‘เวียดนาม’ คาดบรรลุเป้าส่งออกข้าวปีนี้

เวียดนามคาดว่าในปีนี้จะบรรลุเป้าหมายการส่งออกข้าว 6.3 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 3.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็นผลมาจากอุปสงค์ทั่วโลกขยับตัวสูงขึ้นและราคาส่งออกที่เพิ่มขึ้น ตามรายงานของสถิติกรมศุลกากร เปิดเผยว่าในเดือน ก.ย. เวียดนามส่งออกข้าว 593,600 ตัน เป็นมูลค่า 293.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 19% ในแง่ของปริมาณ และ 20.5% ในแง่ของมูลค่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ นาย Nguyen Quoc Toan อธิบดีกรมการแปรรูปและพัฒนาตลาดสินค้าเกษตรของกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบท ชี้ว่าการส่งออกข้าวเริ่มกลับมาดำเนินการอีกครั้งตั้งแต่เดือน ก.ย. ถึงแม้ว่าจะคงมีการใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในหลายๆ จังหวัดในภาคใต้ นอกจากนี้ สมาคมอาหารเวียดนาม เปิดเผยว่าราคาส่งออกข้าวหัก 5% ของเวียดนามพุ่งสูงสุดในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยปัจจุบันราคาข้าวหัก 5% อยู่ที่ประมาณ 433-437 เหรียญสหรัฐต่อตัน แซงหน้าคู่แข่งรายอื่นๆ เช่น ไทย อินเดียและปากีสถาน

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1059961/viet-nam-likely-to-achieve-rice-export-target-this-year.html

‘เวียดนาม’ เผยตลาดโฮจิมินห์กลับมาเปิดอีกครั้ง

ตลาดพื้นเมืองประมาณ 47 แห่ง จากทั้งหมด 234 แห่งในใองโฮจิมินห์กลับมาเปิดกิจการ ประกอบไปด้วยผู้ค้าอาหารสด-แห้งและสินค้าจำเป็น ตามข้อมูลของสำนักงานอุตสาหกรรมและการค้าประจำเมืองโฮจิมินห์ เปิดเผยว่าเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ตลาดพื้นเมืองคงปิดพื้นที่ในเขต 3, 4, 6, 7, 8, โกวอป, ฟูยวนและบิ่ญจั๊ญ เป็นต้น ขณะที่ ตลาด 22 แห่งกำลังวางแผนที่จะกลับมาเปิดกิจการอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม กิจกรรมการชุมนุมและการค้ายังประกาศอย่างไม่เป็นทางการ ทั้งนี้ คณะกรรมการประชาชนจังหวัด ประกาศว่าพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง จำเป็นต้องมีเงื่อนไขเฉพาะอย่าง เพื่อให้ดำเนินการได้อย่างปลอดภัย

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1060902/traditional-markets-in-hcm-city-reopen.html

 

ไทย-เวียดนาม ตลาดสำคัญส่งออกสินค้าเกษตรกัมพูชา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรกัมพูชา กล่าวถึงการรายงานของกรมวิชาการเกษตรเกี่ยวกับปริมาณการส่งออกสินค้าเกษตรไปยัง 90 ประเทศทั่วโลก ในช่วง 9 เดือนแรกของปี ด้วยปริมาณรวม 5.93 ล้านตัน โดยในบรรดา 90 ประเทศ เวียดนามและไทย ถือเป็นตลาดหลักสำคัญของสินค้าเกษตรกัมพูชา ซึ่งเวียดนามทำการนำเข้าสินค้าเกษตรจากกัมพูชาคิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 64.11 ไทยร้อยละ 21.49 จีนร้อยละ 9.69 และ อีก 87 ประเทศ ราวร้อยละ 4.71 โดยคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสินค้าส่งออกทางการเกษตรของกัมพูชาที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ข้าวโพด ถั่วเหลือง กล้วยสด ส้มโอ มะม่วงสด น้ำเชื่อมมะม่วง น้ำมันมะพร้าว พริกไทย ยาสูบ เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50953268/thailand-and-vietnam-remain-key-markets-for-cambodian-agricultural-products-out-of-90-markets/

