Hoa Phat Group มียอดขายพุ่งสูงขึ้น 16.8%

บริษัท Hoa Phat Group เป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ได้เปิดเผยว่าในปี 2562 บริษัทมีการจัดเก็บเหล็กก่อสร้างคุณภาพสูงมากกว่า 2.77 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.8 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งจากจำนวนทั้งหมดนั้น มีการส่งออกเหล็กก่อสร้างไปยังต่างประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย กัมพูชา ญี่ปุ่น มาเลเซีย ไต้หวัน เกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น คิดเป็นปริมาณราว 265,000 ตัน ทั้งนี้ ทางบริษัทได้ตั้งเป้าปริมาณการผลิตเหล็กก่อสร้างในปี 2563 อยู่ที่ 3.5-3.6 ล้านตัน โดยจะปรับปรุงการบริการโลจิสติกส์และส่งเสริมโปรแกรมทางการตลาด ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจเป็นที่นิยมในเขตตะวันออกเฉียงใต้และสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง นอกจากนี้ ธุรกิจได้ก่อสร้างทางเรือ Hoa Phat Dung Quat ซึ่งจะช่วยให้อำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศได้มากยิ่งขึ้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/hoa-phat-construction-steel-sales-post-168-percent-hike-408474.vov

ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์เวียดนาม เผชิญกับอุปสรรคจากการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น

จากรายงานของสมาคมผู้ผลิตรถจักรยานยนต์เวียดนาม (VAMM) เปิดเผยว่าในปี 2562 ตัวเลขยอดขายรถจักรยานยนต์ถดถอยลง ถึงแม้ว่าอุตสาหกรรมคาดว่ายอดขายจะเพิ่มสูงขึ้น โดยในเดือนตุลาคมและเดือนพฤศจิกายน มียอดขายขายรถจักรยานยนต์เพียง 227,000 คัน และ 230,000 คัน ลดลงร้อยละ 6.5 และ 2.2 ตามลำดับ เมื่อเทียบเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2561 ธุรกิจเผชิญกับอุปสรรคอย่างมากในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 62 ถึงแม้ว่าจะพยายามกระตุ้นยอดขายก็ตาม ซึ่งแบรนด์ฮอนด้า เป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม มียอดขายรถจักรยานยนต์กว่า 2.6 ล้านคัน ในปี 62 รองลงมาเป็นแบรนด์จากญี่ปุ่น ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญมองว่าอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์มีแนวโน้มถดถอยลง เป็นผลจากรายได้ของประชากรเพิ่มสูงขึ้น และการหันมาซื้อรถยนต์ที่เพิ่มสูงขึ้น รวมไปถึงมีความต้องการซื้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่สูงขึ้นและจำนวนการใช้รถจักรยานยนต์ที่ลดลง โดยเฉพาะในกลุ่มเมืองใหญ่ ด้วยเหตุนี้ ทำให้ความต้องการรถจักรยานยนต์ดิ่งลงอย่างมาก

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/570719/motorcycle-makers-running-out-of-gas-in-face-of-increased-competition.html

เงินโบนัสพิเศษเฉลี่ยของคนเวียดนาม 288 ดอลลาร์สหรัฐ ในปีนี้

จากรายงานของกระทรวงแรงงานเวียดนามเกี่ยวกับผลการสำรวจธุรกิจเวียดนามกว่า 25,000 แห่งและจำนวนแรงงาน 3.15 ล้านคนที่อยู่ในเขตเมือง 40 เขต เปิดเผยว่าบริษัทเวียดนามจะจ่ายเงินโบนัสพิเศษ (Tet Bonus) เฉลี่ยอยู่ที่ 6.71 ล้านดอง (288 ดอลลาร์สหรัฐ) ในปีนี้ เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 7.1 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งบริษัทที่รัฐฯเป็นเจ้าของ มีการจ่ายเงินโบนัสเฉลี่ยอยู่ที่ 264 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมูลค่าเท่ากับปีที่แล้ว หากจำแนกประเภทธุรกิจ พบว่าผู้ประกอบการเอกชนและธุรกิจต่างประเทศจ่ายเงินโบนัส 270 ดอลลาร์สหรัฐ และ 298 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 และ 11.1 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทั้งนี้ บริษัทเวียดนามส่วนใหญ่ร้อยละ 85.6 จ่ายเงินโบนัสแก่พนักงานในช่วงปีใหม่ คิดเป็นเงินโบนัสเฉลี่ยราว 40 ดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/companies/average-tet-bonus-is-288-this-year-4037642.html

