ท่าเรือย่างกุ้งรองรับเรือคอนเทนเนอร์ 173 ลำในไตรมาสแรก

การท่าเรือเมียนมาประกาศว่า เรือขนส่งสินค้า 62 ลำมีกำหนดเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือย่างกุ้งในเดือนเมษายน ทำให้ไตรมาสแรกของปี 2568 (เดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม) มีเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์รวม 173 ลำมาถึงท่าเรือย่างกุ้ง อย่างไรก็ดี ในปี 2024 ท่าเรือย่างกุ้งรองรับเรือขนส่งสินค้าทั้งหมด 633 ลำ และ 629 ลำในปี 2023 ตามลำดับ นอกจากนี้ คำแถลงของสำนักงานท่าเรือเมียนมา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2022 เรือเดินทะเลระหว่างประเทศสามารถเข้าถึงท่าเรือด้านในได้ หลังจากพบช่องทางเดินเรือใหม่ (Kings Bank Channel) ที่เข้าถึงแม่น้ำย่างกุ้งด้านในแล้ว ทำให้ท่าเรือสามารถรองรับเรือขนาดใหญ่ขึ้นได้ โดยเรือขนส่งสินค้า MV SITC Zhaoming (LOA 185.99 เมตร, คาน 35.25 เมตร, 29,232 GRT และ 2,698 TEU) ของบริษัท SITC Shipping Line ซึ่งมีฐานอยู่ในฮ่องกง ได้เข้าเทียบท่าที่ท่าเรือ Asia World เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ซึ่งถือเป็นเรือลำใหญ่ที่สุดที่ท่าเรือ AWPT เคยเข้าเทียบท่า

ที่มา : http://• https://www.gnlm.com.mm/yangon-port-handles-173-container-vessels-in-q1/

‘โครงสร้างพื้นฐานรองรับยานยนต์ไฟฟ้า’ กุญแจสู่การพัฒนาสีเขียว

สมาคมผู้ผลิตยานยนต์เวียดนาม (VAMA) เปิดเผยว่ายอดขายยานยนต์ไฟฟ้าในเวียดนามในปี 2567 อยู่ที่ประมาณ 9 หมื่นคัน เพิ่มขึ้น 2.5 เท่า จากปี 2566 ในขณะที่สมาคมฯ ได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มยอดขายยานยนต์ไฟฟ้า 1 ล้านคัน ภายในปี 2573 และเพิ่มขึ้น 3.5 ล้านคันในปี 2583 ด้วยเหตุนี้ สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) แนะนำให้เวียดนามสร้างสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า 100,000 – 350,000 แห่ง ในอีก 15 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ดี ผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ในเวียดนาม ‘VinFast’ และผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าอื่นๆ เผชิญกับอุปสรรคในการเข้าสู่ตลาดเวียดนาม เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานไม่เพียงพอต่อการตอบสนองของภาคธุรกิจ โดยเฉพาะแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนที่ได้ถอนตัว

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-ev-charging-infrastructure-key-to-green-transition-post317676.vnp

‘เวียดนาม’ คุมเข้มป้องกันการฉ้อโกงแหล่งกำเนิดสินค้าที่ส่งออกไปต่างประเทศ

จากแรงกดดันทางด้านนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่รุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) รวมถึงการควบคุมที่เข้มงวดต่อการแอบอ้างถิ่นกำหนดสินค้า ซึ่งการควบคุมและการตรวจสอบว่าด้วยถิ่นเนิดสินค้า ช่วยปกป้องการผลิตในประเทศและป้องกันการละเมิดหรือแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าเวียดนาม ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MoIT) ได้ออกแถลงการณ์ว่าด้วยการจัดการการนำเข้าแหล่งวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตเพื่อส่งออก ในขณะเดียวกัน นายโห่ ดึ๊ก เฟิ๊ก รองนายกรัฐมนตรีเวียดนาม กล่าวว่าเวียดนามใช้แนวทางเชิงรุกและพร้อมเปิดกว้างการเจรจา รวมถึงทำงานอย่างใกล้ชิดกับสหรัฐฯ

ที่มา : https://www.thestar.com.my/aseanplus/aseanplus-news/2025/04/19/vietnam-takes-action-to-prevent-origin-fraud-in-export?fbclid=IwY2xjawJwWklleHRuA2FlbQIxMQABHqkcAV3HluQfSJizDq-Tp3J5RH4M4gY25KXKt47DLmFM0f9tnb9g1eaEnGdJ_aem_5ovcToSEx4xysD3GDkaogg

