ไทยสนับสนุนสปป.ลาว ในการรับมือการแพร่ระบาดโควิด -19

สถานเอกอัครราชทูตสปป.ลาวได้มอบเงินสดและวัสดุมูลค่ากว่า 16 ล้านบาทให้กับรัฐบาลลาวเพื่อสนับสนุนความพยายามในการต่อสู้กับการระบาดของโรคโควิด -19 โดยเงินทุนและวัสดุอุปกรณืดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือจากประเทศไทย รัฐบาลไทยบริจาคเงินพร้อมเวชภัณฑ์รวมมูลค่ากว่า 12.8 ล้านบาท (4.1 พันล้านกีบ) โดยประกอบด้วยเงินบริจาค 2 ล้านบาท เตียงผู้ป่วย 180 เตียง หน้ากากอนามัย 50,000 ชิ้น อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) 2,370 ชิ้น เครื่องกระตุ้นหัวใจ, เครื่องตรวจสอบผู้ป่วย, เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรด, เครื่องควบคุมออกซิเจนและเครื่องวัดออกซิเจนแบบพัลส์ ทั้งนี้จะยังมีการส่งมอบอีกครั้งในสิ้นเดือนนี้มูลค่ากว่า 8.5 ล้านบาท ถึงแม้สถานการณ์แพร่ระบาดระลอกใหม่ในสปป.ลาวจะรุนแรงเกินการควบคุมของสาธารณสุขสปป.ลาว แต่กระนั้นสปป.ลาวได้รับความช่วยเหลือที่ดีจากพันธมิตรที่สำคัญอย่างจีนและล่าสุดไทย ซึ่งจะทำให้สปป.ลาวก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ด้วยการสนับสนุนจากพันธมิตรในด้านสาธารณสุขตลอดการแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในการรับมือวิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Thailand_88.php

“ไอโฟน” เสียตำแหน่งท็อป 5 ตลาดสมาร์ทโฟนในเวียดนาม

แอ๊ปเปิ้ล (Apple) หลุดจากรายชื่อแบรนด์สมาร์ทโฟนชั้นนำ 5 อันดับแรกในเวียดนาม ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ส่วนแบ่งการตลาดที่มียอดขายสูงสุดในเวียดนาม ได้แก่ ซัมซุง (Samsung), ออปโป้ (Oppo), เสียวหมี่ (Xiaomi) และวิโว่ (Vivo) และวินสมาร์ท (VinSmart) ทั้งนี้ ความต้องการ ไอโฟน (iPhone) ลดลงในช่วงต้นปี เนื่องจากผู้บริโภคซื้อผลิตภัณฑ์แอ๊ปเปิ้ลในเทศกาลช็อปปิ้งช่วงปลายปี ในขณะเดียวกัน กลุ่มสมาร์ทโฟนแอนดรอย (Android) จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในตลาดที่หลากหลาย และผู้ค้าปลีกส่วนใหญ่ซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมากกว่าไอโฟน นอกจากนี้ กรมศุลกากร เผยว่ายอดการส่งออกสินค้าสูงสุดของเวียดนาม คือ โทรศัพท์และชิ้นส่วน มีมูลค่า 14.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยจีนเป็นตลาดรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม รองลงมาสหภาพยุโรป สหรัฐฯ เกาหลีใต้และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตามลำดับ

ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/iphone-loses-position-in-top-five-in-vietnam-31428.html

ธุรกิจสหรัฐฯ เล็งขยายห่วงโซ่อุปทานในเวียดนาม

ตามรายงานของบริษัท QIAM (ผู้ให้บริการทางด้านซัพพลายเชนในสหรัฐอเมริกา) เผยว่าจากการสำรวจของกลุ่มธุรกิจสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ 43% มองว่าเวียดนามเป็น 1 ใน 3 ประเทศชั้นนำในภูมิภาคที่มีการซื้อสูงสุดตั้งแต่ต้นปี 2564 และพุ่งขึ้น 2 เท่าจากปี 2562 ซึ่งข้อมูลดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความต้องการในการตรวจสอบและติดตามคุณภาพการดำเนินงานในเวียดนามเพิ่มขึ้น การเติบโตในครั้งนี้ ขยายตัวมากกว่าในช่วงระดับก่อนการระบาดโควิด-19 เป็นผลมาจากความต้องการในการตรวจสอบในไตรมาสที่ 4 ปี 2564 เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2562 นอกจากนี้ ข้อมูลจากเว็บไซต์ ระบุว่าเวียดนามไม่ใช่ประเดียวในภูมิภาคที่ได้รับประโยชน์จากปริมาณธุรกิจที่ขยายตัว เนื่องจากมีความต้องการทางด้านงานตรวจสอบและติดตามคุณภาพการดำเนินงานในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/944703/us-firms-interested-in-vietnamese-supply-chain.html