เวียดนามจะซื้อพลังงาน 1.5 พันล้าน kWh ต่อปีจากสปป.ลาว

Vietnam Electricity (EVN) จะซื้อไฟฟ้าจากสปป.ลาวประมาณ 1.5 พันล้าน kWh ต่อปีเป็นระยะเวลา 2 ปี เริ่มในปี 64 ภายใต้สัญญาที่ลงนาม Vietnam Electricity (EVN) จะซื้อไฟฟ้ามากกว่า 596 ล้าน kWh ต่อปีจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำสองแห่งของกลุ่ม  Phongsubthavy และในปี 65 จะซื้อไฟฟ้า 632 ล้าน kWh จากโรงงานสองแห่งที่อยู่ในกลุ่ม Chealun Sekong อีกทั้งในปี 64 จะเริ่มซื้อไฟฟ้า 263 ล้าน kWh ต่อปีจากบริษัทอื่น การนำเข้าได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลเวียดนามเพื่อลดปัญหาการขาดแคลนพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าประมาณการในปี 64 การขาดแคลน 3.7 พันล้าน kWh และเกือบ 10 พันล้าน kWh ในปีต่อไป ในปี 66 คาดว่าปัญหาการขาดแคลนจะอยู่ที่ประมาณ 15 พันล้าน kWh จากนั้นจะลดลง เนื่องจากการขาดแคลนคาดว่าจะลดลงถึง 7 พันล้าน kWh และ 3.5 พันล้าน kWh ในปี 67 และ 68 ตามลำดับ กระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวว่าสามารถอนุรักษ์กระแสไฟฟ้าได้ไม่เกิน 5-8% และทางออกเดียวคือการนำเข้ามากขึ้นจากสปป.ลาวและจีน แต่การซื้อจากประเทศเพื่อนบ้านเป็นเพียงวิธีแก้ปัญหาด้วยคลื่นความถี่และในระยะยาวมีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มความเร็วในการทำงานในโครงการผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/industries/vietnam-to-buy-1-5-billion-kwh-of-power-annually-from-laos-4037485.html

เวียดนามส่งออกสินค้าเกษตรหลัก ลดลง 5.3% ในปี 62

จากรายงานของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่าในปี 2562 มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรหลักอยู่ที่ 18.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 5.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนมูลค่าการส่งออกสินค้าประมงและสินค้าป่าไม้ ขยับตัวเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 2.7 และ 19.2 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ตามลำดับ โดยตลาดส่งออกสินค้าเกษตรกรรมสำคัญของเวียดนาม ได้แก่ จีนและฮ่องกง (คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 27.8 ของการส่งออกสินค้าเกษตรรวม) รองลงมาสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป อาเซียน และญี่ปุ่น ตามลำดับ ทั้งนี้ หากจำแนกสินค้าเกษตรสำคัญ พบว่าข้าว ผักผลไม้ กาแฟและพริกไทย มีมูลค่าการส่งออกลดลง แต่ว่ามันสำปะหลังและใบชา มีมูลค่าการส่งออกขยับตัวเพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกัน มูลค่าการนำเข้าสินค้าเกษตรกรรมของเวียดนามรวมอยู่ที่ 30.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่งผลให้เวียดนามเกินดุลการค้าราว 10.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/export-of-main-agricultural-products-down-53-percent-in-2019-408382.vov

เวียดนามประสบความสำเร็จในการขยายตัวการท่องเที่ยว

ในปีที่ผ่านมา เวียดนามดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามามากกว่า 18 ล้านคน นับว่าเป็นตัวเลขทางสถิติสูงที่สุดและมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ร้อยละ 16.2 รวมไปถึงได้รับรางวัลการันตีการท่องเที่ยวระดับนานาชาติอีกด้วย จากข้อมูลดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าภายในปี 2562 เวียดนามเป็น 1 ใน 10 ประเทศทั่วโลกที่มีอัตราการขยายตัวด้านการท่องเที่ยวสูงที่สุดและเป็นจุดมุ่งหมายที่ดีที่สุดในการเดินทางมายังเอเชีย ซึ่งผู้อำนวยการบริษัท Inmarc ระบุว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเวียดนาม มีศักยภาพอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นภูมิประเทศที่สวยงาม อาหารหลากหลาย และโรงแรมที่ยอดเยี่ยม เป็นต้น นอกจากนี้ ทางกระทรวงวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว ได้ตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 20.5 ล้านคน และนักท่องเที่ยวในประเทศ 90 ล้านคน ภายในปีนี้ โดยเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว เวียดนามยังคงผลักดันการใช้ IT การปรับโครงสร้างผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวและโปรโมตการท่องเที่ยวเพิ่มมากยิ่งขึ้น

18 ล้านคน นับว่าเป็นตัวเลขทางสถิติส

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnam-achieves-stellar-tourism-growth-408391.vov

เวียดนามตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 20.5 ล้านคน ในปี 2563