‘ลดวันทำงานหรือเร่งผลิต’ ผู้ส่งออกเวียดนามเผชิญภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ท่ามกลางมรสุมภาษี

ผู้บริหารอุตสาหกรรม เปิดเผยว่าโรงงานบางแห่งในเวียดนาม ได้รับคำสั่งให้ผลิตสินค้ามากขึ้นเพื่อส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ ขณะที่อีกหลายโรงงานต้องลดจำนวนกะการทำงานลงเหลือสัปดาห์ละ 3 วัน เนื่องจากคำสั่งซื้อจากสหรัฐฯ ถูกเลื่อนหรือยกเลิก จากเหตุการณ์ดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความไม่แน่นอนและความวุ่นวายของผู้ส่งออกเวียดนาม ซึ่งประเทศเป็นศูนย์กลางการผลิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเก็บภาษีสินค้าจากเวียดนามสูงถึง 46%

ทั้งนี้ Calvin Nguyen หัวหน้าบริษัทโลจิสติกส์ WeDo Forwarding ของเวียดนาม กล่าวว่าโรงงานต่างๆ เปลี่ยนแผนการผลิตและการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ โดยแบ่งกะการทำงานเป็นวันจันทร์-พุธ-ศุกร์ และวันอังคาร-พฤหัสบดี-เสาร์ แทนที่จะทำงานเต็มเวลา เนื่องจากมีคำสั่งซื้อจำนวนมากถูกระงับ

อีกทั้ง ยังได้อ้างบริษัทอีก 3 แห่งที่ผลิตเสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าเกษตรที่เปลี่ยนแผนการดำเนินงานของธุรกิจ เนื่องจากคำสั่งซื้อถูกเลื่อนออกไป แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ จะระงับภาษีศุลกากรต่างตอบแทน

ที่มา : https://www.straitstimes.com/asia/cut-shifts-or-ramp-up-output-vietnams-exporters-face-dilemma-amid-tariff-chaos

‘ภาษีทรัมป์’ ฉุดผู้ส่งออกเฟอร์นิเจอร์เวียดนาม แข่งขันกับเวลา 90 วัน

พอล หยาง รองประธานของโรงงานที่ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ของเวียดนามให้กับบริษัทชั้นนำ เช่น Williams-Sonoma และ Crate & Barrel Holdings ได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าชาวอเมริกันให้ทำการจัดส่งเร็วขึ้นในช่วงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ก่อนที่ได้รับความเสี่ยงจากการจัดเก็บภาษีสินค้าเวียดนามที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ จะพุ่งสูงเกินควร สิ่งเหล่านี้เป็นโอกาสสุดท้ายในการสร้างรายได้จากฐานลูกค้าที่มีมูลค่าต่อเศรษฐกิจเวียดนาม 400 พันล้านดอง หรือประมาณ 525 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หากเวียดนามไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ ก่อนที่สหรัฐฯ จะระงับเก็บภาษีสิ้นสุดลง

ที่มา : https://www.straitstimes.com/business/economy/us-china-trade-war-threatens-to-crush-vietnams-manufacturing-economy

‘เวียดนาม – จีน’ ลงนามพิธีสาร 4 ฉบับ เปิดส่งออกสินค้าเกษตร

จากการเดินทางมาเยือนเวียดนามของเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCP) และประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ระหว่างวันที่ 14-15 เมษายน มีการร่วมลงนามพิธีการส่งออกสินค้าเกษตร 4 ฉบับ ได้แก่ พิธีสารว่าด้วยการกักกันโรคพืชและตรวจสอบสำหรับการส่งออกพริก มะเฟือง รำข้าวและรังนกที่ส่งออกจากเวียดนามไปยังจีน ทั้งนี้ จีนเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ในขณะเดียวกัน เวียดนามเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีนในอาเซียน โดยยอดการค้าทวิภาคีของทั้งสองประเทศในไตรมาสแรกของปีนี้ มีมูลค่าอยู่ที่ 51.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 17.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องตลอดทั้งปี

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1715958/viet-nam-signs-four-more-agricultural-export-protocols-with-china.html

‘เวียดนาม – เกาหลีใต้’ ให้คำมั่นเสริมสร้างความสัมพันธ์ ท่ามกลางสหรัฐฯ เล็งขึ้นภาษี

