เคล็ดลับในการเจาะตลาดสินค้าออนไลน์ในกัมพูชา

ตลาดออนไลน์ในกัมพูชาถือว่าเติบโตเร็วมาก เพราะมีผู้เข้าถึงอินเตอร์เน็ตมากกว่า 50% ของประเทศ (ประมาณ 8 ล้านคน) มีบัญชี facebook ถึง 7 ล้านคน บัญชี instragram เพียง 660,000 คน ดังนั้นควรวางตำแหน่งของสินค้าให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย โฆษณาส่วนมากจะนิยมเอาดาราที่มีชื่อเสียงมาเป็นพรีเซนเตอร์ นิยมดูสื่อเคลื่อนไหวอย่างวีดีโอมากกว่าภาพนิ่ง การจัดส่งสินค้าควรให้รวดเร็วเพราะคนกัมพูชาไม่ชอบการรอคอย เพราะถ้ารอรับสินค้าเกินกว่าหนึ่งวันจะมีผลต่อการตัดสินใจทันที ทางออกคือจัดส่งด้วยมอเตอร์ไซค์ที่สะดวกและรวดเร็ว ส่วนการชำระเงิน เนื่องจากคนส่วนใหญ่ไม่มีบัญชีธนาคารและมีผู้ใช้บัตรเครดิตเพียง 3% จึงนิยมชำระเป็นเงินสดหรือใช้บริการโอนผ่านหมายเลขโทรศัพท์มือถือแทน ในอนาคตการทำธุรกรรมทางการเงินจะมีการเปลี่ยนไปเพราะคนกัมพูชาเปิดรับเทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลา

ที่มา: http://www.exim.go.th/doc/adn/49815_0.pdf

26 มิถุนายน 2561

SME เพิ่มโอกาสรวยแบบก้าวกระโดด! บนตลาดกัมพูชากับเวียดนาม

งานสัมมนา “Krungsri Business Talk : กัมพูชา VS เวียดนาม ตลาดไหน ใช่เลย!” มีการนำผู้มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจของทั้ง 2 ประเทศมาถ่ายทอดข้อมูลที่สำคัญคือ ประเด็นที่ 1 การเติบโตและสินค้าที่เป็นไปได้ในตลาด กัมพูชาชอบดีทีวีไทยเป็นอย่างมากจึงไม่จำเป็นต้องทำโฆษณาตัวสินค้าไทยเพราะเป็นที่นิยมอยู่แล้ว ส่วนเวียดนาม มี FTA เชื่อมต่อการส่งออกของไทยและนิยมสินค้าอย่างเครื่องสำอางและไอที ประเด็นที่ 2 พฤติกรรมผู้บริโภค กัมพูชาเปิดรับสินค้าทุกอย่าง ไม่สนใจว่าฉลากจะเป็นภาษาไหนแต่ถ้าเป็นภาษาไทยจะยิ่งมีความเชื่อมั่น ส่วนเวียดนามมีรสนิยมในสินค้าที่มีคุณภาพมากขึ้น ชอบผลิตภัณฑ์ที่มีกิมมิคและแปลกใหม่ ประเด็นที่ 3 การจับจ่ายและกฎระเบียบ การเข้าไปทำธุรกิจของทั้ง 2 ประเทศจะคล้ายคลึงกันคือหาคู่ค้าและตัวแทนจำหน่าย ด้านกฎระเบียบของเวียดนามจะมีความอ่อนไหวมากกว่าเพราะเปลี่ยนแปลงบ่อย สิ่งที่นักลงทุนพึงตระหนักคือการติดตามข้อมูลข่าวสาร นโยบายและเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศอยู่ตลอด

ที่มา: https://www.thairath.co.th/content/1258896

19 เมษายน 2561

ก้าวต่อไปของ CLMV

 

จากรายงานการวิเคราะห์ของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจสำหรับอาเซียนและเอเชียตะวันออก (ERIA) เกี่ยวกับศักยภาพของอาเซียน พบว่าการเติบโตของกลุ่มประเทศอย่างกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม (CLMV) เป็นที่น่าจับตามอง เช่น การที่ญี่ปุ่นเข้าไปลงทุนในเมียนมามากกว่า 1000% ตลอดหกปีที่ผ่านมา แต่ทั้งนี้อุปสรรคสำคัญคือ สงครามการค้า กรณี Brexit หรือการถอนตัวของสหรัฐออกจากกรอบการค้าเสรี (TPP) ที่เป็นตัวฉุดในบางครั้ง แต่ความได้เปรียบอีกอย่างคือ ค่าจ้างแรงงานถูกและต่ำที่สุดในประเทศกลุ่มอาเซียนอื่นๆ โดยมีค่าเฉลี่ยรายได้ต่อหัวอยู่ที่ 2,000 เหรียญสหรัฐต่อคน/ปี ในปี 2559 (ส่วนไทยอยู่ที่ 6,000 เหรียญสหรัฐต่อคน/ปี) แต่เมื่อเทียบเป็นรายปีจะพบว่าเพิ่มขึ้นถึง 6.5% เทียบกับอินโดนีเซีย 1.7% มาเลเซีย 4.4% ผลการศึกษาของ ERIA ชี้ว่ากลุ่ม CLMV จำเป็นต้องปรับปรุงด้านโครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง การผ่อนคลายกฎระเบียบทางการค้าระหว่างประเทศ ลดช่องว่างรายได้ของประชากรในประเทศ เร่งสร้าง SMEs ที่เข้มแข็งในท้องถิ่น ลดการพึ่งพาของอียูในการสร้างงานและการลงทุนทางตรงในประเทศ CLMV จึงน่าจับตามองของนักลงทุนที่เข้ามาลงในกลุ่มอาเซียนเพราะมีส่วนผลักดันเป้าหมายในปี 2593 ที่หมายมั่นจะมีขนาดเศรษฐกิจเป็นอันดับ 4 ของโลก

