เวียดนามแอร์ไลน์ส ปี 63 ขาดทุน 480 ล้านเหรียญสหรัฐ

การระบาดของไวรัสโคโนนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่รุนแรงในปี 2563 สายการบินเวียดนาม แอร์ไลน์ส (Vietnam Airlines) เผยกำไรก่อนหักภาษีอยู่ที่ราว 11.1 ล้านล้านด่อง (482 ล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าที่จะขาดทุนประมาณ 626.3 ล้านเหรียญสหรัฐในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เป็นผลมาจากธุรกิจได้ทำตามขั้นตอนในการปรับค่าเสื่อมราคาและจัดสรรสำหรับการบำรุงรักษาเครื่องบินภายใต้โครงการสนับสนุนของรัฐบาล ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว รายได้ของสายการบินลดลง 65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มูลค่า 356.6 ล้านเหรียญสหรัฐ และกำไรขั้นต้นลดลง 63% มูลค่า 22.37 ล้านเหรียญสหรัฐ ดังนั้น รายได้สะสมในปี 2563 อยู่ที่ 1.76 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมการบินดิ่งลงอย่างหนัก มาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เที่ยวบินในปีที่แล้ว ลดลง 48% เมื่อเทียบรายปี จำนวนผู้โดยสารลดลงเหลือ 14.23 ล้านคน อย่างไรก็ตามในอีก 5 ปีข้างหน้า สายการบินเวียดนาม แอร์ไลน์ส ได้ตั้งเป้าที่จะกลับมาดำเนินกิจการ ในขณะเดียวกันก็เร่งกระบวนการปรับโครงสร้างองค์กรและยกระดับการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะเรื่องการขายอากาศยานและเช่ากลับคืน (SLB)

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnam-airlines-suffers-losses-of-over-us480-million-in-2020-316168.html

บริษัทจัดจำหน่ายน้ำมันชั้นนำ ‘Petrolimex’ ของเวียดนาม กำไรร่วง 74%

‘Petrolimex’ ผู้ประกอบธุรกิจจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ระบุว่าในปีที่แล้ว กิจการมีกำไรสุทธิ 1.23 ล้านล้านดอง (53.69 ล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี ทั้งนี้ เมื่อปี 2562 กำไรของกิจการอยู่ที่ 4.77 ล้านล้านด่อง และกิจการยังมีสถานีจำหน่ายน้ำมันหลายพันแห่งทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ยอดขายน้ำมันเครื่องบินลดลง 74% หลังจากเที่ยวบินระหว่างประเทศถูกระงับตลอดทั้งปี 2563 นอกจากนี้ กิจการดังกล่าวมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 50% รองลงมา PV Oil ครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 2 ในเวียดนาม

  ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/companies/oil-distributor-petrolimex-profit-falls-74-pct-4231261.html

ค่าเงินบาทพุ่ง กระทบผู้ค้าชายแดนนเมียวดีขาดทุนหนัก

เงินบาทของประเทศไทยมีมูลค่าพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในเมืองเมียวดี ชายแดนเมียนมา – ไทยในขณะที่จัตของเมียนมากลับดิ่งค่าลงทำให้ผู้ที่ค้าขายด้วยเงินจัตต้องขาดทุนหลายแสน ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 64 ค่าเงินบาทยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากที่กองทัพประกาศภาวะฉุกเฉินในเมียนมาเมื่อสองวันก่อน ผลักดันให้ประชาชนซื้อทองคำและเงินดอลลาร์กักตุนไว้จำนวนมาก ค่าเงินบาทเพิ่มขึ้นประมาณ 11% ในช่วงสองวันที่ผ่านมาซึ่งเป็นสัดส่วนที่ขาดทุน 5 ล้านจัตต่อผู้ที่ถือเงิน 100 ล้านจัต ขณะที่การค้าชายแดนเมียวดีค่าเงิน 100,000 จัตมีค่าเท่ากับ 2,310 บาท ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 64 ราคาตัวเป็น 2,210 บาท อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 45.24 จัตต่อบาทในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 64 ซึ่งจะมีผลดีต่อผู้ส่งออกส่วนการนำเข้าจะได้รับผลกระทบพอสมควร

