สัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ก.พ. กัมพูชาให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวถึง 3 แสนคน

กระทรวงการท่องเที่ยวฯ รายงานเมื่อวันที่ 17 ก.พ. ที่ผ่านมาว่า ตั้งแต่วันที่ 6-12 ก.พ. กัมพูชาได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวรวม 299,264 คน โดยเป็นนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาที่เดินทางท่องเที่ยวในประเทศจำนวน 249,252 คน และนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกจำนวน 50,012 คน ท่ามกลางการกลับมาของนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งกระจายไปยังแหล่งท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ จังหวัดพระสีหนุที่จำนวน 70,698 คน, เสียมราฐ 37,649 คน, พนมเปญ 38,694 คน, กัมปอต 21,244 คน, พระตะบอง 20,546 คน, กัมปงจาม 22,270 คน และสวายเรียง 18,466 คน ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวกล่าวเสริมว่าการไหลเข้าของนักท่องเที่ยวในปัจจุบันถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวภายในประเทศทำกำลังกลับมาฟื้นตัวหลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501240850/nearly-300000-tourists-recorded-in-second-week-of-february/

ทางการกัมพูชาจัดเก็บภาษีแตะ 300 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดือน ม.ค. 2023

กรมจัดเก็บภาษี (GDT) หน่วยงานภายใต้กระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง รายงานการจัดเก็บภาษีในช่วงเดือน ม.ค. 2023 ซึ่งมีมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 300 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 4.29 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2022 โดยคิดเป็นร้อยละ 8.42 ของแผนการจัดเก็บภาษีประจำปี ด้านผู้อำนวยการทั่วไปกล่าว พร้อมย้ำว่า GDT จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจัดเก็บรายได้จากภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งปัจจุบันกัมพูชามีสองสถาบันที่รับผิดชอบในการจัดเก็บภาษี โดย GDT มุ่งเน้นไปที่การจัดเก็บภาษีภายในประเทศ เช่น ภาษีเงินได้ ภาษีเงินเดือน ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีโรงเรือน ขณะที่กรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) จะจัดเก็บภาษีสำหรับสินค้านำเข้าและส่งออก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501240951/cambodia-collects-300-million-as-tax-income-in-january-2023/

เดือนม.ค 66 เมียนมานำเข้าปุ๋ย ทะลุ 60,000 ตัน

จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์เมียนมา พบว่า เดือนมกราคม 2566 เมียนมานำเข้าปุ๋ยผ่านทางทะเลมากกว่า 60,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 31.075 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยตลาดนำเข้าสำคัญ ได้แก่ จีน 40,000 ตัน, ไทย 7,800 ตัน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 5,000 ตัน, เกาหลีใต้ 2,500 ตัน, สหรัฐอเมริกา 600 ตัน, อุซเบกิสถาน 500 ตัน, เวียดนาม 400 ตัน, ญี่ปุ่น 400 ตัน, สปป.ลาว 300 ตัน, มาเลเซีย 80 ตัน และอินเดียกับอินโดนีเซีย 10 ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2565 ที่มีการนำเข้าปุ๋ยเพียง 43,000 ตัน ซึ่งราคาปุ๋ย ณ ปัจจุบัน จะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 72,000-162,500 จัตต่อกระสอบ (ขนาด 50 กิโลกรัม) ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและประเภทของปุ๋ย

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-imports-60000-tonnes-of-fertilizer-worth-31-075-mln-in-jan/#article-title

“VinFast” รถยนต์ไฟฟ้าเวียดนาม เรียกรถเกือบ 2,800 คัน

‘VinFast’ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) สัญชาติเวียดนาม เรียกคืนรถสปอร์ตยูทิลิตี้รุ่น VF8 ในประเทศ จำนวน 2,781 คัน เพื่อทำการตรวจสอบและเปลี่ยนสลักเกลียวที่เชื่อมต่อคาลิเปอร์เบรกหน้า เนื่องมาจากรายการประกอบชิ้นส่วนเฉพาะพิเศษ สายรัดที่เชื่อมต่อคาลิเปอร์ด้านหน้ากับดุมล้ออาจมีการคลายตัวเมื่อรถใช้งานอยู่ ซึ่งอาจลดประสิทธิภาพของเบรกด้านหน้าได้ และจะเร่งแก้ไขแรงบิดสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น VF8 จำนวน 999 คันที่ส่งไปยังสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่พบข้อร้องเรียนใดๆ จากลูกค้าเกี่ยวกับคลายสลักที่อาจก่อให้เกิดปัญหาในการเบรก

