กัมพูชาวางแผนก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกเพิ่มเติมในสีหนุวิลล์ปีหน้า

การก่อสร้างท่าเรือน้ำลึก Phase 1 ในจังหวัดสีหนุวิลล์มีกำหนดเริ่มต้นในปี 2021 และคาดว่าจะใช้เวลาสามปีในการก่อสร้างจึงจะเสร็จสมบูรณ์ โดยรองผู้อำนวยการท่าเรืออัตโนมัติสีหนุวิลล์กล่าวว่าการออกแบบรายละเอียดของโครงการเสร็จสมบูรณ์แล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการคัดเลือกบริษัทเพื่อทำการก่อสร้าง ซึ่งท่าเรือน้ำลึกที่กำลังจะก่อสร้างนี้มีความยาว 350 เมตร มีความลึกอยู่ที่ 14.50 เมตร โดยสามารถรองรับเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 13 เมตร และเรือขนาดกลางที่มีความจุ 5,000 TEU ได้ ซึ่งใช้เงินทุนจากการกู้ยืมเงินทางญี่ปุ่นประมาณ 209 ล้านดอลลาร์ ในเฟสแรกของท่าเรือน้ำลึกในการสร้างขึ้นด้วย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50747703/deep-water-port-terminal-construction-at-sihanoukville-to-begin-next-year/

ปลดล็อกเฟส 4 ดันดัชนีอุตฯ ขยับขึ้นต่อเนื่อง

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนมิ.ย.63 อยู่ที่ระดับ 80.0 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 78.4 ในเดือนพ.ค. 63 โดยค่าดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยมีปัจจัยบวกจากการที่รัฐบาลผ่อนปรนมาตรการควบคุมโควิด-19 ระยะที่ 3 และ 4 รวมทั้งยกเลิกคำสั่งเคอร์ฟิวส์ ขณะที่ด่านการค้าชายแดนเริ่มทยอยเปิดในหลายพื้นที่ส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าไทย นอกจากนี้ตลอดเดือนมิ.ย.จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายวันอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นมากขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้ว่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 แต่ยังคงต่ำกว่าระดับ 100 ทั้งนี้ยังมีความกังวลต่อสภาพคล่อง และการเข้าไม่ถึงสินเชื่อโดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดย่อม ปัญหาการแข็งค่าของเงินบาท รวมทั้งต้นทุนประกอบการสูงขึ้น คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 90.1 โดยลดลงจากระดับ 91.5 ในเดือนพ.ค. 63 เนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลเกี่ยวกับความอ่อนแอของกำลังซื้อในประเทศและการกลับมาระบาดของไวรัสโควิด-19 ในระลอกสอง สำหรับข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ มีอยู่ 3 เรื่อง ได้แก่ 1. ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น Made in Thailand 2. ขอให้ บสย. เข้ามาค้ำประกันสินเชื่อที่ธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้ตามวงเงินกู้ ธปท. 5 แสนล้านบาทต่อหลังจากหมด พ.ร.ก. เงินกู้ฯ และ 3. ออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพิ่มเติม เพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในส่วนภูมิภาคโดยเฉพาะในพื้นที่ อีอีซี

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/890700?utm_source=category &utm_medium=internal_referral&utm_campaign=economic

INFOGRAPHIC : เวียดนาม-นิวซีแลนด์ ตกลงความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์

ปี 2563 เป็นวันครบรอบ 45 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างเวียดนามและนิวซีแลนด์ ซึ่งทั้งสองประเทศพยายามกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนทางยุทธสาสตร์ให้แน่นแฟ้นมากขึ้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-new-zealand-look-to-strategic-partnership/178978.vnp

เวียดนามเผยยอดส่งออกผักผลไม้พุ่ง 230% ไปยังไทย

จากข้อมูลของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าในเดือนมิ.ย. การส่งออกผักผลไม้ของเวียดนามไปยังไทย มีมูลค่ามากกว่า 11.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้มูลค่าส่งออกรวมในช่วง 6 เดือนแรกอยู่ที่ 79.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นผลให้อัตราการเติบโตสูงถึงร้อยละ 230 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 (23.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปี 2562) ทั้งนี้ ในช่วงสิ้นเดือนมิ.ย. มูลค่าส่งออกรวมของเวียดนามไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ที่ 2.27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับปี 2562 โดยรายการสินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้แก่ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ในขณะเดียวกัน สินค้าที่มีมูลค่าสูงสุด ได้แก่ โทรศัพท์และชิ้นส่วน ถึงแม้ว่ามูลค่าลดลงอย่างหนัก 430 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับปีก่อน นอกจากนี้ ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามมีมูลค่าการค้าผักผลไม้ดิ่งลงราว 408 ล้านดอลลาร์สหรัฐ “ปัจจุบันไทยเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนามในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

ที่มา : https://customsnews.vn/exports-of-fruits-and-vegetables-to-thailand-surge-230-15268.html