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/myawady-see-rise-in-thai-baht-value-kyat-holders-suffer-losses

โรงไฟฟ้า 2 แห่งในสปป.ลาวมีแผนที่จะขายไฟฟ้าให้กัมพูชา

การก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน 2 แห่งจะเริ่มในปลายปีนี้ในแขวงเซกองทางตะวันออกเฉียงใต้ของสปป.ลาวซึ่งโรงไฟฟ้าแห่งแรกจะสร้างโดย บริษัท โฟนแซคกรุ๊ป จำกัด มีกำลังผลิตไฟฟ้าได้มากถึง 1,800 เมกะวัตต์ โรงงานดังกล่าวบริษัท โฟนแซคกรุ๊ป จำกัด จะลงทุนประมาณ 3-4 พันล้านเหรียญสหรัฐในโรงไฟฟ้ารวมถึงการสร้างสายไฟเพื่อส่งกระแสไฟฟ้าไปยังกัมพูชา ส่วนโรงไฟฟ้าแห่งที่สองจะสร้างโดยบริษัทจากจีน มีแผนจะลงทุนมากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ไม่ได้สร้างสายกระแสไฟฟ้าแต่ซึ่งจะร่วมมือกับElectricite du Laos (EDL) ในการส่งออกพลังงานไฟฟ้าไปยังกัมพูชา โดยโรงงานแห่งที่สองมีกำลังผลิตไฟฟ้า 700 เมกะวัตต์ กระแสไฟฟ้ากว่า 600 เมกะวัตต์ จะถูกส่งออกไปยังกัมพูชา เจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ กล่าวว่าโรงงานเหล่านี้จะเปิดดำเนินการและเริ่มส่งกระแสไฟฟ้าไปยังกัมพูชาในปี 2568 ซึ่งจะสร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่นและขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจในแขวงและภาพเศรษฐกิจของประเทศ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Two25.php

สปป.ลาวคาด การพัฒนาเมืองอัจฉริยะจะเริ่มดำเนินการในเร็ว ๆ นี้

การพัฒนาเมืองอัจฉริยะในแขวงหลวงน้ำทาและอุดมไซจะดำเนินการในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากหน่วยงานที่รับผิดชอบกำลังดำเนินการเจรจาข้อตกลงโครงการ ในการประชุมประจำปี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแผนการและการลงทุน ได้บรรยายสรุปความคืบหน้าของโครงการเหล่านี้ เมื่อการเจรจาสิ้นสุดลงจะดำเนินการในขั้นตอนการร่างสัญญาสัมปทาน โดยเมืองอัจฉริยะจะได้รับการพัฒนาโดยบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) การประชุมได้ทบทวนความคืบหน้าในการดำเนินโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการ รวมถึงทางรถไฟสปป.ลาว – ​​จีนและทางด่วนเวียงจันทน์ – วังเวียง ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ ทางด่วนระยะที่ 1 เวียงจันทน์ – วังเวียง จะเชื่อมเมืองหลวงของสปป.ลาวกับบ่อเต็นที่ชายแดนจีน อีกทั้งรัฐบาลได้อนุมัติทางด่วนระยะที่ 2 ระหว่างแขวงวังเวียงและหลวงพระบาง นอกจากนี้กำลังดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการขนาดใหญ่อื่น ๆ เช่น ทางด่วนเวียงจันทน์ – ฮานอยเพื่อเชื่อมระหว่างเมืองหลวงของสปป.ลาวและเวียดนาม ทางด่วนเวียงจันทน์ – ปากเซและทางด่วนหมายเลข 1 ในเวียงจันทน์ ที่ประชุมได้ทบทวนการดำเนินการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมปี 63 และหารือเกี่ยวกับแผนปีนี้ ผู้เข้าร่วมยังได้ทบทวนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 และแผน 5 ปีข้างหน้าตั้งแต่ปี 64-68