‘ธนาคารกลางเวียดนาม’ ยืนยันไม่ลดดอกเบี้ยในปีนี้

ธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไม่เปลี่ยนแปลงจนถึงสิ้นปีนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าระบบของธนาคารมีสภาพคล่องและรักษาผลประโยชน์ของผู้ฝากเงิน โดยธนาคารกลางไม่ได้เตรียมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้และเฝ้าติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะใช้มาตรการที่เหมาะสมในการจัดการ ทั้งนี้ นายด่าวมีงตือ (Dao Minh Tu) รองผู้ว่าการธนาคารชาติกล่าวถึงประเด็นสินเชื่อ พบว่า ณ วันที่ 7 ต.ค. สินเชื่อของธนาคารเพิ่มขึ้น 7.42% ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/sbv-says-no-to-more-rate-cuts-this-year/

‘เวียดนาม’ ชี้ยอดขายยานยนต์เริ่มส่งสัญญาบวกสิ้นปีนี้

สมาคมผู้ผลิตยานยนต์เวียดนาม (VAMA) รายงานว่ายอดขายยานยนต์เวียดนาม เพิ่มขึ้น 52% เมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 แสดงให้เห็นถึงสัญญาบวกสำหรับตลาดยานยนต์ในช่วงปลายปี โดยยอดขายยานยนต์รวมทั้งสิ้นของสมาชิก VAMA ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 188,937 คัน เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ยอดขายรถยนต์นั่ง 129,896 คัน ลดลง 0.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่ยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์และรถยนต์เฉพาะทาง 54,920 คันและ 4,121 คัน เพิ่มขึ้น 19% และ 56% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตามลำดับ ทั้งนี้ ภาคธุรกิจมองว่าการเติบโตของยอดขายในเดือนก่อนหน้า เป็นผลมาจากรัฐบาลสามารถควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ ในขณะเดียวกันหลายๆ จังหวัดและหัวมืองทั่วประเทศ ผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อกลับมาเข้าสู่ “ความปกติรูปแบบใหม่” ซึ่งมีส่วนช่วยในการกระตุ้นยอดขายยานยนต์

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1058751/positive-signs-for-year-end-car-shopping.html

‘ธนาคารโลก’ หั่น GDP เวียดนามปีนี้ 2-2.5%

ธนาคารโลกปรับลดตัวเลขคาดการณ์ GDP เวียดนามในปีนี้ลงเหลือ 2-2.5% เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 หดตัวลงอย่างมากและคาดว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวในไตรมาสที่ 4 สำหรับสภาวะตลาดแรงงานแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบจากการล็อกดาวน์ที่ยืดเยื้อ ในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เริ่มลดลง ทำให้เมืองฮานอยและหลายๆจังหวัดได้ผ่อนคลายข้อจำกัดที่เข็มงวด ทั้งนี้ เงินเฟ้อยังคงอ่อนตัว ท่ามกลางอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอ ขณะที่เงินดองเวียดนามแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย การเติบโตของสินเชื่อชะลอตัว เนื่องจากความต้องการสินเชื่อลดลง ซึ่งเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว นอกจากนี้ ธนาคารโลกแนะนำให้รัฐบาลเวียดนามระดมตรวจเชื้อและเร่งฉีดวัตซีนในวงกว้าง ตลอดจนควรใช้นโยบายการคลังเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/wb-lowers-vietnams-gdp-growth-forecast-to-225-percent-this-year/209673.vnp

ราคาข้าวเวียดนามพุ่งแซงไทย

สมาคมอาหารเวียดนาม (VFA) เปิดเผยว่าราคาส่งออกข้าวหัก 5% ของเวียดนามพุ่งสูงขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ แซงหน้าราคาข้าวไทย อินเดียและปากีสถาน โดยในช่วงกลางเดือน ส.ค. ราคาส่งออกข้าวหัก 5% ของเวียดนามลดลงเหลือ 385 เหรียญสหรัฐต่อตัน ลดลง 100 เหรียญสหรัฐต่อตันเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2563 ในขณะที่ราคาส่งออกข้าวหัก 5% ของเวียดนามอยู่ที่ 8 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งต่ำกว่าข้าวหัก 5% ของไทย แต่ยังสูงกว่าข้าวของอินเดียและปากีสถานอยู่ที่ 25 เหรียญสหรัฐ และ 40 เหรียญสหรัฐต่อตัน ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ราคาส่งออกข้าวหัก 5% ของเวียดนามในปัจจุบัน อยู่ที่ 433-437 เหรียญสหรัฐต่อตัน ถือว่าสูงกว่าของไทย อินเดียและปากีสถานอยู่ที่ 49, 68 และ 55 เหรียญสหรัฐต่อตัน ตามลำดับ

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnams-rice-price-surges-surpasses-that-of-thailand/

