การขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงในเมียนมาร์ทำให้ต้นทุนการขนส่งสินค้าพุ่งสูงขึ้น

จากการสำรวจต้นทุนการขนส่งสินค้าจากคนขับรถบรรทุก และพ่อค้า พบว่าต้นทุนการขนส่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องมาจากความท้าทายในการจัดหาเชื้อเพลิง แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าระหว่างย่างกุ้งและพะสิมจะเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันต้นทุนระหว่างย่างกุ้งและฮีนตาดายังคงทรงตัว อย่างไรก็ดี ปัญหาดังกล่าวได้ส่งผลต่อต้นทุนการขนส่งสินค้า โดยเฉพาะสินค้าเกษตร เช่น การขนส่งอ้อยจากรัฐฉานไปยังย่างกุ้งมีค่าใช้จ่ายระหว่าง 130-170 จ๊าดต่อ viss ขึ้นอยู่กับระยะทาง ในทางกลับกันการจัดส่งสินค้าที่เน่าเสียง่าย เช่น กะหล่ำปลีและมะเขือเทศมีราคาอยู่ที่ 200 จ๊าดต่อ viss เพื่อการจัดส่งที่รวดเร็วค่าใช้จ่ายในการขนส่งหัวหอมจากมยี่นชานไปยังย่างกุ้งได้เพิ่มขึ้นเป็น 155 จ๊าดต่อ viss เพื่อการจัดส่งที่รวดเร็ว ในทางกลับกันการขนส่งหัวหอมจากเซะพยูไปยังย่างกุ้งจะมีราคาอยู่ที่ 120 จ๊าดต่อ viss สำหรับการจัดส่งแบบมาตรฐาน นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการขนส่งพริกจากย่างกุ้งไปยังเมียวดี เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 175 จ๊าดต่อ viss เป็น 550 จ๊าดต่อ viss เนื่องจากมีการปิดถนน และมีสิ่งกีดขวางถนนตลอดเส้นทาง ทำให้มีเพียงยานพาหนะขนาดเล็กเท่านั้นที่สามารถผ่านสถานการณ์ดังกล่าวได้ ส่งผลให้มีข้อจำกัดในรอบการจัดส่งพริก

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/fuel-shortage-drives-commodity-transport-costs-upsurge/

เมียนมาร์เตรียมจัดแสดงผลิตภัณฑ์ในเทศกาล Guangxi New Silk Road New Year E-commerce Festival ครั้งที่ 2

กระทรวงการต่างประเทศเมียนมาร์ ระบุว่า สินค้าของเมียนมาร์ที่จะจัดแสดงในเทศกาล Guangxi New Silk Road New Year E-commerce Festival ครั้งที่ 2 และเทศกาลช้อปปิ้งปีใหม่ออนไลน์ปี 2024 ในเมืองหนานหนิง เขตปกครองตนเองกว่างซี ประเทศจีน ซึ่งได้รับการแนะนำโดยสถานกงสุลเมียนมาร์ ทั้งนี้ สินค้าของเมียนมาร์ถูกกำหนดให้จัดแสดงภายในงาน E-commerce Festival Gala ในช่วงเทศกาลที่กำหนด ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 ถึงกุมภาพันธ์ 2567 U Kyaw Soe Thein กงสุลใหญ่เมียนมาร์ในหนานหนิงกล่าวถึงในการสัมภาษณ์กับ Guangxi Television ว่าสินค้าต่างๆ เช่น อัญมณี กาแฟ ชา ใบชาแห้ง น้ำผึ้ง น้ำอัดลม ไวน์ เบียร์ ซุปโมฮิงกา และเส้นหมี่ ซึ่งเป็นอาหารพม่าแบบดั้งเดิม จะถูกจัดแสดงในช่วงเทศกาล นอกจากนี้ งานหัตถกรรมพม่า เช่น ภาพวาด อัญมณี ภาพวาดปักทอง และประติมากรรมจะเป็นส่วนหนึ่งของการจัดแสดง นอกจากนี้ นักธุรกิจจากเมียนมาร์ได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมในงานอีคอมเมิร์ซ โดยเปิดโอกาสให้พวกเขาได้ร่วมงานกับบริษัทอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคกวางสี

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-to-showcase-its-products-at-2nd-guangxi-new-silk-road-new-year-e-commerce-festival-2024-online-shopping-festival-in-china/

ราคาอ้างอิงขายส่งน้ำมันปาล์มย่างกุ้งทรงตัวในสัปดาห์นี้ สิ้นสุดวันที่ 25 ธันวาคม

ตามที่คณะกรรมการกำกับดูแลด้านการนำเข้าและจัดจำหน่ายน้ำมันบริโภคระบุว่า อัตราอ้างอิงการขายส่งน้ำมันปาล์มสำหรับตลาดย่างกุ้งในสัปดาห์นี้สิ้นสุดวันที่ 25 ธันวาคม 2566 มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมากโดยมีความแตกต่างเพียงหลักเดียว ราคาขายส่งจดทะเบียนที่ 4,815 จ๊าดต่อ viss เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สิ้นสุดวันที่ 17 ธันวาคม อัตราของสัปดาห์นี้ค่อนข้างคงที่ที่ 4,810 จ๊าดต่อ viss ทั้งนี้ คณะกรรมการกำกับดูแลการนำเข้าและจัดจำหน่ายน้ำมันบริโภคภายใต้กระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามราคา FOB ในมาเลเซียและอินโดนีเซียอย่างใกล้ชิด โดยเพิ่มค่าภาษี และบริการธนาคารเพื่อกำหนดอัตราอ้างอิงตลาดขายส่งรายสัปดาห์สำหรับน้ำมันที่บริโภคได้ อย่างไรก็ตาม ราคาตลาดนั้นสูงกว่าราคาอ้างอิงมาก เพื่อจัดการกับปัญหาการคิดเงินเกิน กรมกิจการผู้บริโภค กระทรวงพาณิชย์ แจ้งให้ผู้บริโภคร้องเรียนเรื่องการคิดเงินเกินราคาผ่านสายด่วนของคอลเซ็นเตอร์ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม กระทรวงฯ เรียกร้องให้ผู้บริโภคอย่าซื้อน้ำมันปาล์มในราคาที่สูงเกินจริง นอกจากนี้ กรมกำลังพยายามร่วมกันควบคุมความผันผวนสูงของราคาน้ำมันปาล์มในตลาดค้าปลีก และเสนอราคาที่ยุติธรรมมากขึ้นแก่ผู้บริโภค โดยร่วมมือกับสมาคมผู้ค้าน้ำมันบริโภคแห่งเมียนมาร์และบริษัทนำเข้าน้ำมัน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/yangon-palm-oil-wholesale-reference-price-stable-for-week-ending-25-december/

เมียนมาร์มีความพยายามที่จะขยายส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกในภาคส่วนที่หลากหลาย