ที่มา: http://www.eria.org/news-and-views/clmv-countries-must-go-beyond-regional-integration/

16 กุมภาพันธ์ 2561

ธนวรรธน์ เชื่อชอปช่วยชาติช่วยกระตุ้น ศก.ดัน GDP โตเพิ่ม 0.2% ช่วยเพิ่ม GDPของไทย 0.1-0.2%

ผศ.ดร ธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้งการเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มาตรการช้อปช่วยชาติ และการแจกอั่งเปาคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 5% หรือไม่เกิน 1,000 บาท จะช่วยเพิ่ม GDPของไทยในสัดส่วน 0.1-0.2% และจะส่งผลต่อบรรยากาศการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีนี้ จนถึงเดือนกันยายนปี62 ทั้งนี้ การเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทำให้มีการจับจ่ายเดือนละ 1,800 ล้านบาท ต่อเนื่อง 10 เดือน ขณะที่มาตรการช้อปช่วยชาติ คาดว่าจะทำให้มีเงินหมุนเวียน 15,000-20,000 ล้านบาท  ส่วนมาตรการแจกอั่งเปา ต้องดูเงื่อนไขอีกทีว่าหากไม่มีข้อจำกัด ทุกคนช้อป 20,000 ได้คืนไม่เกิน 1,000 บาท เชื่อว่าจะกระตุ้นการจับจ่ายได้พอสมควร

ที่มา : https://www.news1005.fm/view/5c03570de3f8e4e9060dc478

02/12/61

พาณิชย์เน้นสินค้า อาหาร-ไลฟ์สไตล์ รุกส่งออกทั่วโลก ปี 62

อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยกับ ฐานเศรษฐกิจ ถึงทิศทางแนวโน้มการค้าในปี 2562 โดยเน้นมากขึ้นใน 2 กลุ่มสินค้า ได้แก่ กลุ่มอาหารและสินค้าไลฟ์สไตล์ เนื่องจากเป็นกลุ่มสินค้าที่มีศักยภาพและยังเป็นที่ต้องการของตลาด หากผู้ประกอบการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการให้ตรงกับมาตรฐานของตลาดจะช่วยให้สามารถขยายตลาดได้มากขึ้น เน้นเจาะเข้าไปในช่องทางการค้าออนไลน์ โดยกระทรวงพาณิชย์จะรุกหนักมากขึ้น สินค้าไลฟ์สไตล์ที่จะเน้นจะเป็นกลุ่มสิ่งทอ ของใช้ของตกแต่งบ้าน คาดว่าจีนจะสนใจเข้ามาลงทุนในพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ของไทย โดยเฉพาะสิ่งทอ ที่จีนสามารถใช้ไทยเป็นฐานการผลิตแล้วส่งออกไปตลาดสหรัฐฯ ได้ โดยในปี 2562 กรมจะมีงานแสดงสินค้า Top Thai Brands 2019 กว่า 12 ครั้ง ใน 9 ประเทศ เช่น ที่กัมพูชา เมียนมา สปป.ลาว เวียดนาม จีน ในช่วงเดือน มิ.ย. อินเดีย บังกลาเทศ ศรีลังกา และปากีสถาน

ที่มา : http://www.thansettakij.com/content/355635

03/12/61

ปี62 รุกสร้างโรงหนังเพิ่ม74โรง

ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เปิดเผยว่า ในปี 2561 บริษัทได้ขยายโรงภาพยนตร์ทั้งในไทยและกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) รวม 96 โรง ทำให้สิ้นปี 2561 จะมีทั้งสิ้น 160 สาขา 771 โรง โดยมีภาพยนตร์เข้าฉายรวม 312 เรื่อง และในปี 2562  มีแผนขยายโรงภาพยนตร์เพิ่มอีก 74 โรง สอดรับกับภาพยนตร์ที่จะเข้าฉายประมาณ 320 เรื่อง และตั้งเป้าขยายโรงภาพยนตร์ให้ครบ 1,000 โรง ภายในปี 2563 อีกทั้งในปี 2562 ยังมีแผนที่จะผลักดันภาพยนตร์ไทยของค่ายเอ็ม พิคเจอร์ส ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ส่งออกไปขายยังตลาดต่างประเทศมากขึ้น

