หนุนอีเพย์เมนต์อาเซียน

ประธานสำนักระบบชำระเงิน สมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่าในปี 63 มีแผนสนับสนุนธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศภายในอาเซียน ภายใต้แผน 3 ปีโครงการพัฒนาระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะการให้บริการโอนเงินและการใช้จ่ายผ่านคิวอาร์โค้ดระหว่างประเทศ ภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือในภูมิภาคอาเซียน คาดว่าจะเริ่มเห็นการให้บริการดังกล่าวชัดเจนขึ้นช่วงกลางปี 63 ซึ่งขณะนี้ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อม และพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับบริการนี้แล้ว ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่าธนาคารเตรียมให้บริการธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศในตลาดอาเซียนเพิ่มขึ้น ทั้งการโอนเงินและการใช้จ่ายผ่านคิวอาร์โค้ด หลังจากที่ผ่านมาได้เปิดใช้คิวอาร์โค้ดระหว่างไทยกับสิงคโปร์ไปแล้ว ในปีนี้คาดว่าจะเปิดให้บริการเพิ่มเติมระหว่างไทยและกัมพูชา และเปิดให้บริการระหว่างไทยและสปป.ลาวในไตรมาส 1 ปี 63 ทั้งนี้ ธนาคารยังได้รับการแต่งตั้งจากธนาคารกลางเมียนมา ให้เป็นผู้ชำระราคาระหว่างเงินบาทและเงินจ๊าด ซึ่งธนาคารจะขยายธุรกรรมการโอนเงินและการใช้จ่ายผ่านคิวอาร์โค้ดระหว่างไทยกับเมียนมาต่อไป นอกจากนี้ธนาคารมีแผนขยายการให้บริการไปทั่วอาเซียนและอยู่ระหว่างเจรจากับประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งในช่วงเริ่มต้นจะเน้นตลาดสิงคโปร์และ CLMV เป็นหลัก ตามความพร้อมและโอกาสทางธุรกิจ โดยการโอนเงินระหว่างประเทศจะเน้นประเทศเพื่อนบ้านที่มีแรงงานในไทยและต้องการส่งเงินกลับบ้าน ส่วนการใช้จ่ายผ่านคิวอาร์โค้ดจะเน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวและร้านค้าเป็นหลัก

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 21 พ.ย. 2562 (กรอบบ่าย)

นักลงทุนต่างชาติได้รับอนุญาตเข้าถือหุ้นสายการบินเวียดนาม 34%

เมื่อเร็วๆนี้ นายกรัฐมนตรีได้ลงนามเกี่ยวกับการเข้าถือหุ้นของนักลงทุนต่างชาติที่เข้าไปลงทุนและเจ้าของกิจการสายการบิน จากเดิมอยู่ในอัตราร้อยละ 30  แต่ปัจจุบันเพิ่มขึ้นอยู่ในอัตราร้อยละ 34 ด้วยพระราชกฤษฎีกา ฉบับที่ 89/2019/ND-CP แก้ไขปรับปรุงจากพระราชกฤษฎีกา ฉบับที่ 92/2559 ประกอบกับกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับสายการดำเนินธุรกิจสายการบิน และกิจกรรมอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ซึ่งการร่างพระราชกฤษฎีกาของกระทรวงคมนาคม ในหัวข้อความเป็นเจ้าของใหม่ของนักลงทุนต่างชาติ ไม่เพียงแต่จะดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลประโยชน์ของนักลงทุนในประเทศอีกด้วย โดยการลดเงื่อนไขของธุรกิจให้ง่ายขึ้นและเอื้ออำนวยแก่นักลงทุนที่เข้ามาทำธุรกิจสายการบิน ซึ่งในแง่ของการบริหารการบิน จะต้องใช้เงินลงทุนขั้นต่ำ 100 พันล้านด่อง ทั้งนี้ พระราชกฤษฎีกาจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม   พ.ศ.2563

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/foreign-investors-permitted-to-hold-34-percent-stake-at-vietnamese-airlines-406400.vov

เวียดนามเผยยอดส่งออกปลาหมึกพุ่งสูงขึ้นไปยังตลาดสหรัฐฯ ในปี 2562

จากข้อมูลของสมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตอาหารทะเลเวียดนาม (VASEP) เปิดเผยว่ามูลค่าการส่งออกปลาหมึกในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 จะสูงถึง 11.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 63.7 ซึ่งสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ปลาหมึกแห่ง ปลาหมึกหมัก ปลาหมึกแช่เย็นแช่แข็ง และปลาหมึกแปรรูป เป็นต้น ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำเข้าปลาหมึกรายใหญ่ อยู่อันดับที่ 6 ของเวียดนาม คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 2.7 ของมูลค่าการส่งออกรวมทั้งสิ้นในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเมื่อเกิดสถานการณ์กดดันทางการค้าสหรัฐฯ และจีน  ทำให้สหรัฐฯ ต้องเพิ่มอัตราภาษีในกลุ่มสินค้าผลิตภัณฑ์ปลาหมึกที่มาจากจีน ขณะเดียวกัน นับว่าเหตุการณ์ดังกล่าว จะสร้างโอกาสทางการค้าแก่เวียดนาม