ที่มา : https://www.investing.com/news/stock-market-news/vietnams-ev-maker-vinfast-recalls-nearly-2800-units-domestically-3007508

“เซ็นทรัล” เดินหน้าลงทุนเวียดนาม

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (CRC) เปิดเผยว่าทางบริษัทมองเห็นศักยภาพการเติบโตของตลาดเวียดนามและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง ด้วยฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทที่ทำธุรกิจและการตั้งเป้าโรดแมป 5 ปี จึงมีความพร้อมที่จะอัดงบลงทุน 5 ปี ในเวียดนามอีกกว่า 50 พันล้านบาท ทั้งนี้ เซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม มีจำนวนร้านค้ามากกว่า 340 แห่ง และมีพื้นที่รวมกันเกินกว่า 1.2 ล้านตารางเมตร ครอบคลุมไปยัง 40 จังหวัดทั่วประเทศ นอกจากนี้ นาย Olivier Langlet ผู้บริหารสูงสุดของ Central Retail Vietnam กล่าวว่าเศรษฐกิจเวียดนามยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้เผชิญกับความไม่แน่นอน โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะขยายตัว 6.7% และ 7.2% ในปี 2566 และ 2567 ตามลำดับ เทียบกับ 3.5% ต่อปีของเศรษฐกิจไทยในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้ตลาดเวียดนามเติบโตเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

ที่มา : https://www.bangkokpost.com/business/2509314/crc-bullish-on-vietnam

ไทยเร่งยกระดับความร่วมมืออาเซียน เพิ่ม FTA หนุนเศรษฐกิจฟื้น

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน (Senior Economic Officials Meeting: SEOM) ที่ผ่านมาณ เมืองเซอมารัง สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ที่ผ่านมาได้พิจารณาประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ รวมทั้งการเร่งติดตามความคืบหน้าในการเจรจายกระดับความตกลงการค้าเสรี (FTA)

ทั้งนี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับทราบประเด็นเรื่องการประชุมดังกล่าว ซึ่งในปีนี้เน้นย้ำถึงประเด็น บทบาทอาเซียนที่มีความสำคัญในฐานะศูนย์กลางการเจริญเติบโต (ASEAN Matters: Epicentrum of Growth) พร้อมตั้งเป้าให้เศรษฐกิจอาเซียนเติบโตอย่างรวดเร็ว ครอบคลุม และยั่งยืน

นอกจากนี้ในที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน ยังได้เร่งผลักดันประเด็น การเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน การสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันของ MSMEs การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล การพัฒนาที่ยั่งยืน การลดกำแพงภาษี ระหว่างภูมิภาค รวมถึงขยายความสัมพันธ์กับประเทศนอกภูมิภาค

ที่มา: https://www.thansettakij.com/business/economy/556633

บริษัทจากสปป.ลาว และสิงคโปร์ เดินหน้าร่วมทุนสร้าง BioZEN Health

บริษัท Biospring.LTD จากสปป.ลาว และบริษัท Zen Science ของสิงคโปร์ได้ลงนามร่วมทุนเพื่อจัดตั้งบริษัทภายใต้ชื่อ BioZen Health ในสปป.ลาว เพื่อผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมความงามทางการแพทย์ การบริการทางการแพทย์ และอาหารเพื่อสุขภาพที่มีมูลค่าสูง โดย BioZen Health ได้ก่อตั้งขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 และมีเป้าหมายที่จะเริ่มจำหน่ายสินค้าในไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 ซึ่งคาดว่าจะวางจำหน่ายสินค้าในจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยุโรป ด้านนาย Eric Ju ผู้อำนวยการบริหารของ Zen science กล่าว่า สปป.ลาวจะมีบทบาทเป็นศูนย์กลางการขนส่งในคาบสมุทรอินโดจีนในอนาคต และนี่ถือเป็นก้าวเล็กๆ ที่สำคัญสำหรับ Zen Science ในการขยายการลงทุนในสปป.ลาว

ที่มา: https://laotiantimes.com/2023/02/18/laos-biospring-and-singapore-zen-science-announce-new-joint-venture-biozen-health/