เวียดนามส่งออกอาหารทะเลเดือน ม.ค. ลดลง

จากข้อมูลของสมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตอาหารทะเลเวียดนาม (VASEP) เปิดเผยว่าในเดือนมกราคม เวียดนามส่งออกอาหารทะเลลดลงร้อยละ 12.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา ด้วยมูลค่ารวม 644 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า ซึ่งการแพร่ระบาดหนักในจีนทำให้ฉุดการส่งออกอาหารทะเลเวียดนามไปยังตลาดจีนอย่างมาก ทั้งนี้ ผู้ประกอบการส่งออกปลาสวาย ทูน่าและกุ้งเผชิญกับการระงับการชำระเงินจากการส่งออก เพราะธนาคารจีนไม่เปิดทำการจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า และคาดว่าธนาคารจะเปิดทำการในวันที่ 16 ก.พ. ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทขนส่งรายใหญ่ไม่ต้องการที่จะจัดส่งสินค้าไปยังจีน อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมฯ มองว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกอาหารทะเลมากนัก เพราะว่าความต้องการนำเข้าอาหารทะเลของจีนจะเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนมี.ค. และเม.ย. ในทางตรงกันข้าม สมาคมฯมองเห็นโอกาสสำหรับธุรกิจท้องถิ่นในการเพิ่มผลผลิตสินค้าแช่เย็นและบรรจุกระป๋องอาหารทะเลในช่วงเวลานี้และหลังจากการแพร่ระบาดไวรัส ทำให้ให้ลูกค้าชื่นชอบอาหารแปรรูปมากขึ้น รวมไปถึงใช้โอกาสนี้ในการส่งออกไปยังตลาดสำคัญเพิ่มขึ้น อาทิ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และยุโรป

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/592130/seafood-export-value-down-in-january.html

Grab ตั้งเป้า 4 ปี ทำรายได้ 100 ล้านดอลลลาร์สหรัฐในเมียนมา

ช่วง 4 ปีที่ผ่านมาบริษัท Grab-sharing ได้ลงทุนมากกว่า 100 ล้านดอลลลาร์สหรัฐ (143.5 พันล้านจัต) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับตลาดรถแท็กซี่ในท้องถิ่น ซึ่ง Grab จะลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ Grab เปิดตัวบริการในเมียนมาในปี 60 และได้เปิดตัว Grab Call Service, Premium Rentals (Beat) และ Grab Food Grab for Business เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในปี 62 และจุดหมายปลายทางยอดนิยมคือ เมียนมาพลาซ่า, ห้าง Junction City และสนามบินย่างกุ้ง GrabFood จะเปิดตัวให้บริการสำหรับร้านอาหารในท้องถิ่นและพันธมิตรการขนส่งที่มัณฑะเลย์ในปีนี้ Grab For Good จะเปิดตัวในพม่าในไม่ช้า ในปี 61 Grab ได้เปิดตัว Grab Thone Bane (สามล้อ) และ Taxi TaxiPlus ในเมืองพุกามและมัณฑะเลย์ ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการมากกว่า 166 ล้านคนใน 339 เมือง ในเมียนมา, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์, ไทย, กัมพูชา, มาเลเซีย, สิงคโปร์และอินโดนีเซีย ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถดาวน์โหลดแอพ Grab ไว้บนโทรศัพท์มือถือได้ทันที

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/grab-says-it-pumped-100m-myanmar-four-years.html

