รัฐมนตรีสหภาพแรงงาน ตรวจการก่อสร้างสะพานมิตรภาพเมียนมา-เกาหลี
อู เมียว ตัน รัฐมนตรีสหภาพแรงงาน อู โซ เต็ง มุขมนตรีเขตย่างกุ้ง และเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบสถานที่ก่อสร้างสะพานมิตรภาพเมียนมา-เกาหลี (ดาลา) ซึ่งจะเชื่อมต่อตัวเมืองย่างกุ้งกับเมืองดาลาเมื่อวานนี้ ด้าน U Kyaw Kaung Cho รองอธิบดีกรมสะพานและผู้นำโครงการ ได้หารือเกี่ยวกับข้อกำหนดด้านความปลอดภัย กลยุทธ์การจัดการจราจร การก่อสร้างท่อส่งน้ำดื่มกว้าง 0.5 เมตร และแผนการเจรจากับคณะกรรมการพัฒนาเมืองย่างกุ้ง สำหรับด่านเก็บค่าผ่านทางฝั่งดาหลา ทั้งนี้ รัฐมนตรีสหภาพฯ ให้การสนับสนุนที่จำเป็นและเฝ้าสังเกตการก่อสร้างสะพานที่กำลังเข้าใกล้ฝั่งย่างกุ้ง สะพานลาด และเสาท่าเรือจนเสร็จสมบูรณ์ รวมทั้งยังได้เดินทางเยือนธนาคารดาลาทางเรือ เพื่อตรวจสอบพื้นที่ที่กำหนดสำหรับด่านเก็บค่าผ่านทาง โครงสร้างคอสะพานและโครงการที่กำลังดำเนินอยู่ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของป้ายและไฟสัญญาณ และบทบาทของพวกเขาในการรับรองความปลอดภัยของเรือในระหว่างขั้นตอนการก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม สะพานมิตรภาพอยู่ระหว่างการก่อสร้างภายใต้มาตรฐานและบรรทัดฐานสากล ด้วยความสูงจากพื้นดิน 49 เมตร เพื่อรองรับเรือเดินทะเลขนาด 15,000 ตัน สะพานทางลาดและโครงสร้างคอสะพานกำลังถูกสร้างขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่ามีการลาดเอียงและทางเดินที่ปลอดภัย
ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/moc-um-inspects-myanmar-korea-friendship-bridge-construction/#article-title
หอการค้าฯ สปป.ลาว มองอินเดียเป็นตลาดส่งออกสินค้าขนาดใหญ่ของลาวได้
หอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติลาว ได้จัดการประชุมธุรกิจลาว-อินเดีย ในเวียงจันทน์ โดยมีผู้นำทางธุรกิจมากกว่า 170 ราย จากกว่า 100 บริษัทเข้าร่วม นายทนงสิน กัลยา รองประธานบริหารหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติลาว กล่าวว่า “อินเดียมีศักยภาพอย่างมากในการส่งออกสินค้าจากลาวไปขาย รวมถึงการลงทุนด้านอุตสาหกรรมในประเทศลาว การประชุมครั้งนี้เป็นโอกาสในการหารือเกี่ยวกับรูปแบบการลงทุนที่สามารถส่งเสริมการค้าระหว่างลาวและอินเดียได้อย่างมีประสิทธิภาพ” หวังว่าผู้ประกอบธุรกิจชาวอินเดียและสภาธุรกิจอาเซียน-อินเดีย จะช่วยส่งเสริมการลงทุนและการพัฒนาในประเทศลาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการร่วมมือกับบริษัทลาวในภาคส่วนต่างๆ เพื่อการพัฒนาและผลกำไรร่วมกัน ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของ สปป.ลาว เปิดเผยว่า มูลค่าการค้าระหว่างลาวและอินเดียมีมากกว่า 108 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2566 ลดลง 15.57% เมื่อเทียบกับปี 2565 โดยลาวนำเข้าสินค้าจากอินเดียมูลค่า 25.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขายสินค้ามูลค่า 82 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับอินเดีย ซึ่งถือว่าไม่มากนัก แต่มีศักยภาพที่จะขยายตัวได้ ด้านการลงทุนตั้งแต่ปี 2551-2565 บริษัทอินเดียได้จดทะเบียนเงินลงทุนประมาณ 314 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้จัดตั้งธุรกิจ 311 แห่ง ใน สปป.ลาว
ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_34_India_y24.php
การค้าต่างประเทศของเมียนมาทะลุ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในรอบ 10 เดือน
สถิติของกระทรวงพาณิชย์เมียนมารายงานว่า การค้าระหว่างประเทศของเมียนมากับคู่ค้าต่างประเทศมีมูลค่า 25.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยการส่งออกมูลค่า 12.135 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้ามูลค่า 13.378 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณปัจจุบัน พ.ศ. 2566-2567 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ซึ่งมูลค่าการค้ารวมของปีงบประมาณปัจจุบันลดลงอย่างมากถึง 3.15 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีมูลค่าการค้ารวม 28.66 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม มูลค่าการค้าของเมียนมาแบ่งออกเป็นการค้าทางทะเลอยู่ที่ประมาณ 18.787 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่การค้าดำเนินการที่ชายแดนมีมูลค่า 6.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา
ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmars-foreign-trade-exceeds-us25-bln-in-ten-months/
สปป.ลาว เปลี่ยนตัวรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่
กระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ สปป.ลาว ประกาศเปลี่ยนแปลงผู้นำระดับสูงของกระทรวง เพื่อเสริมสร้างการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆ ภายในกระทรวงพลังงานฯ โดยได้แต่งตั้งนายสินาวา สุภานุวงศ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ขึ้นเป็นรัฐมนตรี และให้นายจันทบูน สุขะลุน อดีตผู้อำนวยการการไฟฟ้าลาว (EDL) และนายชาญสะแวง บุ่งนอง ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน ขึ้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ ทั้งนี้ การปรับปรุงระบบองค์กรของกระทรวง รวมถึงการจัดสรรบุคลากรระดับสูงอย่างเหมาะสม ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากคำแนะนำของพรรค “การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งเกิดขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับการตัดสินใจในระหว่างการประชุมสมัชชาแห่งชาติครั้งที่ 9 ของพรรคปฏิวัติประชาชนลาว” นายโพไซ สายะสอน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่กล่าวในพิธีส่งมอบตำแหน่งครั้งนี้
ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_34_Energy_y24.php
นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามายังเสียมราฐกัมพูชามากกว่า 5,000 คนต่อวัน
จำนวนนักท่องเที่ยวที่ผู้มาเยือนเสียมราฐเพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่ต้นปี 2024 โดยเพิ่มขึ้นไปแตะระหว่าง 4,000-5,000 คนต่อวัน ตลอดช่วงเดือนมกราคม ตามรายงานล่าสุดของกรมการท่องเที่ยวจังหวัดเสียมราฐ ซึ่งในช่วงเดือนมกราคมทางการให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 124,000-155,000 คน ขณะที่ปริมาณการขายตั๋วเข้าชมอุทยานโบราณคดีนครวัดอยู่ที่จำนวน 115,532 ใบ ตามการรายงานของ Angkor Enterprise (AE) ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐที่ได้รับมอบหมายให้จัดการการขายตั๋วที่อุทยานอังกอร์และหมู่บ้านลอยน้ำ Chong Khneas ในจังหวัดเสียมราฐ รวมถึงวัดเกาะเคอร์ ซึ่งเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกในจังหวัดพระวิหารที่อยู่ใกล้เคียงกัน สำหรับในแง่ของการส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวทางการได้จัดตั้งสนามบินนานาชาติเสียมราฐ-อังกอร์ (SAI) แห่งใหม่ เพื่อเป็นการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามายังจังหวัดมากขึ้น โดยมีเที่ยวบินตรงราคาประหยัดที่เชื่อมโยงระหว่างเสียมราฐกับจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอื่นๆ ทั่วเอเชีย
ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501440076/siem-reap-sees-rush-of-tourists-over-5000-visit-daily/
มูลค่าสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์กัมพูชาแตะ 5.12 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี 2023
ภาคการเงินรายย่อยกัมพูชาได้ออกเครดิตสินเชื่อแก่ผู้กู้มูลค่ารวมกว่า 5.12 พันล้านดอลลาร์ ให้กับผู้ขอสินเชื่อราว 1.57 ล้านราย โดยมีการกู้ยืมเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ประมาณ 3,260 ดอลลาร์ สำหรับในปีที่แล้ว ผ่านเครือข่ายสถาบันทางการเกิน 904 แห่ง ทั่วประเทศ รายงานโดย Kaing Tongngy โฆษกสมาคมไมโครไฟแนนซ์กัมพูชา (CMA) ซึ่งปัจจุบันภาคการเงินภายในประเทศกัมพูชายังคงรักษาเสถียรภาพได้ดี แม้ว่าจะยังไม่มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญก็ตาม ขณะที่ทางการยังได้เน้นย้ำถึงการกู้ยืมนอกระบบว่าไม่ควรทำ เนื่องจากมีการคิดอัตราดอกเบี้ยที่สูงเกินความจำเป็น และไม่มีกลไกในการคุ้มครองลูกค้าอย่างชัดเจน