‘บริษัทต่างขาติ’ ชี้เวียดนามยังเป็นเป้าหมายที่น่าลงทุนที่ดี

ตามการประชุมแบบเสมือนจริงภายใต้ชื่องาน ‘ลงทุนเวียดนาม ชนะและความท้าทาย’ นาย Nguyen Hai Minh หุ้นส่วนบริษัท Mzazrs และรองประธานหอการค้ายุโรป กล่าวว่าเวียดนาม ปัจจัยทางด้านการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะการส่งออก และในปีนี้ การลงทุนจากต่างประเทศชะลอตัวลง เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แสดงให้เห็นถึงความกังวลว่านักลงทุนต่างชาติจะไม่เข้ามาทำธุรกิจหรือย้ายออกนอกประเทศ ด้วยเหตุนี้ หอการค้ายุโรปจึงทำการสำรวจในเดือน สิ.ค. พบว่าบริษัทร้อยละ 18 ย้ายฐานการผลิตยางส่วนไปยังประเทศอื่นแล้ว และร้อยละ 16 ยังคงอยู่ในช่วงการประเมิน ทั้งนี้ จากการสอบถามกับหลายๆ บริษัท กล่าวว่าโควิด-19 จะอยู่อีกไม่นาน และคงมองเวียดนามในทิศทางที่เป็นบวกสำหรับด้านการลงทุน ตลอดจนเวียดนามเป็นศูนย์กลางการค้าในภูมิภาค

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/foreign-firms-continue-to-see-vietnam-as-good-investment-location/209497.vnp

 

จับตาเงินดองเวียดนามมีทิศทางแข็งค่าขึ้นเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ปี 64

ศูนย์วิจัย Fitch Solutions ได้ปรับการคาดการณ์ค่าเงินดองเวียดนามในปี 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 22,900 ดองต่อดอลลาร์สหรัฐ จากเดิม 22,800 ดองต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่วนผู้ให้บริการทางการเงินคาดว่าค่าเงินดองเฉลี่ยอยู่ที่ 23,000 ดองต่อดอลลาร์สหรัฐปี 2566 ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จากสถาบัน Fitch กล่าว่าแนวโน้มค่าเงินดองจะทรงตัวในระดับที่แข็งค่าขึ้น หลังจากค่าเงินดองแข็งค่าต่อดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่เดือน ก.ค. 64 และยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกจากปัจจัยการไหลเข้าของเม็ดเงินทั้งการค้าและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) แต่ที่สำคัญกว่านั้น ธนาคารกลางดูเหมือนจะสนับสนุนค่าเงินที่แข็งค่าขึ้น เพื่อที่จะควบคุมราคานำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคและต้นทุนโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของภาคการส่งออกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จะช่วยหนุนค่าเงินดอง ถึงแม้ว่าการค้าจะเผชิญกับอุปสรรคจากการหยุดชะงักในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ เนื่องจากมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 แต่รัฐบาลประกาศให้กิจการกลับมาดำเนินการในโรงงาน

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1056845/vietnamese-currency-forecast-to-strengthen-against-us-dollar-in-2021.html

 

‘เวียดนาม’ ชี้กิจการสิ่งทอกว่า 68% ถูกเรียกค่าปรับ

สมาคมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มเวียดนามและสมาคมหนัง รองเท้าและกระเป๋าถือแห่งประเทศเวียดนาม และคณะการทำงานหุ้นส่วนภาครัฐฯ-เอกชน เปิดเผยผลการสำรวจ พบว่าผู้ประกอบการเสื้อผ้าและรองเท้าในเวียดนามส่วนใหญ่ 68% รับโทษจากลูกค้าต่างชาติ เนื่องจากปัญหาการจัดส่งล่าช้า บางกิจการถูกยกเลิกคำสั่งซื้อและชดเชยค่าปรับ โดยได้ตั้งข้อสังเกตว่าระยะเวลาการขนส่งใช้เวลา 80 วันแทนที่เดิมจะใช้ 40 วันก่อนที่จะส่งไปยังสหรัฐฯ ดังนั้น ลูกค้าต่างชาติบางรายจึงย้ายคำสั่งซื้อไปยังประเทศอื่น ทั้งนี้ การส่งออกเสื้อผ้าและสิ่งทอในเดือน ก.ย. ลดลง 9% เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว เป็นมูลค่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/industries/68-pct-of-garment-footwear-firms-suffer-cancellations-penalties-4369724.html