กระทรวงพาณิชย์เมียนมาร์ (MoC) กำลังพยายามเพิ่มผลผลิตและส่งออกสินค้าจากภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะพืชผลและผัก ผลิตภัณฑ์ประมง หยก ปุ๋ย เชื้อเพลิง และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ตามสถิติและแถลงการณ์ของกระทรวง มูลค่าการส่งออกรวมของเมียนมาร์เพิ่มขึ้น 221 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม พ.ศ. 2566 ผ่านเส้นทางการขนส่งและการค้าชายแดน เนื่องจากปัจจุบันเป็นฤดูกาลที่เฟื่องฟูสำหรับผลิตผลทางการเกษตร กระทรวงคาดการณ์ว่าการส่งออกจะเพิ่มขึ้นในภาคส่วนนี้ ในส่วนของการส่งออกผลิตภัณฑ์ประมง มีมูลค่ามากกว่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในหนึ่งสัปดาห์ โดยส่งออกผ่านการขนส่งทั้งทางเรือและทางอากาศ นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ประมง เช่น ปลา ปลาป่น และปลาแห้งยังถูกขนส่งผ่านด่านการค้าเกาะสอง มะริด มอตอง และเมียวดี อย่างไรก็ดี นอกเหนือจากการส่งออกของภาคเอกชนแล้ว ภาครัฐยังขนส่งหยก 3,228 กิโลกรัมที่จำหน่ายโดยห้างสรรพสินค้าอัญมณีไปยังจีนอีกด้วย รวมทั้งศูนย์บริการแบบครบวงจรของบริษัท Myanma Gems Enterprise ยังจำหน่ายเครื่องประดับหยกมูลค่าเพิ่ม เช่น กำไล ลูกปัด และโซ่มือ โดยส่งออกไปยังตลาดจีนโดยการขนส่งทางอากาศ ในส่วนรายได้จากการส่งออกยาง ได้รับอนุญาตให้นำไปลงทุนในสินค้าภายในประเทศที่จำเป็น เช่น ปุ๋ยและเชื้อเพลิง โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของสินค้าโภคภัณฑ์และเพิ่มผลกำไรให้กับผู้ส่งออก การส่งออกยางจึงเพิ่มขึ้นสองเท่าในช่วงต้นเดือนธันวาคมเมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน ตามสถิติ เช่นเดียวกับ การส่งออกหนังดิบและเครื่องหนัง ผลิตภัณฑ์ไม้สำเร็จรูป และผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น น้ำตาลและผลิตภัณฑ์เครื่องนุ่งห่ม CMP ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ขอเชิญชวนหน่วยงาน สมาคม และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันส่งเสริมภาคการค้าของประเทศ เพิ่มความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับประเทศคู่ค้า ขยายตลาดโลก และส่งออกสินค้ามากขึ้น

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-seeks-to-expand-global-market-shares-in-versatile-sectors/

โรงกลั่นน้ำมันจำเป็นต้องดำเนินการเร็วที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานในประเทศ

เมื่อบ่ายวานนี้ ในการเยี่ยมชมโรงกลั่นน้ำมันในเมือง Thanlyin เขตย่างกุ้ง ประธานสภาบริหารแห่งรัฐ นายกรัฐมนตรี พลเอกอาวุโส มิน ออง หล่าย เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการพิจารณาต้นทุนการนำเข้าเชื้อเพลิงสำหรับความต้องการพลังงานในประเทศ และต้นทุนอื่นในการดำเนินงานโรงกลั่นของ ประเทศได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในการตอบสนองความต้องการพลังงานภายในประเทศ ซึ่งในขั้นต้นจะต้องเน้นไปที่การดำเนินงานโรงกลั่นน้ำมันหมายเลข 1 (Thanlyin) โดยมีแผนจะอัพเกรดเพิ่มเติมเพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานในประเทศได้สำเร็จ อย่างไรก็ดี ด้านรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน U Ko Ko Lwin และกรรมการผู้จัดการ U Aung Myint จาก Myanma Petrochemical Enterprise รายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโรงกลั่นน้ำมันหมายเลข 1 (Thanlyin) การเตรียมการเพื่อให้เกิดความเพียงพอด้านพลังงานของประเทศโดยอาศัยการจัดตั้งแหล่งพลังงาน การผลิตน้ำมันจากโรงกลั่นในประเทศ การปรับปรุงโรงงาน และความพร้อมของวัตถุดิบ นอกจากนี้ ยังได้มีการตรวจสอบโรงกลั่นน้ำมันหมายเลข 1 (ตันลยิน) โรงกลั่นน้ำมัน (B) โรงงานน้ำมันหล่อลื่น และถัง LNG รวมทั้งได้สั่งให้เจ้าหน้าที่พยายามดำเนินการโรงกลั่นให้เร็วที่สุดเพื่อจัดหาความต้องการเชื้อเพลิงของประเทศในด้านหนึ่ง

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/oil-refineries-need-soonest-operation-for-fulfilling-domestic-energy-requirement/

คณะผู้แทนเมียนมาร์เข้าร่วมงานเปิดตัวศูนย์ US-ASEAN ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