ผู้ผลิตเร่งหาแนวทางผลิตสินค้าเจาะตลาดทั้งในและต่างประเทศ

ในการประชุมเชิงปฏิบัติการระหว่างสมาคมสหกรณ์อุตสาหกรรมของเมียนมา กระทรวงเกษตรปศุสัตว์และชลประทาน และกระทรวงสหภาพแรงงาน เมื่อเช้าวันที่ 8 พฤษภาคม 64 ที่ผ่านมา โดยมีความเห็นตรงกันว่าควรส่งเสริมการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ที่มีคุณภาพและจำหน่ายสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มเพื่อพัฒนาชนบทสร้างโอกาสในการทำงานและยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่น ซึ่งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในห่วงโซ่การผลิตต้องหาแนวทางและวิธีการในการผลิตซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของภูมิภาคและเพื่อเจาะตลาดในและต่างประเทศ ทั้งนี้ยังขอความช่วยเหลือทางเทคนิคในการผลิตจากกรมเกษตรและกรมอุตสาหกรรมขนาดเล็กเพื่อการผลิต

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/manufacturers-urged-to-seek-ways-for-commercial-scale-manufacturing-of-products-penetrate-local-and-foreign-markets/#article-title

โควิดแรง ชาวบ้านแห่ซื้อของห้างเพิ่ม30% พาณิชย์ยันไม่ต้องตื่นกักตุน

กรมการค้าภายใน เผย จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังมีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมีประชาชนจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น โดยนิยมซื้อสินค้าในร้านโชห่วยหรือร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน ส่วนห้างค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่จะซื้อสินค้าในกลุ่มอาหาร ซอสปรุงรส อุปกรณ์ประกอบอาหาร และของใช้ในชีวิตประจำวันเพิ่ม 20%-30% ซึ่งมีการเตรียมสต๊อกสินค้าไว้เพียงพอ ขณะที่สินค้าจำเป็น เช่น หน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือยังคงมีปริมาณเพียงพอสามารถจัดส่งได้ตามปกติ นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือให้ขายหน้ากากอนามัยไม่เกินกว่าราคาที่กำหนด และขอมั่นใจว่าปริมาณสินค้ามีเพียงพอไม่จำเป็นต้องกักตุน

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/economic/842356

พาณิชย์ เร่งเครื่องปิดดีลเอฟทีเอพร้อมลุยเจรจากรอบใหม่

รมช.พาณิชย์ มอบนโยบายกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เร่งปิดดีล เอฟทีเอทั้งกับตุรกี ปากีสถาน และศรีลังกา ซึ่งประเทศเหล่านี้จะเป็นประตูการค้าให้ไทยเข้าสู่ภูมิภาคต่างๆ เช่น เอเชียใต้ ยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง เป็นต้น รวมทั้งปรับปรุงเอฟทีเอ ที่มีอยู่ในปัจจุบันกับคู่ค้าที่มีมูลค่าการค้าระหว่างกันสูง เช่น อาเซียน-จีน อาเซียน-อินเดีย และอาเซียน-เกาหลีใต้ เป็นต้น เพื่อขยายโอกาสทางการค้าการลงทุนของไทย โดยสามารถดำเนินการหารือได้ทันที ผ่านระบบการประชุมทางไกลออนไลน์ พร้อมเปิดเจรจาเอฟทีเอ คู่ค้าใหม่ อาทิ อียู เอฟต้า และแคนาดา เพื่อหาตลาดใหม่และสร้างแต้มต่อให้กับสินค้าส่งออกของไทยในต่างประเทศ

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/936435