ย่างกุ้งวางแผนศูนย์กลางโลจิสติกส์สถานีรถบรรทุกเพื่อลดความแออัด

ย่างกุ้งวางแผนสร้างศูนย์กลางโลจิสติกส์และสถานีรถบรรทุกในเขตชานเมืองเพื่อลดความแออัดและจัดหาพื้นที่จอดรถให้เพียงพอ ปัจจุบันมีบริษัทขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุก 22 ล้อ, 12 ล้อและ 6 ล้อจากโรงงานโดยตรงไปยังเมืองต่างๆ อย่างไรก็ตาม การขนย้ายสินค้าไปยังคลังสินค้าที่สถานีขนส่งทางหลวงบุเรงนอง ในเขตการปกครอง Mayangone ก่อนที่จะโหลดสินค้าลงบนรถบรรทุก ทำให้การจราจรหนาแน่นและสถานีที่ไม่สามารถรองรับจำนวนรถบรรทุกที่เพิ่มขึ้นได้ เครือข่ายการขนส่งสินค้าของประเทศครอบคลุมโดยรถบรรทุกเป็นส่วนใหญ่นอกเหนือจากช่องทางรถไฟและทางทะเล ในช่วงปีงบประมาณ 60-61 มีรถบรรทุกสินค้ารวม 530,000 คันขนย้ายสินค้าไปทั่วย่างกุ้ง ปริมาณการขนส่งสินค้าทางรถไฟมีจำนวน 526,000 ตันในขณะที่ 422,000 ตันและ 1,400 ตันถูกขนย้ายโดยเรือและเครื่องบินตามลำดับ

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/yangon-plans-logistics-hub-truck-terminal-ease-congestion.html

อินโดนีเซีย – เมียนมาหารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านอาหาร สิ่งทอ และภาคบริการ

จากรายงานของสหพันธ์การค้าและอุตสาหกรรมสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (UMFCCI) นักธุรกิจอินโดนีเซียและเมียนมากำลังหารือเพื่อร่วมมือในอุตสาหกรรมอาหารสิ่งทอและบริการ การจับคู่ทางธุรกิจจัดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา เป็นการอำนวยความสะดวกระหว่างนักธุรกิจในการซื้อขายปุ๋ย ยาฆ่าวัชพืช บรรจุภัณฑ์ อาหารและยาซีเมนต์ ปูนซีเมนต์ กระดาษและเยื่อกระดาษ สิ่งทอรวมถึงผ้าบาติก การค้าและบริการ จากข้อมูลพบว่าการค้าของสองประเทศมีมูลค่า 523.147 ล้านเหรียญสหรัฐในระหว่าง เม.ย.ถึงก.ย.2561 เมียนมาส่งออก 62.822 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีการนำเข้ามูลค่า 460.325 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปีงบประมาณ 60-61 การค้ากับอินโดนีเซียมีมูลค่า 1,025.278 ล้านเหรียญสหรัฐ- ส่งออก 123.909 ล้านดอลลาร์สหรัฐและ นำเข้า 901.369 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่ 1 ต.ค. 61 ถึง ก.ค. 62 มีมูลค่า 863.091 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การจัดงาน UMFCCI Centennial International Expo 2019 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้มีการลงทุนในประเทศและต่างประเทศและโอกาสทางเศรษฐกิจโดยจัดแสดงผลิตภัณฑ์สินค้ารวมถึงยานพาหนะจากเยอรมนี เนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น เกาหลี จีน มาเลเซีย มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/indonesia-myanmar-discuss-cooperation-in-foodstuff-textile-service-sectors

กำไรการส่งออกประมงทางทะเลพุ่ง 660 ล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้

