนาการด้านเศรษฐกิจที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/lao-national-chamber-commerce-and-industry-strengthens-ties-china-asean-business-council

เมียนมา-ไทยเซ็น MOU โอนเงินข้ามแดน

ธนาคารพาณิชย์จาก 2 ประเทศ คือธนาคาร Ayeyarwady (AYA Bank) ของเมียนมาและธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ของไทยได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อร่วมมือกันในการพัฒนาการชำระเงินและบริการโอนเงินระหว่างสองประเทศ เมื่อเดือนตุลาคม 62 ที่ผ่านมาคาดเริ่มใช้งานได้เร็วๆ นี้ ที่ผ่านมาการชำระเงินผ่านธนาคารจะใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐซึ่งส่งผลเสียจากการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ MOU นี้สามารถทำให้การชำระเงินเป็นไปอย่างสะดวกมากขึ้น แม้ว่าจะมีแรงงานอพยพชาวเมียนมาจำนวนมากในไทยการโอนเงินจะเกิดขึ้นผ่านระบบ Hundi ซึ่งเป็นระบบการชำระเงินนอกระบบ  ใน 4 ประเทศที่มีพรมแดนติดกับเมียนมา ไทยเป็นคู่ค้าที่ใหญ่เป็นอันดับสอง ปริมาณการค้าที่ชายแดนไทย – เมียนมาประกอบด้วย ท่าขี้เหล็ก เมียวดี เกาะสอง มะริด ทิกิ และเมาะตุง ในปีงบประมาณ 61-62 มีมูลค่า 3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/myanmar-thailand-agree-cross-border-transfers.html

สปป.ลาว-เวียดนามลงนามความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ระหว่างประเทศ

ระหว่างวันที่ 2-4 มกราคม 63 นายกรัฐมนตรีสปป.ลาวและนายกรัฐมนตรี​เวียดนามมีการลงนามสนธิสัญญาความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยในหัวข้อที่มีการทำสนธิสัญญากันมีเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกันคือเพื่อครอบคลุมผลประโยชน์ของทั้ง 2 ประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศโดยมีการลงนามในสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน สนธิสัญญาการพัฒนาโครงการไฟฟ้าพลังน้ำในสปป.ลาว สนธิสัญญาด้านการค้าเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนรวมทั้งยังมีส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อีกด้วย ที่ผ่านมาเวียดนามลงทุนในโครงการในสปป.ลาว 413 โครงการมูลค่ารวม 4.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ตั้งแต่ปี59 ถึงปัจจุบันเวียดนามให้เงินช่วยเหลือแก่สปป.ลาวเป็นจำนวน 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อช่วยเหลือในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ดังนั้นสนธิสัญญาจะเป็นข้อตกลงที่จะช่วยยกระดับมิตรภาพที่ดีและความร่วมมือที่ครอบคลุมผลประโยชน์ระหว่างประเทศทั้งความมั่นคงและเศรษฐกิจสปป.ลาว

ที่มา http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Lao_vietnam_3.php

สปป.ลาวและสาธารณรัฐเกาหลีลงนามในบันทึกความเข้าใจ 3 ฉบับ

สปป.ลาวและสาธารณรัฐเกาหลี  ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ 3 ฉบับ ซึ่งข้อมูล MOU เกี่ยวกับการบริหารจัดการท่าเรือทรัพย์สินทางปัญญา ความร่วมมือทางวิชาการและอาชีพ มีการลงนามในโอกาสการประชุมทวิภาคีระหว่างนายกรัฐมนตรีสปป.ลาวและประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเกาหลี  จัดขึ้นในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีสปป.ลาวเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน – สาธารณรัฐเกาหลี สมัยพิเศษ ในระหว่างการประชุมทวิภาคีทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญกับมิตรภาพและทบทวนความร่วมมือในอดีตโดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินการตามผลการเยือนสปป.ลาว ในการหารือทวิภาคีทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการเสริมสร้างความร่วมมือในด้านต่าง ๆ เช่นการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา สุขภาพ การลงทุน การท่องเที่ยวและการสนับสนุนการส่งเสริม SMEs และธุรกิจที่เกิดใหม่