คาดปีนี้ GDP เวียดนามโต 3.8%

สถาบันวิจัยทางเศรษฐกิจและนโยบายเวียดนาม (VEPR) คาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามในปีนี้จะสูงถึงร้อยละ 3.8 หากสิ้นสุดการระบาดของเชื้อไวรัสในช่วงครึ่งหลังของปีและกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะค่อยๆกลับมาดำเนินการต่อ ซึ่งมุมมองของหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ VEPR มองว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูงว่าในปีนี้เศรษฐกิจจะโตร้อยละ 3.8 ขณะที่อีกฝั่งหนึ่ง หากโอกาสเป็นไปได้อยู่ในระดับต่ำ เศรษฐกิจจะโตแค่ร้อยละ 2.2 เนื่องจากการแพร่ระบาดลุกลามของโรคโควิด-19 ยังอยู่ต่อไป อย่างไรก็ตาม หากเชื้อไวรัสเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการเงินในระดับโลก ส่งผลให้หลายประเทศต้องขยายเวลาล็อคดาวน์ไปอีกจนกว่าไตรมาสที่สี่ของปีนี้ ผลที่ตามมากิจกรรมการส่งออก-นำเข้าของเวียดนามจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงและจะไม่สามารถกลับมาฟื้นตัวได้ในปีนี้ นำไปสู่ภาคการผลิตในประเทศอ่อนแอลง นอกจากนี้ อีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้เศรษฐกิจเวียดนามกลับมาฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ คือ ข้อตกลงการค้าเสรีกับสหภาพยุโรป (EVFTA) และการเร่งเบิกจ่ายไปยังโครงการลงทุนสาธารณะ ทำให้เกิดการขยายการลงทุนและความมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-gdp-forecast-to-grow-38-pct/178955.vnp

ย่างกุ้งเปิดตัวระบบการชำระเงินของรถโดยสารประจำทาง

Yangon Bus Service (YBS) เปิดตัวระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์บนรถโดยสารเมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดยมียอดขาย 5,387 ใบภายในสองวันหลังจากเปิดตัว ผู้เดินทางส่วนใหญ่จะได้รับบัตรฟรีหากซื้อบัตรเครดิตมูลค่า 5,000 จัต คาดว่าจะขายบัตรเติมเงินมากกว่า 250,000 ใบในช่วงเดือนแรก บัตรดังกล่าวสามารถซื้อได้ที่ร้าน Grab and Go กว่า 100 แห่งทั่วเมือง ในเมืองย่างกุ้งมีการจำหน่ายบัตร 2,500 ใบในแต่ละวัน Yangon Payment Services (YPS) จะถูกติดตั้งบนรถบัสรวม 597 แห่งที่ดำเนินการโดย บริษัท ขนส่งสาธารณะย่างกุ้ง (YPBC) และสายรถบัสบันดุลา YPS จะถูกติดตั้งบนรถเมล์ในเมืองและโดยสารที่เดินทางระยะไกลไกลภายในสามเดือนข้างหน้า บัตรจะขายใบละ 2,000 จัตโดยรายละเอียดจะถูกโฆษณาบนรถบัส ระบบขนส่งสาธารณะในย่างกุ้งได้ถูกเปลี่ยนไปจากระบบ Ma Hta Tha แทนที่โดย Yangon Bus Service (YBS) เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2560 ปัจจุบันมีรถบัสมากกว่า 120 สายที่ให้บริการทั่วเมืองด้วยรถโดยสารมากกว่า 4,300 คันต่อวัน และมีผู้โดยสารมากกว่า 1.8 ล้านคน

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/yangon-payment-system-launched.html

EU สนับนุนเงิน 43 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อปฏิรูปการศึกษาของเมียนมา

สหภาพยุโรปให้ทุนเพื่อส่งเสริมการปฏิรูปการศึกษาในปีการศึกษาใหม่จำนวน 37.6 ล้านยูโร (ประมาณ 60 พันล้านจัต / 43.08 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา  ท่ามกลางการระบาดใหญ่ของ COVID-19 และทำให้แน่ใจว่าเด็กทุกคนสามารถกลับไปโรงเรียนได้อย่างปลอดภัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่ารัฐบาลจะยังคงพยายามปรับปรุงการศึกษาและการฝึกอบรมสายอาชีพทั่วประเทศ เงินช่วยเหลือเป็นการชำระเงินครั้งที่สามจำนวน 221 ล้านยูโรจากสหภาพยุโรปเพื่อเพิ่มการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพสำหรับทุกคนในประเทศ ซึ่งต้องทำให้แน่ใจว่าเด็ก ๆ จะไม่ถูกทิ้งไว้ในช่วงวิกฤตินี้ การเข้าถึงการศึกษาและการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่องจะมีความสำคัญต่อการฟื้นฟูอย่างยั่งยืนและความสามารถของเราในการป้องกันและตอบสนองต่อภัยคุกคามดังกล่าวได้ดีขึ้นในอนาคต เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาโรงเรียนกว่า 5,600 แห่งทั่วประเทศเริ่มต้นปีการศึกษาใหม่ คาดว่าโรงเรียนประถมและมัธยมต้นจะเปิดในสองสัปดาห์ รัฐบาลเตรียมห้องเรียนเพื่อรองรับระยะห่างทางสังคม (social distancing) เพื่อให้แน่ใจว่าสอดคล้องกับแนวทางการควบคุมและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของ COVID-19 ครูจะได้เรียนรู้หลักสูตรใหม่ออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มในการพัฒนาการศึกษาของเมียนมา เพื่อสนับสนุนการการสอนดิจิทัลมากขึ้นมีการเตรียมคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต ให้กับโรงเรียนและครู กระทรวงจะประเมินแต่ละโรงเรียนและปรับให้เข้ากับสถานการณ์ในแต่ละท้องถิ่น

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/eu-releases-43-million-boost-myanmar-education-reforms.html