กระทรวงการต่างประเทศเมียนมร์รายงานว่า คณะผู้แทนเมียนมาร์เข้าร่วมพิธีเปิดศูนย์ US-ASEAN ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งจัดขึ้นที่สาขา Washington School ของมหาวิทยาลัย American Arizona เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม โดยมีเอกอัครราชทูตจากสถานทูตอาเซียน อุปทูต และรัฐมนตรีสถานทูตเมียนมาร์ในกรุงวอชิงตัน U Thet Win พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ เข้าร่วมด้วย ทั้งนี้ รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ยังเน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญกับการส่งเสริมมิตรภาพระหว่างประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสหรัฐอเมริกาในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. อย่างไรก็ดี ศูนย์สหรัฐฯ-อาเซียนมีเป้าหมายที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมระหว่างประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสหรัฐอเมริกา โดยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรเอกชน มหาวิทยาลัยแอริโซนา ซึ่งเป็นเจ้าภาพศูนย์ฯ มีประวัติความร่วมมือกับประเทศอาเซียนในโครงการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนกับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ มหาวิทยาลัยยังมีส่วนร่วมกับ United States Agency for International Development (USAID) และอุตสาหกรรมของอเมริกา

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-delegation-participates-in-us-asean-centre-launch-in-washington-dc/

การตรวจสอบคลังน้ำมันที่ท่าเรือติลาวา และร้านค้าน้ำมันในย่างกุ้ง

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพลังงาน และประธานคณะกรรมการกำกับดูแลการนำเข้า จัดเก็บ และจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง U Thant Sin เข้าเยี่ยมชมสถานีจัดเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงที่ท่าเรือติละวา เมือง Thanlyin ในเขตย่างกุ้ง ทั้งนี้ ยังพิจารณาสภาพการทำงานของระบบในการนำเข้าเชื้อเพลิงโดยเรือบรรทุกน้ำมันจากต่างประเทศ เงื่อนไขการรับเชื้อเพลิงที่ถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิง และการกระจายเชื้อเพลิงโดยผู้ให้บริการขนส่งไปยังรัฐและภูมิภาค อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ สั่งการให้บริษัทที่นำเข้า จัดเก็บ และจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ดำเนินกิจกรรมรักษาความปลอดภัยตามสถานีจัดเก็บ ท่าเรือ และท่าเทียบเรือ ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนการปฏิบัติงานมาตรฐาน (SOP) อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีน้ำมันรั่วไหลระหว่างการขนถ่ายและสามารถรักษาและกระจายคุณภาพของน้ำมันเชื้อเพลิงได้จากเจ้าหน้าที่ทุกระดับ เพื่อเปลี่ยนผ่านจากระบบสกัดลูกลอยแบบแมนนวลสำหรับรถหัวจ่าย ไปสู่การสกัดลูกลอยแบบออนไลน์ รวมถึง ติดตั้งและใช้ระบบซอฟต์แวร์เพื่อควบคุมและติดตามสถานะการซื้อและการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงโดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ ร้านค้าน้ำมันเชื้อเพลิงควรใส่ใจเพื่อให้สามารถจำหน่ายและขายสินค้าตามคุณภาพและความต้องการด้วยบริการที่ดีแก่ประชาชน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/fuel-storage-at-thilawa-port-fuel-stores-in-yangon-inspected/

เมียนมาร์เข้าร่วมการประชุม Uttarakhand Global Investor Summit 2023 ที่ประเทศอินเดีย

