ญี่ปุ่นให้เงินช่วยเหลือสปป.ลาวเพื่อบรรเทาภัยพิบัติ

เมื่อวันจันทร์ที 23 ธค.62 ได้มีพิธีลงนามในการแลกเปลี่ยนบันทึกสำหรับโครงการให้ความช่วยเหลือ โดยรัฐบาลญี่ปุ่นตกลงที่จะให้เงินสนับสนุนมากกว่า 8 พันล้านกีบ (9.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศลาวนาย Takewaka Keizo และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสปป.ลาวร่วมลงนาม โครงการดังกล่าวจะช่วยให้รัฐบาลสปป.ลาวมีอุปกรณ์มูลค่า 9.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่จะช่วยเหลือผู้ประสบภัยและการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติจะเริ่มเปิดดำเนินการใช้งานเมื่ออุปกรณ์ครบและอุปกรณ์ดังกล่าวจะถูกส่งไปประจำการป้องกันภัยพิบัติทั่วประเทศ เพื่อความั่นคงและความปลอดภัยของชีวิตการเป็นอยู่ในประเทศและป้องกันความเสียหายให้ลดลงเมื่อเกิดภัยพิบัติในครั้งต่อ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Japan276.php

เกษตรกรจำปาสักปลูกข้าวที่ประสบอุทกภัย

เจ้าหน้าที่ระดับแขวงสนับสนุนเกษตรกรปลูกข้าวกว่า 5,000 ไร่และปลูกพืชอื่นอีกกว่า 30,000 ไร่หลังจากที่สูญเสียข้าวจำนวนมากเมื่อน้ำท่วมท่วมพื้นที่ของพวกเขาในฤดูฝน นาย Padith Vannalatsamy ผู้อำนวยการฝ่ายการเกษตรและป่าไม้ของแขวงกล่าวกับ Vientiane Times ว่า“ เราได้รับเมล็ดข้าว 135 ตันจากกระทรวงเกษตรและป่าไม้และจะส่งมอบให้ 8 แขวงที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม” โดยคาดว่าเกษตรกรจะปลูกข้าว 5,069 เฮกตาร์และปลูกพืชอื่น 31,825 เฮกตาร์เพื่อเติมเสบียงข้าวและชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นเมื่อเกิดอุทกภัยในฤดูฝนและยังกลล่าวอีกว่าเรากำลังดำเนินการซ่อมแซมช่องทางชลประทานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถจัดหาน้ำได้เพียงพอในช่วงฤดูแล้งโดยร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่นและชุมชน

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Champassak.php

กัมพูชาพิจารณาเครื่องหมายการค้ารูปแบบใหม่

กระทรวงพาณิชย์กำลังสำรวจความเป็นไปได้ในการออกเครื่องหมายการค้าใหม่เพื่อให้ครอบคลุมสินค้าเกษตรมากขึ้น โดยผู้อำนวยการกรมทรัพย์สินทางปัญญาของกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่าปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์สี่ประเภทที่มีสถานะทางภูมิศาสตร์ (GI) หรือเครื่องหมายการค้ารวม ซึ่งกระบวนการอยู่ในช่วงเริ่มต้นโดยขณะนี้กระทรวงกำลังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับแต่ละผลิตภัณฑ์ โดยถือเป็นการปกป้องผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ซึ่งการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในท้องถิ่นในกระบวนการปกป้องสินค้าของกัมพูชาถือเป็นส่วนที่สำคัญมาก แต่บริษัทและผู้ผลิตในท้องถิ่นส่วนใหญ่ไม่ได้มีส่วนร่วมหรือเห็นถึงความสำคัญในกระบวนการนี้จริงๆบางครั้งยังลังเลที่จะเข้าร่วมเวิร์กช็อปที่ทางภาครัฐได้ชี้ชวนให้เข้าร่วม โดยพูดถึงประโยชน์ของการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาแล้วก็ตาม ซึ่งในเดือนตุลาคมรัฐบาลได้เปิดตัวเครื่องหมายการค้าใหม่ซึ่งครอบคลุมหนึ่งในอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองหลวงคือก๋วยเตี๋ยวพนมเปญ เป็นสินค้าที่ได้รับเครื่องหมายการค้าลำดับที่ห้าที่รัฐบาลกัมพูชาให้การยอมรับ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50672762/new-trademarks-considered

กัมพูชาทำการศึกษาใหม่เกี่ยวกับทางด่วนกรุงพนมเปญเชื่อมบาเว็ต

China Railway Corporation กำลังทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างทางด่วนที่เชื่อมระหว่างเมืองหลวงกับเมืองบาเว็ต ซึ่งอยู่ติดกับเวียดนามตามกระทรวงโยธาธิการและขนส่งรายงาน โดยการศึกษาจะใช้เวลาประมาณ 8 เดือนจึงจะเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งถือเป็นการศึกษาครั้งที่สองบนทางด่วนระหว่างบาเว็ตเชื่อมต่อกับกรุงพนมเปญและสวายเรียง ดำเนินการโดย Japan Cooperation Agency (JICA) โดยการศึกษาล่าสุดจะพิจารณาเพิ่มเติมว่าโครงการมีความเป็นไปได้และคุ้มค่าหรือไม่ และจะถูกส่งไปยังรัฐบาลที่จะใช้ในการตัดสินใจว่าจะอนุญาตหรือไม่ ซึ่งหากการลงทุนมีความเป็นไปได้ขั้นตอนต่อไปคือการเจรจาต่อรองสัมปทานกับบริษัทผู้สนใจลงทุน โดยการศึกษาของ JICA แสดงให้เห็นว่าโครงการจะมีมูลค่าสูงกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตามรายงานดังกล่าวทางด่วนจะมีความยาว 135 กิโลเมตรวิ่งผ่านกรุงพนมเปญ, กันดาล, ไพรแวงและ สวายเรียง จนกระทั่งสู่ประตูชายแดนในบาเว็ต ซึ่ง China Railway Corporation ประกาศความสนใจที่จะลงทุนในโครงการเมื่อต้นปี และเชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้าของกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50672615/new-study-on-phnom-penh-bavet-expressway