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

03/12/61

จีน-สหรัฐฯ เห็นพ้องเลื่อนกำหนดเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้าน USD ออกไป 90 วัน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน เห็นพ้องกันให้เลื่อนกำหนดระยะเวลาที่สหรัฐฯจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ออกไป 90 วัน จากกำหนดเวลาเดิมในวันที่ 1 ม.ค.62 เพื่อเปิดทางให้ทั้งสองฝ่ายได้เดินหน้าเจรจายุติข้อพิพาทการค้าระหว่างกันต่อไป แถลงการณ์ซึ่งทำเนียบขาวเผยแพร่ออกมาหลังเสร็จสิ้นการหารือระหว่างผู้นำจีน-สหรัฐฯ ระบุว่า กำหนดการเรียกเก็บภาษีจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 ม.ค.62 นี้ จะถูกเลื่อนออกไป 90 วัน หากสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ยังหาข้อตกลงกันไม่ได้ ก็จะมีการขึ้นภาษีจาก 10% เป็น 25%

ที่มา :  https://www.news1005.fm/view/5c035f25e3f8e4e9090e0563

02/12/61

ต้องการงานมากขึ้นเพื่อการส่งออกใบชาของเวียดนาม

จากรายงานระบุว่า ในปัจจุบันเวียดนามอยู่อันดับที่ 5 ของผู้ส่งออกใบชารายใหญ่ของโลก แม้ว่าผู้ประกอบการเวียดนามจะขายในราคา 1.60 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อกิโลกรัม ซึ่งราคาใบชาของเวียดนามถูกกว่าของประเทศศรีลังกาเกือบ 3 เท่าตัว ด้านผู้นำเข้ารายใหญ่ คือ รัสเซีย มีความต้องการใบชามากกว่า 160,000 ตันต่อปี ทางผู้ประกอบการเวียดนามมองว่านี้คือโอกาสในการเจาะตลาดรัสเซีย อย่างไรก็ตาม เวียดนามมีพื้นที่เหมาะสมในการปลูกชาและมีขนาดพื้นที่ใหญ่ประมาณ 125,000 เฮกตาร์ ส่งผลให้การบริโภคของเวียดนามมีมูลค่า 45,000 ตันต่อปีและมีมูลค่าการส่งออก 145,000 ตัน และมีรายได้ 245 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/480764/more-work-needed-on-vn-tea-exports.html#J6Axp1tyK22atcmh.97

03/12/61

เครื่องบินเวียดเจ็ทล้อขัดข้องผู้โดยสารเจ็บเล็กน้อย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงฮานอยประเทศเวียดนามเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ว่าสำนักงานการบินพลเรือนของเวียดนามแถลงว่า เครื่องบินโดยสารแอร์บัส เอ321 ของสายการบินเวียดเจ็ทเที่ยวบินในประเทศจากเมืองโฮจิมินห์ซิตี้มุ่งหน้าสู่สนามบินบวนมาถ๊วตจังหวัดดั๊กลักทางตอนใต้ของเวียดนาม พร้อมผู้โดยสารบนเครื่อง 207 คน ต้องประสบปัญหาสองล้อหน้าขณะลงจอดที่สนามบินบวนมาถ๊วตเมื่อเย็นวันพฤหัสบดีที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่ก็ลงจอดได้อย่างปลอดภัย ภาพถ่ายที่นำออกเผยแพร่แสดงให้เห็นว่า มีการใช้ทางลงฉุกเฉินและยางล้อหน้าแตกเสียหาย เวียดเจ็ทยังแถลงว่า ผู้โดยสารทุกคนปลอดภัย เวียดเจ็ทเป็นหนึ่งในสายการบินชั้นนำที่มีด้านการบินเติบโตอย่างรวดเร็วของเวียดนาม เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาเพิ่งจะลงนามในข้อตกลงมูลค่า 6,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการซื้อเครื่องบินแอร์บัส เอ321 จำนวน 50 ลำและยังได้ทำสัญญากับบริษัทโบอิ้งด้วย

ที่มา :  https://www.dailynews.co.th/foreign/680111

03/12/61

เมียนมาพยายามดึงดูดนักลงทุนในการประชุมสุดยอด Invest Myanmar Summit 2019

Invest Myanmar Summit 2019 เป็นโอกาสที่ดีในการสร้างเครือข่ายธุรกิจของคุณโดยการประชุมผู้มีอิทธิพลและผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ ในฐานะที่เป็นตลาดเกิดใหม่พม่าเสนอโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลายและยั่งยืนสำหรับนักลงทุนที่จะค้นพบ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-29 มกราคม พ.ศ. 2562 เหตุการณ์สองวันนี้จัดขึ้นเพื่อให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศได้มีโอกาสค้นพบศักยภาพในการลงทุนของพม่า เป็นเวทีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐในภูมิภาคจะแสดงศักยภาพทางธุรกิจในประเทศของตนด้วย

ที่มา : http://mizzima.com/article/myanmar-seeks-attract-investors-upcoming-invest-myanmar-summit-2019

01/12/61