ยอดคำสั่งซื้ออาหารทะเลดิ่งลง เนื่องจากผลกระทบเชิงลบของโควิด-19

จากข้อมูลของสมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตอาหารทะเลเวียดนาม (VASEP) เปิดเผยว่ายอดสั่งซื้ออาหารทะเลของธุรกิจลดลง ประมาณร้อยละ 20-50  โดยยอดคำสั่งซื้อลดลงในช่วงต้นเดือนมี.ค. เป็นผลมาจากผลกระทบเชิงลบของโควิด-19 ยกตัวอย่างเช่น บริษัทปลาสวายที่ส่งออกไปยังตลาดจีน ด้วยกำไรสูง แต่ได้หยุดชะงักในช่วงเดือนม.ค.ของปีนี้ จากสถานการณ์แพร่ไวรัส ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงต้นเดือนมี.ค. สถานการณ์แพร่ระบาดหนักไปทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มสหภาพยุโรปที่ได้ระงับการทำธุรกรรมทั้งหมดและนโยบายปิดภัตตาคาร โรงแรม ส่งผลให้สินค้าคงเหลือมีจำนวนมากและคำสั่งซื้อใหม่ยังไม่ได้ทำสัญญาอีกครั้ง ด้วยเหตุนี้ กิจกรรมการผลิตอาหารทะเลของธุรกิจส่วนใหญ่ล้วนได้รับผลกระทบเชิงลบ จากการที่ขาดวัตถุดิบ ยกเว้นธุรกิจปลาสวาย (Pangasius) ในขณะที่ ยอดคำสั่งซื้อกุ้งลดลงร้อยละ 20-50 จากการส่งออกไปยังสหรัฐฯและยุโรป จากการล่าช้าในการขนส่งหรือยกเลิก เป็นผลมาจากทั้งผู้ส่งออกและผู้นำเข้ามีสินค้าคงเหลือจำนวนมาก นอกจากนี้ แนวทางในการจัดการกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ทางสมาคมฯ ได้เรียกรองให้สมาชิกเร่งดำเนินตามกฎหมาย เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของไวรัสตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข และสิ่งที่ควรทำ คือ กาควบคุมกำลังการผลิตและร่วมมือกับภาครัฐ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/654053/foreign-investors-pour-855b-in-vn-in-q1.html

เวียดนามเผยโครงการใหม่ด้วยเงินทุนจดทะเบียน FDI เพิ่มขึ้น 45% ในช่วงไตรมาสแรก

จากรายงานของหน่วยงานการลงทุนในต่างประเทศ ภายใต้กระทรวงวางแผนและการลงทุน (MPI) เปิดเผยว่าเวียดนามได้รับใบอนุญาตการลงทุนในโครงการใหม่ 758 โครงการ ด้วยเงินทุน 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 เพิ่มขึ้นร้อยละ 45 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยโครงการที่ปรับเพิ่มเงินทุนมีอยู่มากกว่า 230 โครงการ มูลค่า 1.07 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค. ในขณะที่ มูลค่าซื้อหุ้นจากต่างประเทศอยู่ที่ราว 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและโครงการลงทุนจากต่างชาติมีการเบิกจ่ายเงินทุนประมาณ 3.85 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 6.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับสาขาธุรกิจ พบว่านักลงทุนต่างชาติอัดฉีดเงินทุนใน 18 ภาคธุรกิจ โดยส่วนใหญ่ลงทุนในภาคการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ด้วยมูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 47.5 ของเงินทุนทั้งหมด รองลงมาภาคการผลิตและแปรรูป ตามด้วยภาคการค้าปลีกค้าส่ง นอกจากนี้ สิงคโปร์เป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุด รองมาเป็นญี่ปุ่นและจีน อีกทั้ง บากเลียว (Bac Lieu) เป็นจังหวัดที่ดึงดูดจากนักลงทุนต่างชาติมากที่สุด รองลงมานครโฮจิมินห์ ตามมาด้วยฮานอยและบ่าเสียะ-หวุงเต่า ตามลำดับ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/newly-registered-fdi-rises-by-nearly-45-percent-in-q1/170684.vnp