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnams-export-of-squid-octopus-to-us-surges-in-2019-406397.vov

โครงการที่จะนำการเปลี่ยนแปลงสู่ฝั่งแม่น้ำของซิตตเวในปีหน้า

ซีอีโอ BXT International Co (BXT) บริษัทพัฒนาแห่งเกาหลีใต้กล่าวว่าโครงการพัฒนาริมน้ำที่หลากหลายตามแนวแม่น้ำกาลาดานในเมืองซิตตเว ของรัฐยะไข่ ตอนนี้คืบหน้าไป 90% แล้ว ส่วนที่เหลือคือการสร้างถนน ท่อระบายน้ำ และโครงข่ายพลังงาน โครงการพัฒนาฝั่งแม่น้ำของซิตตเว ประกอบไปด้วยหน่วยงานราชการ เขตอุตสาหกรรม โรงแรมและร้านค้าต่าง ๆ แบ่งออกเป็น 3 เฟสบนพื้นที่ 36 เฮคเตอร์ใกล้กับตลาดเมียวมาและท่าเรือ ในเฟส 3 เป็นการพัฒนาอาคารพาณิชย์โดยความร่วมมือกับบริษัทของสหรัฐอเมริกาเมื่อได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการการลงทุนของเมียนมา (MIC) จะมีการสร้างทั้งหมด 70 รายการ เนื่องจากรัฐยะไข่เป็นหนึ่งในรัฐที่มีการพัฒนาน้อยที่สุดรัฐบาลจึงได้ยกเว้นภาษีเป็นเวลา 7 ปี แม้จะห่างไกลและยากจนแต่ซิตตเวมีความปลอดภัย สวยงาม และเหมาะสมสำหรับการลงทุน ถึงแม้จะมีปัญหาในรัฐยะไข่ โครงการนี้รัฐถือหุ้น 30% ซึ่งผู้ซื้อหลังจากทำการดาวน์ 20% และ BXT จะยกเว้นดอกเบี้ยให้ถ้าสามารถชำระคืนทั้งหมดภายใน 2 ปี

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/project-bring-changes-sittwes-waterfront-next-year.html

กระทรวงการก่อสร้างเดินหน้าโครงการที่พักให้เช่าราคาถูกสำหรับพนักงาน

กระทรวงการก่อสร้างเริ่มดำเนินโครงการที่อยู่อาศัยราคาถูกใกล้กับเขตอุตสาหกรรมติว่า ในเขตเมืองตาน-ลยีน เขตการปกครองไลง์ตายา เขตการปกครอง Dagon Seikkan (Yoma) และโครงการที่อยู่อาศัยให้เช่าสำหรับพนักงานในเนปิดอร์ ภายในปีงบประมาณ 62-63 ที่พักจำนวน 7,300 หน่วยสำหรับข้าราชการถูกสร้างขึ้นในเนปิดอร์, ย่างกุ้ง และมัณฑะเลย์ เป็นเวลาสามปีจากปีงบประมาณ 59-60 ถึง 61-62 ส่วนใหญ่อยู่ในมัณฑะเลย์ สามปีที่ผ่านมาได้สร้างที่พักอาศัย 520 แห่งในรัฐคะฉิ่น 318 แห่งในรัฐกะยา 150 แห่งในรัฐกะเหรี่ยง 162 รัฐชิน 1,262 แห่งในเขตซะไกง์ 252 แห่งในเขตตะนาวศรี 672 ในเขตพะโคะ 552 ในเขตมะกเว 1,530 ในมัณฑะเลย, 252 ในรัฐมอญ 666 ในรัฐยะไข่ 732 ในรัฐฉาน และ 224 ในเขตอิระวดี ตั้งแต่ปี 60 -62 ได้ขาย 8,416 หน่วยให้กับเจ้าหน้าที่บริการและคนที่มีรายได้น้อยในเมืองใหญ่รวมถึงย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ และเนปิดอว์ นอกจากนี้ยังมีแผนการผ่อนชำระด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งการให้สินเชื่อมีไว้สำหรับผู้ซื้อที่ผ่านเกณฑ์ขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) และความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (ODA)

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/construction-ministry-continues-implementing-low-cost-staff-rental-housing-projects

เมืองคุมาโมโตะของญี่ปุ่นเปิดเส้นทางใหม่สายการบิน สปป.ลาวเพื่อการท่องเที่ยว

เมืองคุมาโมโตะของญี่ปุ่นจะเพิ่มความพยายามในการส่งเสริมการขายสำหรับเส้นทางใหม่ที่เชื่อมต่อเมืองและสปป.ลาวท่ามกลางจำนวนผู้โดยสารที่ใช้สนามบินลดลง สำนักการบินพลเรือนของญี่ปุ่นไฟเขียวในเดือนตุลาคมสำหรับสายการบินสปป.ลาวเพื่อเปิดเส้นทางใหม่สองเส้นทางที่เชื่อมต่อนครหลวงเวียงจันทน์และหลวงพระบางกับเมืองคุมาโมโตะ เส้นทางใหม่จะเปิดตัวในวันที่ 18 มี.ค. 63 ในระหว่างการสัมภาษณ์สื่อมวลชนได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของเส้นทางใหม่สู่สปป.ลาวโดยกล่าวเสริมว่าจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อดึงดูดผู้มาเยือนจากสปป.ลาว