ผู้ประกอบการเนื้อหมูขายราคาหมูเกินราคาที่กำหนด

ผู้ขายเนื้อหมูหลายรายในเมืองหลวงกำลังขายเนื้อหมูให้กับผู้บริโภคโดยไม่มีป้ายราคาเพื่อหวังจะขายราคาที่เกินกว่ารัฐบาลตั้งไว้ ซึ่งหน่วยงานที่ดูแลเรื่องนี้ได้ประกาศเมื่อวันที่ 30 มกราคมว่าหมูเกรด A ในตลาดควรจำหน่ายปลีกที่ 40,000 kip ต่อกิโลกรัมและ 38,000 kip ต่อกิโลกรัมสำหรับเกรด B แต่ด้วยผลผลิตหมูที่ขาดแคลนหนักจากเชื้อไวรัสสุกรจึงส่งผลให้ราคาของหมูสูงขึ้นต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 2-3เดือนที่ผ่านมา ปัญหาดังกล่าวต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะเนื้อหทมูถือเป็นเนื้อสัตว์ที่ คนสปป.ลาวนิยมบริโภคมากที่สุด ดังนั้นหากราคาเนื้อหมูปรับตัวสูงก็จะส่งผลต่อการบริโภคของประชาชนและในระยะยาวอาจทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อเนื่องจากสินค้าหรืออาหารที่มีการนำหมูไปประกอบวัตถุดิบจะต้องมีการปรับราคาสูงตามราคาหมูที่ปรับขึ้นจึงเป็นปัญหาที่รัฐบาลควรแก้ไขและตรวจสอบผู้ที่ขายราคาเกินจริงอย่างจริงจัง  

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/pork-vendors-flout-price-ceiling-bring-home-bacon-113703

คาดว่าเศรษฐกิจสปป.ลาวจะเติบโตที่ร้อยละ 6.3 ในปี 2020

ศูนย์วิจัยนโยบายเศรษฐกิจมหภาคและการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจภายใต้สถาบันวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติ คาดการณ์เศรษฐกิจสปป.ลาวจะขยายตัวร้อยละ6.3-6.4 ในปีนี้โดยปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญหลายประการ ทั้งการผลิตกระแสไฟฟ้าโดยโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Xayaboury ซึ่งเริ่มดำเนินการในเดือนธันวาคม การพัฒนาของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและเกษตรกรรมรวมถึงภาคการท่องเที่ยวมีอัตราการเติบโต 14% ในปี 2562 โดยมีผู้มาเที่ยวลาวประมาณ 4.7 ล้านคน โดยปี 63 ต้องดูสถานการณ์ของไวรัสโคโรน่าว่ามีท่าทีจะส่งผลต่อการท่องเที่ยวสปป.ลาวหรือไม่   

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Macroeconomic.php

กัมพูชาส่งออกมะม่วงมากกว่า 5.8 หมื่นตันในปี 2562

กัมพูชาส่งออกมะม่วงมากกว่า 58,000 ตัน ไปยังตลาดต่างประเทศในปี 2562 ซึ่งรายงานโดยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศและโฆษกของกระทรวงพาณิชย์เมื่อเร็วๆนี้ โดยตลาดสำหรับการส่งออกมะม่วงในปี 2562 ยังคงดำเนินต่อไป ในกลุ่มคู่ค้าสำคัญ เช่นสหราชอาณาจักร นิวซีแลนด์ สาธารณรัฐเช็ก เบลเยียม ออสเตรเลียเป็นต้น ที่เป็นตลาดศักยภาพในสินค้ามะม่วงของกัมพูชา ซึ่งถูกส่งออกทั้งโดยตรงและผ่านประเทศเพื่อนบ้านทั้งในรูปแบบมะม่วงสดและแยมมะม่วง โดยกระทรวงพาณิชย์กำลังพิจารณาที่จะขยายตลาดต่างประเทศสำหรับมะม่วงของกัมพูชาเพื่อเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์เพื่อการส่งออก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50690166/over-58000-tonnes-of-cambodian-mangoes-exported-in-2019

กัมพูชาจ่ายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากความต้องการภายในประเทศ

เนื่องจากความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นและกิจกรรมด้านการพัฒนาเพิ่มขึ้นจนทำให้แหล่งจ่ายหรือสถานีจ่ายไฟในกัมพูชาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตามรายงานของกระทรวงเหมืองแร่และพลังงาน โดยรายงานระบุว่าสถานีจ่ายไฟสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าจาก 2,635 เมกะวัตต์ ในปี 2018 เป็น 3,382 เมกะวัตต์ ในปี 2562 เพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งพลังงานถูกสร้างขึ้นจากแหล่งต่างๆ ที่รวมอยู่ทั้งเขื่อน โรงไฟฟ้าถ่านหิน โรงไฟฟ้าดีเซลและแผงเซลล์แสงอาทิตย์ โดยในปี 2562 แหล่งพลังงานหลักของกัมพูชาคือเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ 7 แห่ง ซึ่งผลิตพลังงานได้รวม 1,328 เมกะวัตต์ คิดเป็น 33.5% ของแหล่งพลังงานทั้งหมดภายในประเทศ ส่วนแหล่งพลังงานจากอื่นๆรวม 675 เมกะวัตต์ มาจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน 627 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าดีเซลและจากพลังงานทดแทนอีก 123 เมกะวัตต์ โดยกัมพูชานำเข้าพลัง 626 เมกะวัตต์ จากเพื่อนบ้าน เช่นประเทศไทย เวียดนามและสปป.ลาวในปี 2562 เพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50690046/cambodias-power-supply-up-nearly-30-percent-as-demand-increases