เกาหลีใต้และเวียดนาม ตกลงที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ภายหลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้า ซึ่งจากเหตุการณ์ข้างต้น นับเป็นความท้าทายครั้งใหญ่สำหรับเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ

ในขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของเวียดนาม ระบุว่าทั้งสองประเทศ ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าทวิภาคี อยู่ที่ 150 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2030 ทั้งนี้ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ (Samsung Electronics) บริษัทยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ ได้ดำเนินธุรกิจในเวียดนามมาหลายปี เนื่องจากต้นทุนการผลิตในจีนเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงประเด็นความเสี่ยงทางการเมืองและการแข่งขันที่รุนแรง อย่างไรก็ดี การขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยเหตุนี้ เมื่อต้นสัปดาห์ นายโชแทยูล รัฐมนตรีต่างประเทศของเกาหลีใต้ ได้เข้าพบกับนายบุ่ย แทงห์ เซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม เพื่อหารือแนวทางการรับมือต่อมาตรการภาษีศุลกากรที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้

ที่มา : https://www.thedailystar.net/business/news/south-korea-vietnam-pledge-cooperation-us-tariffs-loom-3872301

‘สหรัฐฯ – เวียดนาม’ เปิดเจรจาข้อตกลงการค้า หลังระงับภาษีศุลกากร

รองนายกรัฐมนตรี โฮ ดุ๊ก ฟก (Ho Duc Phoc) ได้เริ่มที่จะเจรเจากับนายเจมสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เพื่อที่จะทำข้อตกลงการค้าร่วมกัน แต่เพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่สหรัฐฯ ระงับการเลื่อนการจัดเก็บภาษีศุลกากรในอัตราสูงถึง 46% จากทั่วโลก โดยจากการแถลงการณ์ครั้งล่าสุด จากการหารือของทั้งสองประเทศนั้นครอบคลุมถึงเรื่องการค้าต่างตอบแทน (Reciprocal Trade) และโอกาสทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ ถึงแม้ว่าจะระงับการใช้ภาษีศุลกากร แต่ยังคงเก็บภาษีศุลกากรจากทุกประเทศในอัตรา 10% ของสินค้านำเข้าทั้งหมด ทั้งนี้ เวียดนามเป็นฐานการผลิตในภูมิภาคที่สำคัญของบริษัทตะวันตกหลายแห่ง และเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ มากกว่า 123 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของประเทศในปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.reuters.com/world/asia-pacific/us-vietnam-agree-launch-trade-deal-talks-tariffs-paused-2025-04-10/

‘เวียดนาม’ เผยไตรมาสแรก ยอดค้าปลีกและบริการ โต 10%

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่ายอดค้าปลีกและบริการในไตรมาสแรกของปีนี้ อยู่ที่ 1.7 ล้านล้านดอง หรือประมาณ 65.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 9.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) ทั้งนี้นางเหงียน ทิ ห่ง (Nguyen Thi Huong) ผู้อำนวยการของสำนักงานฯ กล่าวว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้ภาคการค้าและบริการขยายตัวได้ดีในไตรมาสนี้ เนื่องมาจากอยู่ในช่วงเทศกาลวันหยุด ทำให้อุปสงค์ในประเทศเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมากที่เดินทางเข้าเวียดนาม

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1695507/retail-sales-of-goods-services-up-almost-10-in-q1.html

‘หอการค้าเวียดนาม’ เรียกร้องให้สหรัฐฯ ชะลอการเก็บภาษีศุลกากร

หอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม (VCCI) และหอการค้าอเมริกันในกรุงฮานอย (AmCham) ส่งจดหมายถึงรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทรัมป์ชะลอการเก็บภาษีศุลกากรต่อการส่งออกเวียดนามไปยังสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ การตัดสินใจทางการค้า และระบบโลจิสติกส์ที่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า ทั้งนี้ หอการค้าเชื่อมั่นว่ารัฐบาลเวียดนามจะดำเนินการเชิงรุกอย่างจริงจัง และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาความไม่สมดุลทางการค้ากับสหรัฐ ในขณะเดียวกัน ดำเนินการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการประกอบธุรกิจของกลุ่มผู้ประกอบการและนักลงทุนสหรัฐฯ

ที่มา : https://en.vneconomy.vn/the-u-s-asked-to-delay-implementing-reciprocal-tariffs-on-vietnam.htm