ที่มา : https://laotiantimes.com/2019/11/20/japans-kumamoto-bets-on-laos-for-tourism-boost/

กระทรวงปราบปรามการเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายในสปป.ลาว

ในปีนี้มีการป้องกันไม่ให้ประชาชนจำนวน 3,342 คนไม่ให้เข้าประเทศและอีก 1,409 คนจาก 17 เชื้อชาติถูกห้ามเข้าสปป.ลาวอย่างถาวร ในปีที่ผ่านมากระทรวงความมั่นคงของประเทศได้ให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับการติดตามและลงทะเบียนของชาวต่างชาติเพื่อควบคุมการเข้าเมือง ในปีนี้มีคน 9,852,571 คนจาก 166 ชาติที่เข้ามาในสปป.ลาวโดยมีชาวจีนติดอันดับ 807,737 คน และอีกแหล่งข้อมูลหนึ่งพบว่ามี 10,149,008 คนจาก 103 เชื้อชาติเดินทางออกจากสปป.ลาว เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองพบ 24 คนที่ใช้หนังสือเดินทางปลอม ชาวสปป.ลาวที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศจำนวน 4,200 คนถูกส่งตัวกลับประเทศ รวมถึงเหยื่อการค้ามนุษย์ 1,400 คนถูกเนรเทศไปยังประเทศต้นกำเนิดหลังจากการดำเนินธุรกิจที่ผิดกฎหมายส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงทางโทรคมนาคม การค้ามนุษย์ การละเมิดอื่น ๆ รวมถึงการแต่งงานที่ผิดกฎหมายระหว่างชาวลาวกับชาวต่างชาติ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Ministry.php

ธนาคารโลกเตือนถึงความจำเป็นในการพัฒนาและเพิ่มทักษะแรงงานของกัมพูชา

ธนาคารโลกได้เปิดตัวรายงานใหม่ที่เน้นความสำเร็จของการพัฒนาเศรษฐกิจของกัมพูชา โดยให้คำแนะนำในการปฏิรูปนโยบายที่ครอบคลุมเพื่อรักษาอัตราการเติบโตของประเทศ ซึ่งมีตัวแทนจากกระทรวงพาณิชยกรรม กระทรวงแรงงานและการฝึกอาชีพเข้าร่วม เช่นเดียวกับธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชียและผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนมากโดยรายงานแสดงถึงอัตราการมีส่วนร่วมของกำลังแรงงานสูงถึง 80% ของชาวกัมพูชาวัยทำงานทั้งหมด แม้ว่าจะกว่า 94% ของแรงงานทั้งหมดเป็นอาชีพที่มีทักษะค่อนข้างต่ำ ซึ่งผู้จัดการธนาคารโลกประจำประเทศกัมพูชากล่าวในการเปิดงานว่าระหว่างปี 2010 และ 2015 มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 12% ต่อปีและหนึ่งในสามของภาคการจ้างงานมาจาก บริษัท ข้ามชาติโดยเน้นถึงความจำเป็นในการปฏิรูปภายในระบบการศึกษาเพื่อให้ตรงกับทักษะกับความต้องการของภาคเอกชน ทั้งระบบการศึกษาแบบดั้งเดิมและระบบการฝึกอบรมวิชาชีพจำเป็นต้องได้รับการปรับเปลี่ยนเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ซึ่งภาครัฐฯจะเป็นผู้กำหนดนโยบายและทำงานอย่างใกล้ชิดกับภาคเอกชนเพื่อจัดการกับปัญหา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50661464/world-bank-report-warns-of-need-for-diversification-and-skills-development/

BRI ส่งเสริมความสัมพันธ์จีนและกัมพูชา

บริษัทจากมณฑลหูหนานของจีนพบกับบริษัทท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างกัมพูชาและจีน โดยตัวแทนของบริษัทจากมณฑลหูหนานหลายร้อยคนในตอนกลางของจีนได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าการส่งเสริมการลงทุนและเครื่องจักร นำโดยคณะผู้แทนเลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนมณฑลหูหนาน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการและคมนาคมกล่าวว่างานดังกล่าวเป็นเวทีที่สมบูรณ์แบบในการเชื่อมโยงธุรกิจจากหูหนานกับกัมพูชาเพื่อแบ่งปันข้อมูลและแสวงหาโอกาสในด้านการลงทุน โดย ความสัมพันธ์มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วยการเปิดตัวโครงการ Belt and Road ของจีนในปี 2556 โครงการดังกล่าวมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจกัมพูชาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อปีที่แล้วจีนให้เงินกู้ยืมมูลค่า 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐแก่กัมพูชาเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะถนนสะพานและท่าเรือ โดยการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและจีนเมื่อปีที่แล้วมีมูลค่ารวม 6.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50661446/bri-boosting-ties-with-china-hunan-rep-says/