ที่มา :  https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Smart25.php

ปริมาณการส่งออกสินค้าจากมาเลเซียมายังกัมพูชาลดลงกว่าร้อยละ 42

การนำเข้าของกัมพูชาจากมาเลเซียลดลงในปี 2020 สู่ตัวเลขต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2016 ตามรายงานของกระทรวงการค้าระหว่างประเทศและอุตสาหกรรม (MITI) ของมาเลเซีย โดยการส่งออกของมาเลเซียในปี 2020 มายังกัมพูชาลดลงกว่าร้อยละ 42 เมื่อเทียบเป็นรายปี อยู่ที่ 368.5 ล้านดอลลาร์ จากผลกระทบของการระบาดในปัจจุบัน ก่อให้เกิดการหยุดชะงักครั้งใหญ่โดยตรงต่อซัพพลายเชนทั่วโลก โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายสินค้าและบริการ ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมการผลิตอย่างรุนแรง ซึ่งการนำเข้าส่วนใหญ่ของกัมพูชาจากมาเลเซีย ได้แก่เชื้อเพลิงจากแร่ จำพวกถ่านหิน ปิโตรเลียม และก๊าซธรรมชาติ มูลค่ารวมมากกว่า 207 ล้านดอลลาร์ ในปี 2019 และจากตัวเลขของ MITI การส่งออกปิโตรเลียมในปี 2020 ลดลงกว่าร้อยละ 22 เมื่อเทียบเป็นรายปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50810440/malaysian-exports-to-cambodia-down-42-percent/

SCG รายงานผลการดำเนินการในกัมพูชา ประจำปี 2020

เครือซิเมนต์ไทย (SCG) ประจำประเทศกัมพูชา รายงานผลการดำเนินการโดยมีรายรับจากการขายภายในประเทศกัมพูชากว่า 252 ล้านดอลลาร์ ในปี 2020 ตามรายงานประจำปีของบริษัท โดยรายรับในไตรมาสที่4 ของปี 2020 ลดลงร้อยละ 3 จากไตรมาสก่อนหน้า อยู่ที่ 59.7 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรายงานถึงสินทรัพย์รวมของบริษัทในกัมพูชาอยู่ที่ 409 ล้านดอลลาร์ เป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 18 เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยในไตรมาสที่ 4 ปี 2020 เศรษฐกิจโดยภาพรวมของกัมพูชาได้รับผลกระทบทั้งจากอุทกภัยครั้งใหญ่และการระบาดของ COVID-19 ซึ่งบริษัทเองกล่าวเพิ่มเติมว่าเหตุการณ์น้ำท่วมส่งผลทำให้ถนนหลายสายเสียหายและขาดการเชื่อมต่อ ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ของบริษัท ทั้งยังประสบกับปัญหาการหยุดชะงักในการก่อสร้าง จากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ในท้องถิ่น ทำให้โครงการก่อสร้างหลายแห่งในพนมเปญหยุดชะงัก สอดคล้องกับรายงานจากธนาคารแห่งชาติกัมพูชาระบุว่าภาคการก่อสร้างลดลงที่ร้อยละ 3 ในปี 2020 การนำเข้าวัสดุก่อสร้างลดลงร้อยละ 10.8

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50810439/scg-reports-healthy-annual-revenue-despite-2020s-trials/

Vietnam Economic Factsheet : 2563

ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเวียดนาม ปี 2563 ขยายตัวร้อยละ 2.91 (หากเทียบตามไตรมาสแล้ว GDP ในไตรมาสแรก ขยายตัว 3.68% ในไตรมาสที่ 2 ขยายตัว 0.39% ในไตรมาสที่ 3 ขยายตัว 2.69% และในไตรมาสที่ 4 ขยายตัว 4.48% ตามลำดับ) ตัวเลขดังกล่าวเป็นการเติบโตต่ำที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา (2011-2020) ท่ามกลางผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ยังถือเป็น “ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่” ของประเทศ

ที่มา : General Statistics Office of Vietnam, CEIC Data, International Monetary Fund, Ministry of Finance และ Royal Thai Consulate-General, Ho Chi Minh City