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos262.php

การส่งออกมะม่วงไปเกาหลีใต้ได้รับการอนุมัติ

หลังจากการเจรจาเรื่องข้อกำหนดการส่งออกมาเป็นเวลานาน โดยการส่งออกมะม่วงในประเทศรอบแรกจะถึงเกาหลีใต้ก่อนสิ้นปีตามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีใต้ ซึ่งการประชุมระหว่างกันในครั้งนี้ถูกจัดขึ้น ณ การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในเมืองปูซานของเกาหลีใต้ โดยได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือด้านการเกษตร ซึ่งกัมพูชาสามารถเริ่มส่งออกมะม่วงอย่างเป็นทางการไปยังตลาดเกาหลีได้ตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคมโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวง Veng Sakhon อธิบายว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นผลมาจากความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างประเทศในภาคเกษตรกรรมและขอความช่วยเหลือจากเกาหลีในการปรับปรุงภาคการเกษตรของกัมพูชาให้ทันสมัย ซึ่งผู้บริโภคชาวเกาหลีมีความคาดหวังเป็นอย่างมากสำหรับมะม่วงของกัมพูชา โดยประธานสมาคมกำปงสปือได้ชื่นชมการทำงานของรัฐบาลในการขยายตลาดสำหรับผู้ส่งออกมะม่วง ซึ่งกำปงสปือสามารถผลิตผลไม้ได้ 500,000 ถึง 700,000 ตันต่อปี ราคาต่อกิโลกรัมอยู่ในช่วงตั้งแต่ 0.50 เหรียญสหรัฐ ถึง 0.86 เหรียญสหรัฐ ขึ้นอยู่กับคุณภาพ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50664792/mango-exports-to-south-korea-given-greenlight/

ไทย-ฮ่องกง เอ็มโอยูหุ้นส่วนศก.

รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า ในวันที่ 29 พ.ย.นี้ ผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกง จะเดินทางมาไทย เพื่อเข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการร่วมระดับสูงไทย-ฮ่องกง เป็นครั้งแรก กับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 6 ฉบับ โดยฉบับแรกถือเป็นฉบับใหญ่ที่สุด เป็น กรอบความร่วมมือระหว่างรัฐบาลที่มีเนื้อหาครอบคลุมความร่วมมือในการพัฒนาทุกด้าน ส่วนเอ็มโอยูที่เหลือจะเป็นกรอบการพัฒนาที่แยกออกเป็นด้าน ต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรม การเงิน และนวัตกรรม ทั้งนี้ในการหารือครั้งดังกล่าว ทั้ง 2 ประเทศจะร่วมกันพิจารณาแนวทางความร่วมมือระหว่างกันซึ่งต่อยอดมาจากการเดินทางไปเยือนฮ่องกงของนายสมคิด และคณะ เมื่อช่วงเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา โดยในระหว่างการหารือครั้งนี้จะยกเนื้อหาที่ครอบคลุมทางด้านเศรษฐกิจหลายเรื่องมาหารือกัน เช่น การทำความตกลงการค้าไทยฮ่องกง การส่งเสริมผู้ประกอบการกลุ่มสตาร์ทอัพ การร่วมมือทางด้านเทคโนโลยี การเชื่อมโยงด้านการเงินระหว่างกัน และการส่งเสริมเรื่องของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เช่นเดียวกับการเชื่อมโยงทางด้านประเด็นทางการเมืองด้วย นอกจากนี้ยังมีคณะของ รมต.พาณิชย์และการพัฒนาเศรษฐกิจของฮ่องกง พาคณะนักธุรกิจฮ่องกงกว่า 50 คนมาเยือนไทย เพื่อมาศึกษาช่องทางการค้าและการลงทุน และวันที่ 28 พ.ย.นี้ จะมีงานสัมมนาใหญ่เพื่อชี้แจงข้อมูลการลงทุนด้วย.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 28 พ.ย. 2562

กระทรวงการวางแผนและการลงทุน หน่วยงานตรวจสอบของรัฐผลักดันความร่วมมือแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในสปป.ลาว

กระทรวงการวางแผนและการลงทุนและหน่วยงานตรวจสอบของรัฐกำลังดำเนินการเพื่อผลักดันให้เกิดความร่วมมือที่ดีขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความท้าทายในการดำเนินการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของรัฐบาล ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามใน MOU ในเดือนมิ.ย.ที่จะทำงานร่วมกันและแบ่งปันข้อมูล ซึ่งการเจรจาครั้งนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยเหลือการจัดการการวางแผนและการลงทุนของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับงบประมาณของรัฐการบริหารจัดการทรัพย์สินของรัฐและการระดมทุนจากนักลงทุนเอกชนเพื่อการพัฒนาและการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ การทำงานร่วมกันนี้จะช่วยปรับปรุงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศโดยเน้นการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการพัฒนาในพื้นที่ชนบทและลดระดับความยากจน และผู้ช่วยรัฐมนตรีเรียกร้องให้หน่วยงานต่างๆ ทำงานร่วมกันเพื่อดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงและจัดทำเอกสารที่จำเป็นสำหรับแผนพัฒนา

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/planning-state-inspection-teamwork-targets-socio-economic-development-plans-laos-105281