เวียดนามตั้งเป้ายอดส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2563

ตามข้อมูลของสมาคมเม็ดมะม่วงหิมพานต์เวียดนาม (Vinacas) เปิดเผยว่าภาคอุตสาหกรรมเม็ดมะม่วงหิมพานต์จะมุ่งเน้นไปที่การแปรรูป ปรับปรุงคุณภาพและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยในปี 2562 มีการนำเข้าวัตถุดิบอยู่ที่ 1.5 ล้านตัน และแหล่งน้ำเข้าวัตถุดิบส่วนใหญ่มาจากแอฟริกา ทั้งนี้ ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ปริมาณส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์มากกว่า 418,000 ตัน ด้วยมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับผู้นำเข้าเม็ดมะม่วงหิมพานต์รายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม คือ สหรัฐอเมริกา รองลงมาจีนและเนเธอแลนด์ เป็นต้น นอกจากนี้ จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท ระบุว่าภาคเกษตรกรรมมียอดเกินดุลการค้าราว 8.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ สำหรับแหล่งส่งออกสินค้าเกษตรของเวียดนามรายใหญ่ที่สุด คือ จีน (26.9% ของการส่งออกรวม) รองลงมาสหรัฐฯ สหภาพยุโรป อาเซียนและญี่ปุ่น ตามลำดับ

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnam-targets-4-billion-usd-from-cashew-exports-in-2020-407924.vov

เวียดนามเผชิญกับอุปสรรคในการส่งออกพริกไทยไปยังตลาดโลก

ตามข้อมูลของสำนักงานการนำเข้า-ส่งออก ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนาม เปิดเผยว่าสถานการณ์การส่งออกพริกไทยของเวียดนามยังคงเผชิญกับอุปสรรค เป็นผลมาจากผลผลิตล้นในตลาดโลก และการแข่งขันจากคู่แข่งที่สูงขึ้น ทำให้ระดับราคาลดลง โดยในปัจจุบัน เวียดนามมีพื้นที่เพาะปลูกพริกไทยอยู่ที่ 100,000 เฮกเตอร์ คิดเป็นปริมาณผลผลิตราว 247,000 ตัน ขณะที่ ราคาพริกไทยยังอยู่ในระดับต่ำและต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น ด้วยเหตุนี้ อุตสาหกรรมพริกไทยมีแนวโน้มชะลอตัวต่อไปอีก ทั้งนี้ คาดว่าผลผลิตพริกไทยในตลาดโลกจะเพิ่มสูงขึ้น 1 ล้านตันในปี 2050 เนื่องจากความต้องการเพิ่มขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้เกิดความผันผวนของราคาพริกไทย นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่าแม้ว่าสถานการณ์การส่งออกพริกไทยของเวียดนามเผชิญกับความท้าทาย แต่ด้วยข้อตกลงการค้าเสรี เช่น CPTPP และ EVFTA เป็นต้น จะทำให้อุตสาหกรรมดังกล่าวได้รับโอกาสมากยิ่งขึ้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/pepper-exports-face-hurdles-in-global-market-407916.vov

ร่างกฎหมายเก็บภาษีสุราใกล้มีผลบังคับใช้

กฎหมายการผ่อนปรนการห้ามนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเมียนมา ได้ถูก่งไปยังอัยการสูงสุดเพื่อขออนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์ได้ชงเรื่องไป การนำเข้าสุราเป็นไปอย่างเข้มงวดในพม่าตั้งแต่ปีพ. ศ. 2505 ต่อมาอนุญาตให้นำเข้าไวน์ในปลายปี 2558 แต่ให้นำเข้าโรงแรมและร้านปลอดภาษีเท่านั้นทั้งสุราและเบียร์ ธุรกิจที่ต้องการนำเข้าจัดจำหน่ายและขายเหล้าทุกชนิดจะต้องได้รับการอนุมัติจากกระทรวงมหาดไทยที่ควบคุมโดยฝ่ายบริหารงานทั่วไป (CAD) และคณะกรรมการนโยบายสรรพสามิตใหม่ บริษัทต่างๆต้องการให้มีการแก้ไขใบเรียกเก็บเงินเพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับขั้นตอนและข้อจำกัดในการนำเข้า การเปิดเสรีตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นครั้งแรกภายใต้รัฐบาลของนางอองซานซูจีเพื่อต้อนรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ข้อจำกัดในการนำเข้าส่งผลให้มีการลักลอบนำเข้าอย่างผิดกฎหมายมาจำหน่ายในประเทศ ส่งผลต่อรายได้ภาษีของรัฐบาล

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/draft-bill-alcohol-imports-nears-completion.html