World Bank พร้อมสนับสนุนการปฏิรูปเศรษฐกิจในเมียนมา

ธนาคารโลกจะให้การสนับสนุนเมียนมาภายใต้กรอบความร่วมมือกับประเทศตั้งแต่ปี 2563 ถึง 2566 โดยมุ่งเน้นไปที่สามด้าน เช่น การสร้างทุนมนุษย์และส่งเสริมชุมชน กระตุ้นการเติบโตของภาคเอกชนที่นำโดยรับผิดชอบและโอกาสทางเศรษฐกิจโดยรวม และเพิ่มความยืดหยุ่นในการรับมือกับภัยธรรมชาติในขณะเดียวกันก็มั่นใจว่าทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะถูกจัดการอย่างยั่งยืน การคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจในขณะนี้คาดว่าจะลดลงอย่างรวดเร็วจาก 6.3 เปอร์เซ็นต์ใน 2561-2562 เหลือ 2% ในปี 2562-2563 เนื่องจาก COVID – 19 ในขณะที่เศรษฐกิจคาดว่าจะฟื้นในปีหน้าหากการระบาดสามารถควบคุมได้และการค้าโลกกลับมาอีกครั้ง ในขณะเดียวกันธนาคารโลกได้ให้เงินกู้ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับโครงการฉุกเฉินอย่าง COVID-19 และได้รับเงินช่วยเหลือ 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากแหล่งเงินทุนฉุกเฉินสำหรับการแพร่ระบาด

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/world-bank-pledges-support-economic-reform-myanmar.html

EIB ได้รับเงินสนับสนุน 12.7 ล้านยูโรสำหรับโรงผลิตน้ำประปาในบาเค็งประเทศกัมพูชา

ธนาคารเพื่อการลงทุนของยุโรปได้รับเงินสนับสนุนจากสหภาพยุโรป 12.7 ล้านยูโร สำหรับการก่อสร้างโรงผลิตน้ำประปาในบาเค็งและเครือข่ายการจ่ายน้ำ 500 กม. ในเมืองหลวงของกัมพูชา ณ กรุงพนมเปญ โดยโครงสร้างพื้นฐานนี้จะนำน้ำดื่มที่ปลอดภัยและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้คนกว่า 700,000 คน จากชุมชนที่ยากจนที่สุดในเมือง เป็นการลงทุนระยะยาวในความยืดหยุ่นของประเทศต่อการแพร่ระบาดของโรคเช่น Covid-19 เพราะให้การเข้าถึงน้ำดื่มสะอาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการบรรเทาวิกฤติอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเสริมการลงทุนก่อนหน้านี้ที่มีมูลค่าราว 185 ล้านยูโรจากธนาคารเพื่อการลงทุนยุโรป (EIB) และ Agence Française de Développement (AFD) ซึ่งการผสมผสานของ EIB, AFD และการจัดหาเงินทุนของสหภาพยุโรปจะให้น้ำดื่มที่ผ่านการบำบัดแล้วไปยังพนมเปญที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยความต้องการน้ำประปาคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากความต้องการในปัจจุบันภายในปี 2573

ที่มา : https://english.cambodiadaily.com/business/eib-secures-eur-12-7m-grant-for-bakheng-water-treatment-plant-in-cambodia-164271/

Covid-19 ส่งผลให้ภาคการผลิตน้ำมันของกัมพูชาชะงัก

การระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัส Covid-19 คาดว่าจะชะลอการพัฒนาของแหล่งน้ำมันอัปสรา ซึ่งตั้งอยู่ที่แปลง A ของฝั่งกัมพูชาของลุ่มน้ำเขมรในอ่าวไทย โดยได้รับการพัฒนาโดย KrisEnergy Ltd. บริษัทจากทางสิงคโปร์ ซึ่งกระทรวงเหมืองแร่และพลังงานกล่าวว่าโรคระบาดทั่วโลกกำลังดำเนินไปอย่างช้าๆ แต่ปัจจุบัน บริษัท ยังคงพัฒนาโครงการอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทยังคงทำงานหนักเพื่อให้งานสำเร็จ แต่มันยากสำหรับบริษัทเนื่องจากสถานการณ์ Covid-19 แม้แต่การส่งช่างไปยังการก่อสร้างแพลตฟอร์มขั้นต่ำก็พิสูจน์ให้เห็นได้ยากและการดำเนินงานในไซต์ก็หยุดชะงักลง

ที่มา : https://english.cambodiadaily.com/business/virus-puts-cambodia-oil-production-into-question-164258/

เศรษฐกิจสปป.ลาวต้องมีการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ

Mr.Daovone Phachanthavong รองประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติของสปป.ลาวได้ให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์แห่งชาติสปป.ลาวว่า “ ควรมีการปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำให้กับ SMEs ซึ่งเงินจะเป็นแหล่งเงินทุนที่จำเป็นมากสำหรับธุรกิจในการรับมือกับผลกระทบของการระบาดของ COVID-19 ซึ่งถือเป็นวิธีการอัดฉีดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจที่ดีที่สุด ณ ขณะนี้ ” ปัจจุบันหอการค้ามีสมาชิกมากกว่า 4,000 คนทั่วประเทศซึ่งส่วนใหญ่เป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โดยธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการระบาดของ COVID-19 ได้แก่ สายการบิน ภาคการท่องเที่ยว โรงแรม ผู้ประกอบการขนส่งร้านอาหาร ร้านนวด สนามกอล์ฟและโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า การช่วยเหลือดังกล่าวมีสถาบันการเงินระหว่างประเทศเสนอเงินช่วยเหลือ 80 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แก่สปป.ลาว รวมถึงรัฐบาลจีนเสนอเงินให้กู้ยืมแก่ SMEs 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  นอกจากนี้ Mr.Daovone ยังกล่าวเสริมอีกว่ารัฐบาลควรให้การสนับสนุนและเร่งพัฒนาภาคการเกษตรเพื่อให้สามารถส่งออกได้มากขึ้นเพราะจีนมีความต้องการผลผลิตทางการเกษตรจำนวนมาก ดังนั้นการส่งออกผลผลิตเกษตรของสปป.ลาวจะช่วยทำให้เศรษฐกิจของสปป.ลาวกับมาดีขึ้น

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Lao94.php