แรงงานเมียนมาหลังไหลกลับเมียวดีเพิ่มขึ้น

แรงงานเมียนมาจำนวนมากขึ้นจะถูกส่งกลับผ่านทางท่าเรือของงเมียวดี การเดินทางจะถูก จำกัดที่สะพานมิตรภาพหมายเลข 2 เจ้าหน้าที่จากทั้งสองประเทศได้เจรจาเพื่อให้แรงงานราว 2,000 คนเดินทางผ่านสะพานและทำการตรวจสุขภาพก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้เข้าเมียวดี แรงงานอพยพจะถูกกักบริเวณในบ้านเป็นเวลา 14 วันที่เมืองและโดยจะถูกแยกไว้ที่เมียวดี และจะมีการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อในตลาด ถนน บ้านเรือนและพื้นที่แออัดอีกด้วย

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/more-myanmar-migrants-return-to-myawady

World Bank จับมือ ADB ช่วยเหลือเมียนมาจัดการกับผลกระทบของ COVID-19

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุนและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (MIFER) ธนาคารโลกของเมียนมาและธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ร่วมหารือในการจัดการกับผลกระทบของ COVID-19 ที่มีต่อระบบเศรษฐกิจ MIFER กล่าวว่าธนาคารโลกได้ใช้งบ 14 พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อสนับสนุนประเทศสมาชิกในการเผชิญกับ COVID-19 โดยมอบ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐจะให้แก่เมียนมาภายใต้ระบบ Fast Track และธนาคารโลกกำลังประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจของเมียนมา จากนั้นธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียแจ้งว่าจะจัดสรรความช่วยเหลือมูลค่า 6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับการพัฒนาประเทศสมาชิก ADB ประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุขและการกีฬาเพื่อให้สินเชื่อและเงินช่วยเหลือเพื่อใช้ในความพยายามในการป้องกันและควบคุม COVID-19 นอกจากนี้ยังได้หารือกับ ADB จัดสรรเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายใต้กองทุนโครงการประกันสุขภาพของ The Greater Mekong Subregion (GMS)

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/world-bank-adb-assist-myanmars-efforts-deal-covid-19s-effects.html

รัฐบาลสปป.ลาวเพิ่มมาตราการรับมือ Covid-19

นายกรัฐมนตรีทองหลวงศรีสุลิศได้บอกให้ทุกภาคส่วนพิจารณาอนุญาตให้พนักงานทำงานจากที่บ้านได้เพื่อป้องกันการติดเชื้อ coronavirus (Covid-19) หลังจากที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขยืนยันผู้ติดเชื้อรายที่สามของสปป.ลาวซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายแรก ในขณะเดียวกันจากมาตราการป้องกันของประเทศไทยทำให้แรงงานสปป.ลาวตกงานทำให้มีการหลั่งไหลเข้ามาของแรงงานที่กลับจากไทยทำให้เพิ่มโอกาสที่จะแพร่กระจาย Covid-19 ในสปป.ลาวได้ ทำให้ตอนนี้สปป.ลาวต้องมีการยกระดับการป้องกันเพื่อที่จะควบคุมการแพร่ระบาดให้ได้ โดยทางการสปป.ลาวได้ออกมาขอความร่วมมือของประชาชนให้เริ่มมีการกักตัวเองอยู่บ้าน 14 วัน และลดการพบปะหรือชุมนุมในช่วงนี้นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือไปยังภาคเอกชนในการอนุญาตให้พนักงานทำงานจากที่บ้านได้ทั้งนี้มองว่าการให้มีการ Working from home จะทำให้ลดโอกาสการแพร่ระบาดร่วมถึงภาคธุรกิจยังสามารถดำเนินงานได้ไปในบ้างส่วนและลดผลกระทบต่างๆที่ทางบริษัทจะได้รับในช่วงนี้ อย่างไรก็ตามการยกระดับการรับมือกับ Covid-19 จะต้องพิจารณาวันต่อวันหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นอาจต้องมีมาตราการที่เข้มข้นกว่านี้ นายกรัฐมนตรีกล่าว

