Vietnam Economic Factsheet : Q3/2563

GDP ของเวียดนามในไตรมาสที่ 3 ปี 2563 ขยายตัวร้อยละ 2.62 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ถือว่าเป็นการขยายตัวต่ำที่สุดในทุกไตรมาสที่ 3 ปี 2554-2563 เป็นผลมาจาก [1] ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ต่อเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) อย่างเข็มงวด แต่คาดว่าเศรษฐกิจจะค่อยๆกลับมาฟื้นตัวเป็นภาวะปกติ ด้วยเหตุนี้ GDP ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ จะเติบโตได้อย่างดีเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคขั้นสุดท้ายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ พบว่าขยายตัวร้อยละ 1.19 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว, การปรับเงินทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.79,  การส่งออกสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.86 และการนำเข้าสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.88

หัวข้อสำคัญ ดังต่อไปนี้

ด้านการผลิต

  • ภาคเกษตรกรรม (พื้นที่การเกษตร (ผลผลิตข้าว), ผลผลิตไม้ และผลผลิตประมง)
  • ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (IPI)
  • ยอดการค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคและบริการ
  • จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ด้านการใช้จ่าย

  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT/GST)
  • การใช้จ่ายภาครัฐบาลรวม
  • การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่, ยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์
  • การค้าระหว่างประเทศ

เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

  • ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
  • ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)
  • อัตราการว่างงาน
  • ดุลบัญชีเดินสะพัด

ภาคการเงิน

  • อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก
  • อัตราดอกเบี้ยเงินกู้
  • อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Policy Rate)

ที่มา : General Statistics Office of Vietnam, CEIC Data, International Monetary Fund

INFOGRAPHIC : เวียดนามเผยสินค้าส่งออกสำคัญ 5 รายการ มีมูลค่ารวมกว่า 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำนักงานสถิติแห่งชาติ (GSO) เปิดเผยว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 สินค้าส่งออกสำคัญของเวียดนาม จำนวน 5 รายการที่มีมูลค่ามากกว่า 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้แก่

  • โทรศัพท์และชิ้นส่วน มีมูลค่าส่งออก 36.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (18.1% ของยอดส่งออกรวม)
  • อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ มีมูลค่าส่งออก 32.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (15.9% ของยอดส่งออกรวม)
  • เครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอ มีมูลค่าส่งออก 22.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (10.9% ของยอดส่งออกรวม)
  • เครื่องจักร อุปกรณ์และชิ้นส่วนประกอบ มีมูลค่าส่งออก 18.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (9.0% ของยอดส่งออกรวม)
  • รองเท้า มีมูลค่าส่งออก 12.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (6.0% ของยอดส่งออกรวม)

ทั้งนี้ สินค้าส่งออกสำคัญดังกล่าว 5 รายการ มีมูลค่าส่งออกรวมกันร้อยละ 69.4 ของยอดส่งออกทั้งหมดของเวียดนาม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/5-commodities-record-export-values-of-over-10-billion-usd/188129.vnp

หลวงพระบางเผยกลยุทธ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวสปป.ลาว

หลวงพระบางซึ่งเป็นมรดกโลกชั้นนำของสปป.ลาวกำลังลงทุนอย่างมากในการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกในสถานที่ท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวควบคู่ไปกับแคมเปญส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นการเดินทางภายในประเทศและกระตุ้นการท่องเที่ยว การมุ่งเน้นไปที่นักท่องเที่ยวในประเทศเป็นการตอบสนองต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่รุนแรงและไม่เคยปรากฏมาก่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่มีผู้เยี่ยมชมจากต่างประเทศหลังจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 การล็อกดาวน์ของหลายๆประเทศทำให้กรุ๊ปทัวร์ต้องยกเลิกการจองส่งผลให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสูญเสียไปอย่างน้อย 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะนี้หลวงพระบางใช้เงิน 1.7 พันล้านกีบเพื่อสร้างและอัพเกรดสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีอยู่ที่ Phousy Hill และน้ำตก Kuang Xi ผู้ประกอบการหลายรายได้ลดต้นทุนแพ็คเกจทัวร์และราคาห้องพักเหลือประมาณ 1 ใน 3 ของราคาปกติโดยลดค่าใช้จ่ายลง 70 %  มีการจัดทัวร์ปั่นจักรยาน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยังมีแผนที่จะจัดคาราวานยานพาหนะเพื่อเดินทางไปเวียงจันทน์ในเดือนหน้าเพื่อเป็นช่องทางในการส่งเสริมการเดินทางภายในประเทศ ธุรกิจต่างๆฟื้นตัวเล็กน้อยเนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวสปป.ลาวจำนวนไม่น้อยที่มีกำลังซื้อจำกัด ไม่สามารถชดเชยการไม่มีลูกค้าต่างชาติได้ทั้งหมด จนถึงปีนี้หลวงพระบางมีนักท่องเที่ยวประมาณ 420,000 คนลดลง 64% เมื่อเทียบกับเป้าหมายในปี 63