กระทรวงการต่างประเทศเมียนมาร์ ได้กล่าวถึง การมีส่วนร่วมของเมียนมาร์ใน Uttarakhand Global Investor Summit 2023 (UKGIS) ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองเดห์ราดุน รัฐอุตตราขัณฑ์ ประเทศอินเดีย โดยการประชุมสุดยอดครั้งนี้ซึ่งมีระยะเวลาสองวัน คือวันที่ 8-9 ธันวาคม มี U Moe Kyaw Aung เอกอัครราชทูตเมียนมาร์ประจำอินเดีย เข้าร่วมงานตามคำเชิญของรัฐบาลรัฐอุตตราขัณฑ์ อย่างไรก็ดี รายงานดังกล่าวระบุว่า นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดียกล่าวสุนทรพจน์ต่อผู้เข้าร่วมงานกว่า 5,000 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักการทูต ผู้ประกอบการ และนักลงทุนจากประเทศต่างๆ รวมถึงเมียนมาร์ ซึ่งในระหว่างการประชุมสุดยอด เอกอัครราชทูต U Moe Kyaw Aung ได้หารือกับเจ้าหน้าที่ ผู้ประกอบการ นักลงทุน และตัวแทนจากประเทศอื่นๆ ของอินเดีย เพื่อสำรวจโอกาสด้านการลงทุนและเศรษฐกิจ และศักยภาพของเมียนมาร์

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-takes-part-in-uttarakhand-global-investor-summit-2023-in-india/

มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรของเมียนมาร์ทะลุ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ใน 8 เดือนที่ผ่านมา

กระทรวงพาณิชย์เมียนมาร์ ระบุว่า การส่งออกสินค้าเกษตรของเมียนมาร์มีมูลค่า 2.035 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณปัจจุบัน พ.ศ. 2566-2567 ซึ่งมูลค่าดดังกล่าวเป็นมูลค่ารวมตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผานมา ทั้งนี้ ตัวเลขมูลค่าการส่งออกดังกล่าวลดลงจาก 2.364 พันล้านดอลลาร์ที่มีการเก็บข้อมูลสถิติไว้ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ลดลงเท่ากับ 328.349 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี เมียนมาร์มีการส่งออกสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แร่ธาตุ ผลิตภัณฑ์จากป่าไม้ และสินค้าอุตสาหกรรมสำเร็จรูป ในขณะที่นำเข้าสินค้าทุน สินค้าขั้นกลาง วัตถุดิบสำหรับผลิตสินค้า CMP และสินค้าอุปโภคบริโภค นอกจากนี้ เมียนมาร์ได้มีการดำเนินยุทธศาสตร์การส่งออกแห่งชาติ (NES) พ.ศ. 2563-2568 เพื่อสนับสนุนการส่งออก ซึ่งภาคส่วนที่มีลำดับความสำคัญของ NES ประกอบด้วยการผลิตทางการเกษตร เครื่องนุ่งห่มและเครื่องแต่งกาย อุปกรณ์อุตสาหกรรมและอิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจประมง ผลิตภัณฑ์จากป่าไม้ การผลิตและบริการดิจิทัล บริการโลจิสติกส์ การจัดการคุณภาพ บริการข้อมูลการค้า นวัตกรรม และภาคผู้ประกอบการ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmars-agri-exports-surpass-us2-bln-in-8-months/#article-title

การส่งออกยางของเมียนมาร์เพิ่มขึ้นเป็น 123 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ใน 8 เดือน

ตามข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 1 ธันวาคม ในปีงบประมาณ 2566-2567 เมียนมาร์ส่งออกยางกว่า 99,660 ตันไปยังต่างประเทศ ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 123.69 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ ราคาทั่วไปของยางแผ่นรมควันชั้น 3 อยู่ที่ 1,580 จ๊าดต่อปอนด์ และยางตากแห้ง 1,560 จ๊าดต่อปอนด์ ในตลาดยางของรัฐมอญ ซึ่งราคายางของเมียนมาร์จะได้รับอิทธิพลจากความต้องการยางทั่วโลก การผลิตยางของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอุปทานในตลาดเป็นหลัก อย่างไรก็ดี เป้าหมายการส่งออกยางพาราของสมาคมยางเมียนมาร์ที่ตั้งไว้ในปีงบประมาณนี้คือ 300,000 ตัน ซึ่งยังถือว่าต่ำกว่าการผลิตยางในปีงบประมาณ 2565-2566 ที่ผ่านมา ที่มีการผลิตเกิน 360,000 ตัน และมีการส่งออกยางมากกว่า 200,000 ตันไปยังคู่ค้าต่างประเทศ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmars-rubber-exports-swell-to-us123-mln-in-8-months/#article-title