สหพันธ์ประมงเมียนมาระบุว่าจนถึงเดือน ส.ค.ของปีงบประมาณนี้มีรายได้แตะ 667.007 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่ม15.788 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตั้งแต่เดือน ต.ค.ถึง ส.ค.ของปี 60-61 ภาคการเดินเรือ 651.219 ล้านเหรียญสหรัฐจากการส่งออก 536,396.055 ตัน ในช่วงปีงบประมาณนี้การส่งออกทางทะเลมีจำนวน 544,533.187 ตัน ปีนี้การส่งออกอาจจะไม่ต่างจากปีที่แล้วเนื่องจากความล่าช้าและการปิดกั้นเส้นทางการค้าทางทะเลของจีน ซึ่งเดือนนี้การส่งออกจะไม่เพิ่มขึ้นเนื่องจากไม่ใช่ฤดูการจับปลา ปีงบประมาณที่ผ่านมารายได้จากการส่งออกอยู่ที่ 720 ล้านเหรียญสหรัฐสูงเป็นประวัติการณ์ในรอบทศวรรษ

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/marine-export-earnings-hit-over-660-m-usd-this-fy

สมาคมอุตสาหกรรมข้าวเมียนมาส่งออกข้าวไปยังจีน

สมาคมอุตสาหกรรมข้าวเมียน (MRF) ส่งออกข้าว 250,000 ตันไปยังจีนโดยมีการลงนาม MOU กับธัญพืชและน้ำมันกับจีน ในเดือน พ.ย.ระหว่างการจัดงานธัญพืชและน้ำมันแห่งชาติของจีนที่จัดโดย MRF ส่วน MOU ดังกล่าวลงนามในเดือนมิ.ย.โดยจะส่งออกข้าว 100,000 ตัน แต่ปัจจุบันส่งออกอยู่ที่ 90,000 ตัน การส่งออกข้าวไปจีนผ่านข้อตกลงระหว่างรัฐผ่านระบบการแลกเปลี่ยนสินค้าของจีนและส่วนใหญ่ส่งออกผ่านชายแดน อย่างไรก็ตามการส่งออกได้ลดลงในปีงบประมาณปัจจุบันเนื่องจากการหยุดชะงักจากการตรวจจับสินค้าที่ผิดกฏหมาย ดังนั้นเมียนมาจึงเล็งตลาดส่งออกใหม่สำหรับข้าวผ่านทางทะเล กระทรวงพาณิชย์ระบุว่าโมซัมบิกและไลบีเรียเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ ซึ่งเมียนมาส่งข้าวมากกว่า 30,000 ตันทุกสัปดาห์ จากข้อมูลในช่วงปีงบประมาณ 60-61 เมียนมาส่งออกข้าวสูงถึง 3.6 ล้านตัน

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/myanmar-rice-federation-export-rice-china.html

ในรอบหนึ่งเดือนราคาเชื้อเพลิงในประเทศเพิ่ม 45-50 จัต

ราคาน้ำมันในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 45 เป็น 50 จัตต่อลิตรในระยะเวลามากกว่าหนึ่งเดือนเนื่องจากราคาน้ำมันทั่วโลกพุ่งแตะระดับ 60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากเดิมราคาในเดือน ก.ค. ราคา 53 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และเพิ่มเป็น 60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในเดือนกันยายนที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 16 กันยายนราคาในตลาดท้องถิ่นราคาสูงสุดคือ 930 จัตสำหรับน้ำมันดีเซลหนึ่งลิตร (K4,227 ต่อแกลลอน) 940 จัตสำหรับน้ำมันดีเซลหนึ่งลิตร (K4,273 ต่อแกลลอน) K830 จัตสำหรับหนึ่งลิตรที่ 92 รอนออกเทน (K3,773 ต่อแกลลอน) และ 920 จัตสำหรับหนึ่งลิตร 95 รอนออกเทน (K4,182 ต่อแกลลอน) ราคาเพิ่มขึ้น 45 เป็น 50 จัตต่อลิตรเมื่อเทียบกับราคาในเดือนสิงหาคม

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/local-fuel-prices-increase-by-k45-k50-in-over-one-month