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Luang_203.php

การแก้ไขเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจท่ามกลางโรคระบาดใน สปป.ลาว

ภาครัฐได้รับการกระตุ้นให้กระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อไปท่ามกลางการระบาดของโควิด -19 และการตกต่ำของเศรษฐกิจโลกซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจของสปป.ลาว นี่เป็นประเด็นหลักประการหนึ่งของมติที่ได้รับการอนุมัติในการประชุมคณะกรรมการกลาง ยังมีเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ปรับปรุงบรรยากาศทางธุรกิจและผลักดันให้มีการลงทุนภาคเอกชนมากขึ้น คณะกรรมการกลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาวกล่าวว่ารัฐบาลควรเพิ่มการผลิตเชิงพาณิชย์เพื่อให้มีการผลิตสินค้าเพื่อการบริโภคในประเทศและการส่งออกมากขึ้น ในส่วนนี้จำเป็นที่จะต้องมีการลดกฎระเบียบของระบบราชการเพื่อให้องค์กรเอกชนสามารถลดต้นทุนการผลิตและตั้งโรงงานเพื่อการส่งออกได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าสปป.ลาวจะยังคงปลอดจากผลกระทบต่อสุขภาพที่รุนแรง แต่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวก็ยังคงแพร่หลายทำลายการท่องเที่ยวก ารลงทุนและการส่งออกซึ่งเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่สำคัญ คณะกรรมการกลางพรรคซึ่งทำหน้าที่เป็นหน่วยงานตัดสินใจทางการเมืองของสปป.ลาวได้สั่งให้รัฐบาลจัดการกับภาระหนี้ที่สำคัญของประเทศและอุดช่องโหว่ทางการเงินรวมทั้งปรับปรุงรัฐวิสาหกิจเพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามโครงการพัฒนาขนาดใหญ่หลายโครงการยังคงมีความคืบหน้าตามแผน ในระหว่างนี้ทางการยังคงดิ้นรนเพื่อควบคุมราคาอาหารเนื่องจากสินค้าจำนวนมากถูกนำเข้าและต้องซื้อด้วยสกุลเงินที่อัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวน

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Party_203.php

กัมพูชาร่างกฎหมายด้านการลงทุนฉบับใหม่

รัฐบาลกัมพูชากำลังส่งร่างกฎหมายเกี่ยวกับการลงทุนฉบับใหม่ให้กับภาคเอกชนเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางที่จะทำให้ร่างกฎหมายฉบับใหม่ครอบคลุมเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจภายในประเทศกัมพูชามากขึ้นและช่วยให้กัมพูชากลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับโครงการการลงทุนใหม่ๆในอนาคต โดยร่างกฎหมายนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศ ทั้งยังปรับปรุงและเพิ่มผลผลิตของอุตสาหกรรมในท้องถิ่นเพื่อเชื่อมโยงกับห่วงโซ่คุณค่าในระดับภูมิภาคและระดับโลก ผ่านการเคลื่อนย้ายของกระแสเงินทุนจากนานาชาติ การถ่ายโอนเทคโนโลยีและความรู้ นอกจากนี้ยังปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ทางกฎหมายของนักลงทุนที่มาลงทุนยังกัมพูชาอีกด้วย ซึ่งกฎหมายจะถูกนำไปใช้กับโครงการลงทุนที่ผ่านการรับรอง (QIP) ทั้งหมด โดยจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้เป็นเวลา 3-9 ปี โดยพิจารณาจากภาคส่วนและกิจกรรมการลงทุน ซึ่งหากโครงการการลงทุนภายใต้ QIP จะได้รับการสนับสนุนให้จ่ายภาษีลดลงร้อยละ 25, 50 และร้อยละ 75 ในทุก ๆ 2 ปี รวมถึงยังได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มเพิ่มเติมสำหรับการซื้อวัตถุดิบที่ผลิตภายในท้องถิ่น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50773944/new-draft-law-on-investment-mulled/