รายการสินค้า 28 รายการ มีมูลค่าการนำเข้ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้

จากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562 สินค้าอุปโภคบริโภคกว่า 28 รายการ ที่มีมูลค่าการนำเข้ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 85.8 ของยอดคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา หากจำแนกรายการสินค้านำเข้าของเวียดนาม แสดงให้เห็นว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ มีมูลค่ากว่า 28.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามมาด้วยโทรศัพท์และชิ้นส่วนประกอบ เครื่องแต่งกาย และพลาสติก ตามลำดับ โดยประเทศจีนยังคงเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ตามมาด้วยเกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา อาเซียน และสหภาพยุโรป ตามลำดับ ในส่วนการส่งออกสินค้าของเวียดนาม แสดงให้เห็นว่าโทรศัพท์และชิ้นส่วนประกอบยังคงเป็นสินค้าส่งออกสำคัญที่สุด ตามมาด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ และเครื่องนุ่งห่ม ตามลำดับ โดยประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุด ตามมาด้วยสหภาพยุโรป และจีน ตามลำดับ

ที่มา : https://en.nhandan.com.vn/business/item/7773002-28-items-see-import-value-of-over-us$1-billion-in-seven-months.html

เวียดนามส่งออกปลาทูน่าไปยังอิตาลี พุ่งสูงขึ้นร้อยละ 60 ในช่วงครึ่งปี 2562

จากรายงานของสมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตอาหารทะเลเวียดนาม (VASEP) เปิดเผยว่าในช่วงครึ่งปีแรก 2562 เวียดนามมีมูลค่าการส่งออกปลาทูน่าไปยังประเทศอิตาลี 13.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 60 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งในเดือนมีนาคม-มิถุนายนที่ผ่านมา อิตาลีเป็นประเทศผู้นำเข้ารายแรกใหญ่ที่สุดในกลุ่มสหภาพยุโรป ทางสมาคมฯ คาดว่ามูลค่าการส่งออกปลาทูน่าอยู่ที่ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปีนี้ เพิ่มขึ้นกว่า 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากปี 2561 หากจำแนกประเภทปลาทูน่า พบว่าในปี 2561 ปลาทูน่าแช่เย็นแช่แข็งของเวียดนามเป็นสินค้าส่งออกสำคัญไปยังสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ปลาทูน่ากระป๋องมีแนวโน้มลดลง โดยเวียดนามเป็นซัพพลายเออร์ในอันดับที่ 4 ของตลาดปลาทูน่ากระป๋องสหรัฐอเมริกา รองลงมาไทย เอกวาดอร์ และจีน ตามลำดับ

ที่มา : https://en.nhandan.com.vn/business/item/7773102-tuna-exports-to-italy-shoot-up-60-in-h1.html

ยอดเก็บภาษีสรรพากรเมียนมาเพิ่ม

กรมสรรพากรเมียนมา (IRD) มีรายได้ 4.9 ล้านล้านรายจัตจากการเก็บภาษี 5 ประเภทตั้งแต่ ต.ค.561 ถึง มิ.ย. 62 สี่ในห้าของจำนวนเงินที่เก็บได้ในปีนี้มาจากภาษีรายได้ ภาษีการค้า ภาษีสินค้าพิเศษค่าธรรมเนียมศาล อากรแสตมป์รวมถึงภาษีลอตเตอรี่อองบาร์เลย์ โดยรายได้จากภาษีรายได้อยู่ที่ 243 พันล้านจัต ภาษีสินค้าพิเศษมาที่ 42 พันล้านจัต ภาษีสลากกินแบ่งมีส่วน 31 พันล้านจัตภาษีเชิงพาณิชย์ 16 พันล้านจัต ขณะที่ค่าธรรมเนียมศาลและอากรแสตมป์ 5.3 พันล้านจัตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันภาษีทุกประเภทยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลและอากรแสตมป์สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว กรมสรรพากรกล่าวว่ามีการดำเนินการกับร้านค้าที่ไม่มีอากรแสตมป์บนโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริม มีผู้ถูกดำเนินการ 98 รายที่ถูกปรับไปแล้วเป็นจำนวนเงินรวม 10.9 ล้านจัต ในขณะที่ผู้แจ้งเบาะแสทั้งสิ้น 11 ราย ได้รับรางวัลรวมทั้งสิ้น 164 ล้านจัต

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/higher-revenue-collection-reported-ird.html

การผลิตไม้ซุงลดลงมากกว่าครึ่ง

บริษัท Myanmar Timber Enterprise (MTE) จะลดการตัดไม้สักและไม้เนื้อแข็งจากพื้นที่ป่าธรรมชาติในปี พ.ศ. 62-62 ลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งผลิตได้เพียงพอสำหรับต้นทุนการผลิตไม้ซุง โดยการตัดไม้จะถูกจำกัดสำหรับต้นไม้อายุ 30 ปีขึ้นไปในมัณฑะเลย์และซากะ ซึ่งจะช่วยลดการทำลายป่าและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแจ้งว่าจะมีการปลูกต้นไม้ทดแทนป่าไม้ที่ถูกโค่นจำนวนมากถึงสามเท่าในภูมิภาคและยังให้ความช่วยเหลือแก่ควานช้างและช้างที่ได้รับผลกระทบจากการลดปริมาณการตัดไม้

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/timber-production-halved.html

ธนาคาร Mandiri ของอินโดนีเซียเข้าลงทุนในกัมพูชาและสปป.ลาว

ธนาคาร Mandiri ของอินโดนีเซียซึ่งเป็นสถาบันของรัฐได้ประกาศเจตนารมณ์ที่จะเข้าสู่ตลาดกัมพูชาและสปป.ลาว และได้จัดตั้งกองทุนการลงทุนขนาดใหญ่ โดยจะทำการศึกษาวิธีที่ดีที่สุดในการเจาะตลาดใหม่ ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกของปี 62 ธนาคาร Mandiri เติบโดถึง 11.1% และมีการประกาศจากธนาคารแห่งชาติกัมพูชาซึ่งจะเน้นการเติบโตที่แข็งแกร่งของธนาคารในประเทศและภาคการเงินรายย่อย ซึ่งในช่วงครึ่งแรกของปีสินเชื่อในสาขาธนาคารและสินเชื่อรายย่อยเพิ่มขึ้นประมาณ 22.4%

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50630496/indonesias-mandiri-bank-to-enter-cambodia-laos/

จีน สปป.ลาว ร่วมมือบังคับใช้ด้านกฎหมายด้านความมั่นคง

 สมาชิกสภาแห่งของรัฐบาลจีนและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการรักษาความปลอดภัยสาธารณะของ สปป.ลาว ถึงความร่วมมือระหว่างสองประเทศในการสร้างชุมชนจีน – ลาว พร้อมกับการศักราชใหม่สำหรับความสัมพันธ์ทวิภาคีเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงสำหรับโครงการสำคัญและโครงการทางถนนและความร่วมมือในการปกป้องความมั่นคงของชาติการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เช่น โทรคมนาคม การคอรัปชั่น การพนันออนไลน์ และการสร้างความสามารถในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีต่อไป

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/2019-08/06/c_138288334.htm