MIC อนุญาตให้ธุรกิจแปดประเภทรวมไปถึงน้ำมันและก๊าซธรรมชาติลงทุนในเมียนมา

คณะกรรมาธิการการลงทุนของเมียนมา (MIC) อนุญาตให้ธุรกิจแปดประเภทเข้ามาลงทุน ได้แก่ ปศุสัตว์และการประมง การผลิต โรงแรม อสังหาริมทรัพย์ น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ การขนส่งและการสื่อสาร ธุรกิจเหล่านี้สามารถสร้างงานให้ท้องถิ่นมากกว่า 3,000 คน สิงคโปร์เป็นประเทศที่ติดอันดับต้น ๆ ของการลงทุน โดยธุรกิจเหล่านี้มีเม็ดเงินลงทุน 36.745 ล้านเหรียญสหรัฐและ 163,302.753 ล้านจัตเข้าสู่ประเทศ ธุรกิจทั้งหมด 1,806 แห่งจาก 50 ประเทศที่ลงทุนจนถึงสิงหาคมนี้ การลงทุนน้ำมันและก๊าซธรรมชาติคิดเป็น 27.48% รองลงมาคือภาคไฟฟ้า 25.95% และภาคการผลิต 14.01% จากข้อมูลของ MIC ในวันที่ 1 ต.ค.ถึง 5 ก.ย.ของปี 61-62 มูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศสูงถึง 4,100.032 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยคาดว่าปริมาณการลงทุนจากต่างประเทศจะไหลเข้าสู่ 5,800 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 61-62 การลงทุนจากต่างประเทศสูงถึงกว่า 4,100 ล้านเหรียญสหรัฐใน 25 วันก่อนสิ้นปีปัญชี

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/mic-permits-eight-types-of-businesses-including-oil-and-natural-gas

11 เดือน เมียนมาส่งออกถั่วมูลค่าเกือบ 930 ล้านเหรียญสหรัฐ

เมียนมามีรายได้เกือบ 930 ล้านเหรียญสหรัฐจากการส่งออกถั่วและพัลส์ต่าง ๆ ประมาณ 1.5 ล้านตัน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.61 ถึง 30 ส.ค.62 ของปีงบประมาณนี้ซึ่งสูงกว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อยู่ที่ 625.572 ล้านเหรียญสหรัฐ เมียนมาร์ส่งออกถั่วเขียวผิวมันและถั่วเขียวเป็นหลัก ผู้นำเข้าหลักคืออินเดียนิยมซื้อถั่วเขียวในขณะที่จีนและยุโรปมักจะซื้อถั่วเขียวผิวมัน ถั่วเขียวหนึ่งตันมีราคาอยู่ที่ประมาณ 754,000 จัตในตลาดท้องถิ่น ราคาถั่วเขียวมีความผันผวนในตลาดท้องถิ่นจากข้อมูลของผู้ค้าถั่วศูนย์ค้าส่งบุเรงนองในย่างกุ้ง เมียนมาส่งออกถั่ว 561,766 ตัน มูลค่า 672.288 ล้านเหรียญสหรัฐในปีงบประมาณ 59-60 527,965 ตันมูลค่า 344.043 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 60-61 งบประมาณ 61-62 ถึงสิงหาคมปีนี้ ราคาเฉลี่ยหนึ่งตันอยู่ที่ 758,332 จัต

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/nearly-930-m-earned-from-export-of-beans-and-pulses-in-11-months