“บีซีพีจี”สยายปีกลงทุนโรงไฟฟ้าพลังน้ำในลาว-ผนึกพันธมิตรสายส่งไปเวียดนาม

“บีซีพีจี”เดินหน้าขยายธุรกิจพลังน้ำในลาว ด้วยการเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำในเมืองเชียงขวาง สปป.ลาวเป็นแห่งที่ 2 ขนาดกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ ส่งผลให้บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำในลาวเพิ่มเป็น 114 เมกะวัตต์ พร้อมเข้าลงทุนร่วมกับพันธมิตรก่อสร้างและดำเนินกิจการระบบสายส่งกระแสไฟฟ้าไปยังเวียดนาม ส่งผลให้แผนการลงทุนในกลุ่มประเทศ CLMV มีรายได้เติบโต มั่นคงระยะยาว ทั้งนี้ ข้อมูลของบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในวันที่ 10 ก.พ.63 ได้มีการลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Nam San 3B Power Sole Co.,Ltd.ระหว่างบริษัท บีซีพีจี อินโดไชน่า จำกัด (BIC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบีซีพีจี ดำเนินกิจการลงทุนโรงไฟฟ้าในกลุ่มประเทศ CLMV กับบริษัท Phongsubthavy Roads and Bridges Construction and Irrigation(PSG) นอกจากนี้ โครงการ Nam San 3B ยังได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (EVN) เพื่อขายไฟฟ้าให้กับ EVN แทนการขายไฟฟ้าให้กับ EDL เป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 25 ปี คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่ปี 2565 สำหรับการลงทุนของบริษัทในครั้งนี้ เป็นเพียงก้าวแรกของบริษัทในการขยายธุรกิจสู่กลุ่มประเทศ CLMV โดยลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศที่มีศักยภาพในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำอาทิ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และขายไฟฟ้าให้กับประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจเช่น สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

ที่มา : https://siamrath.co.th/n/131991

ธนาคารกลางเวียดนามเข้าเป็นสมาชิกของ BIS

ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) ได้เชิญธนาคารกลางเวียดนามเข้าเป็นสมาชิกของ BIS ซึ่งทาง BIS ได้เชิญธนาคารกลางเวียดนาม คูเวตและโมร็อกโกเข้าเป็นสมาชิกในปี 2563 โดยขณะนี้มีสมาชิกจำนวน 63 ประเทศ ทั้งนี้ ธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) เปิดเผยว่าการเชิญของ BIS แสดงให้เห็นว่าการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของเวียดนาม มีการเติบโตอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รวมไปถึงทางธนาคารกลางเวียดนามดำเนินนโยบายการเงินส่งผลในเชิงบวกและกำกับดูแลจัดการระบบสถาบันการเงิน สำหรับการเป็นสมาชิกของ BIS จะช่วยให้ธนาคารกลางเวียดนามและระบบสถาบันการเงินทั้งหมดสามารถเข้าระบบสถาบันการเงินทั่วโลก รวมไปถึงส่งเสริมศักยภาพในการแข่งขันของระบบการเงินและเศรษฐกิจของเวียดนาม นอกจากนี้ BIS ได้ก่อตั้งขึ้นในปี 2473 โดยมีสมาชิกธนาคารกลางจำนวน 60 แห่ง ซึ่งภารกิจของ BIS คือ การรักษาเสถียรภาพทางการเงินและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ ถือว่าเป็นธนาคารของธนาคารกลาง

ที่มา : https://en.nhandan.com.vn/business/item/8395002-state-bank-of-vietnam-becomes-bis-member.html