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Working.php

สกุลเงินเรียลของกัมพูชาในยุคดิจิตอล

ในบริบทของการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 การส่งเสริมการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ถือเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการชำระเงิน อย่างไรก็ตามการปรับตัวของเทคโนโลยีทางการเงิน (Fintech) ในระบบธนาคารของกัมพูชายังอยู่ในช่วงเริ่มต้น โดยธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) ส่งเสริมและอำนวยความสะดวกในการชำระเงินภายในตลาดท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมสังคมการชำระเงินแบบไร้เงินสด รวมถึงการส่งเสริมให้ใช้สกุลเงินท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้น ซึ่งโครงการ Bakong คาดว่าจะเปิดตัวได้อย่างสมบูรณ์ในปีนี้จะเป็นแกนหลักของระบบการชำระเงินในกัมพูชาเพื่อเชื่อมโยงธนาคารและผู้ให้บริการด้านการชำระเงินด้วยการใช้แอปพลิเคชัน Bakong ที่มีฟังก์ชั่นที่สามารถทำการโอนเงินแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังอนุญาตให้ผู้ใช้โอนเงินทั้งในสกุล เรียลและดอลลาร์สหรัฐไปยังอีกแพลตฟอร์มหนึ่งได้จากทุกที่ที่มีอินเทอร์เน็ต ปัจจุบันมีสถาบันการเงิน 12 แห่ง ที่เข้าร่วมระบบรวมถึงธนาคาร ACLEDA Bank, Foreign Trade Bank (FTB), Wing (Cambodia) Ltd, Specialised Bank, Cambodia Post Bank, Sathapana, Canadia, Chip Mong, AMK and Speed Pay.

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50705458/riel-money-in-the-digital-era/

สัมมนาดิจิตอล 2020 ในกัมพูชาต้องเลื่อนออกไปจากการระบาดของ COVID-19

กัมพูชากำลังประสบกับปัญหาการระบาดของ Covid-19 นำไปสู่การเลื่อนจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่สำคัญหลายอย่างที่มีกำหนดที่จะจัดขึ้นในเดือนนี้ในกัมพูชารวมถึงงาน Digital Cambodia 2020 ซึ่งเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดสำหรับภาคดิจิตอลที่กำลังขยายตัวในปีนี้ ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 มีนาคมที่ผ่านมา ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้า Diamond Island ในกรุงพนมเปญ มีบริษัทเกือบ 200 แห่ง ทั้งในและต่างประเทศในภาคดิจิตอลและสาขาที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าจะดึงดูดชาวกัมพูชาและนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 30,000 คน แต่ต้องทำการเลื่อนออกไปจากการแพร่ระบาดของไวรัสในปัจจุบัน โดยงานสัมมนานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างกลุ่มคนที่มีความสามารถซึ่งจะช่วยเสริมสร้างภาคเทคโนโลยีที่กำลังเติบโตของกัมพูชา แต่ด้วยการระบาดของ Covid-19 แผนทั้งหมดจึงจำเป็นที่จะต้องถูกเลื่อนออกไปก่อน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50705451/pandemic-means-that-digital-2000-postponed/

กลยุทธ์ส่งออก ฝ่าโควิด-19 ดันสินค้า Essential-Online Exhibition

ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการค้าโลก ทำให้โอกาสที่การส่งออกปี 2563 จะขยายตัว 3% ตามเป้าหมาย เริ่มจะห่างไกลออกไป แม้ว่าจะเปิดฉากมาในเดือนมกราคม 2562 ที่บวกถึง 3.35% แต่ล่าสุดสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) รายงานว่า การส่งออกไทย เดือนกุมภาพันธ์ 2563 มูลค่า 20,641 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 4.47% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 16,745 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 4.30% ส่งผลให้การค้าไทยเกินดุล 3,897 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยพิจารณาการส่งออกรายสินค้าพบว่า สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร หดตัว 3.0% จากการหดตัวของการส่งออกข้าว ในตลาดสหรัฐและจีน ผัก ผลไม้สด แช่แข็งและแปรรูป หดตัวจากตลาดจีน ส่วนสินค้าที่ยังขยายตัวดี ได้แก่ ยางพารา อาหารสัตว์เลี้ยง สิ่งปรุงรสอาหาร ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป จากผลพวงปัญหาการระบาดของ โควิด-19 ส่งผลให้ตลาดส่งออกสำคัญหลายตลาดหดตัว อาทิ จีน ติดลบ 2% ฮ่องกง ลบ 3% ญี่ปุ่น ลบ 7% ขณะที่สหรัฐ ลดลง 37% ต่ำสุดเนื่องจากฐานการส่งออกของสหรัฐในปีที่ผ่านมาขยายตัวจากการส่งออก “อาวุธ” และเป็นที่น่าสังเกตว่า ตลาดอาเซียนภาพรวม ขยายตัว 6.1% โดยเฉพาะตลาด CLMV ขยายตัว 5.8%

ที่มา : นสพ.ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 26 – 29 มี.ค. 2563