11 เดือนของปีบัญชีปัจจุบันเมียนมาส่งออกหยก 356 ล้านเหรียญสหรัฐ

รายงานของกระทรวงพาณิชย์มูลค่าการส่งออกหยกอยู่ที่ 356 ล้านเหรียญสหรัฐจากปริมาณการส่งออก 1,548.452 ตัน ใน 11 เดือนของปีบัญชีปัจจุบัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 866.606 ล้านเหรียญสหรัฐจากปริมาณการส่งออก 3,128.501 ตัน ซึ่งลดลงถึง 509.730 ล้านเหรียญสหรัฐ หยกมีความเกี่ยวข้องกับงานประมูลอัญมณีเป็นอย่างมาก ยิ่งรัฐบาลมีงานประมูลอัญมณีมากเท่าไหร่จะทำให้การส่งออกหยกยิ่งมากขึ้น จากข้อมูลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จากงานประมูลอัญมณีของเมียนมาในปี 62 การเก็บภาษีหยกดิบจะอยู่ที่ 15% ส่วนทับทิม ไพลินและอัญมณีที่มีค่าอื่นอยู่ที่ 10%

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/jade-export-volume-reaches-us-356-million-in-11-months-in-current-fy

ธนาคารการท่องเที่ยวของเมียนมาเปิดสาขาใหม่ที่เนปิดอว์

ธนาคารการท่องเที่ยวของเมียนมาเปิดสาขาในเนปิดอว์เปิดให้บริการมากขึ้นในพื้นที่ชายแดน รัฐบาลวางแผนที่จะเปิดในภูมิภาคที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากที่สุด โดยเปิดทำการสาขาแรกที่ย่างกุ้งในวันที่ 6 พ.ค. สาขามัณฑะเลย์ในวันที่ 1 ก.ย. และสาขาเนปิดอว์ไปเมื่อวันที่ 12 ก.ย.ทีผ่านมา เป้าหมายคือให้ความช่วยเหลือแก่ภาคการท่องเที่ยวและช่วยเหลือบริษัท องค์กร และโรงแรมด้วยอัตราดอกเบี้ยเดียวกับที่ธนาคารกลางกำหนด อีกทั้ง 5% ของกำไรจะใช้เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยว ธนาคารเริ่มลงทุน 22 พันล้านจัต และอนุมัติการใช้สกุลเงินต่างประเทศในการลงทุน 5 ล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/myanmar-tourism-bank-opens-branch-in-nay-pyi-taw

KB Kookmin พร้อมปล่อยสินเชื่อบ้านให้ผู้มีรายได้น้อย

ธนาคาร KB Kookmin ของเกาหลีใต้เข้าร่วมในการพัฒนาที่อยู่อาศัยของรัฐบาลสำหรับครัวเรือนที่มีรายได้น้อยในย่างกุ้ง มีการลงนามเพื่อสนับสนุนโครงการในระหว่างการมาเยือนของประธานาธิบดี มู แจ อิน ของเกาหลีใต้เมื่อเดือนที่แล้ว KB Kookmin วางแผนช่วยเหลือเงินทุนแก่ผู้อยู่อาศัยและการจ้างงาน ซึ่งอยู่ในระหว่างการหารือเกี่ยวกับรายละเอียดของผลิตภัณฑ์สินเชื่อ รวมถึงอัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาเงินกู้และแผนการอื่น ๆ  ธนาคารเปิดสำนักงานตัวแทนในเมียนมาตั้งแต่ปี 56 โดยให้การสนับสนุนนโยบายด้านที่อยู่อาศัยและการเงินกับกระทรวงการก่อสร้างและการก่อสร้างธนาคารเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยและโครงสร้างพื้นฐาน และลงนาม MOU กับกระทรวงการก่อสร้างและ CHID Bank เพื่อขยายความร่วมมือ KB Microfinance ก่อตั้งในเดือน มี.ค. 60 มี 13 สาขา โดยส่วนใหญ่เป็นการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อการเชื่อมต่อไฟฟ้า และสินเชื่อธุรกิจขนาดเล็ก จนถึงขณะนี้ KB ไมโครไฟแนนซ์ได้จัดหาเงินทุนประมาณ 20 พันล้านให้แก่ชาวเมียนมา 48,000 คน ธนาคาร KB Kookmin อยู่ในระหว่างดำเนินการขอใบอนุญาตธนาคารในเมียนมา

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/kb-kookmin-bank-provide-home-loans-low-income-households.html