จากการประชุมขององค์การบริหารการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนาม (VNAT) ณ กรุงฮานอย ในวันที่ 23 ธันวาคม เปิดเผยว่าภาคการท่องเที่ยวเวียดนามตั้งเป้าปี 2563 จะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 20.5 ล้านคน และอีก 90 ล้านคนที่เป็นนักท่องเที่ยวในประเทศ โดยในปี 2562 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมายังเวียดนามอยู่ที่ 18 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 เมื่อเทียบกับปีที่แล้วและสัดส่วนของจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศอยู่ที่ 85 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทั้งนี้ ภาคการท่องเที่ยวมีรายได้รวมมากกว่า 720 ล้านล้านดอง เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และในปีหน้า เวียดนามจะเป็นเจ้าภาพจัดงานสำคัญ ได้แก่ รายการ Formula 1 Vietnam Grand Prix และงานการท่องเที่ยวระดับชาติแห่งปี 2563 (National Tourism Year 2020)

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-aims-for-205-million-foreign-tourists-in-2020/166003.vnp

เวียดนามคาดว่าภาคเกษตรกรรมจะขยายตัว 3% ในปีหน้า : PM

จากการประชุมในกรุงฮานอย ณ วันที่ 23 ธันวาคม นายกรัฐมนตรีเหงียนชวนฟุ๊ก ระบุว่าภาคเกษตรและพัฒนาชนบทจะเติบโตร้อยละ 3 ในปีหน้า รวมไปถึงการส่งออกสินค้าเกษตร ป่าไม้และประมง จะมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ 43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีสินค้าเกษตรมากกว่า 5 รายการที่มีมูลค่าการส่งออก 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2568 ทำให้ยอดการส่งออกรวมปรับตัวสูงขึ้นราว 50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและส่งผลให้เวียดนามเป็นผู้นำทางด้านการค้าในกลุ่มสมาชิกอาเซียน ทั้งนี้ ปัจจัยความสำเร็จของภาคการเกษตรเวียดนามในปีนี้ เป็นผลมาจากการขจัดอุปสรรคทางการค้าที่จีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เป็นต้น รวมไปถึงการจัดการกับไข้หวัดหมูแอฟริกา (ASF) นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท กล่าวว่าภาคการเกษตรจะดำเนินปรับโครงสร้างใหม่และสร้างมูลค่าสินค้าให้สูงขึ้น รวมไปถึงเพิ่มขีดความสามารถการผลิตสินค้าเกษตรและการแก้ไขปัญหาประมงอย่างเข็มงวด จากสหภาพยุโรปได้ให้ใบเหลือง (Yellow Card)

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/agriculture-sector-must-grow-by-3-pct-next-year-pm-407946.vov

เวียดนามตั้งเป้ายอดส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2563

ตามข้อมูลของสมาคมเม็ดมะม่วงหิมพานต์เวียดนาม (Vinacas) เปิดเผยว่าภาคอุตสาหกรรมเม็ดมะม่วงหิมพานต์จะมุ่งเน้นไปที่การแปรรูป ปรับปรุงคุณภาพและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยในปี 2562 มีการนำเข้าวัตถุดิบอยู่ที่ 1.5 ล้านตัน และแหล่งน้ำเข้าวัตถุดิบส่วนใหญ่มาจากแอฟริกา ทั้งนี้ ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ปริมาณส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์มากกว่า 418,000 ตัน ด้วยมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับผู้นำเข้าเม็ดมะม่วงหิมพานต์รายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม คือ สหรัฐอเมริกา รองลงมาจีนและเนเธอแลนด์ เป็นต้น นอกจากนี้ จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท ระบุว่าภาคเกษตรกรรมมียอดเกินดุลการค้าราว 8.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ สำหรับแหล่งส่งออกสินค้าเกษตรของเวียดนามรายใหญ่ที่สุด คือ จีน (26.9% ของการส่งออกรวม) รองลงมาสหรัฐฯ สหภาพยุโรป อาเซียนและญี่ปุ่น ตามลำดับ

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnam-targets-4-billion-usd-from-cashew-exports-in-2020-407924.vov

เวียดนามเผชิญกับอุปสรรคในการส่งออกพริกไทยไปยังตลาดโลก

ตามข้อมูลของสำนักงานการนำเข้า-ส่งออก ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนาม เปิดเผยว่าสถานการณ์การส่งออกพริกไทยของเวียดนามยังคงเผชิญกับอุปสรรค เป็นผลมาจากผลผลิตล้นในตลาดโลก และการแข่งขันจากคู่แข่งที่สูงขึ้น ทำให้ระดับราคาลดลง โดยในปัจจุบัน เวียดนามมีพื้นที่เพาะปลูกพริกไทยอยู่ที่ 100,000 เฮกเตอร์ คิดเป็นปริมาณผลผลิตราว 247,000 ตัน ขณะที่ ราคาพริกไทยยังอยู่ในระดับต่ำและต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น ด้วยเหตุนี้ อุตสาหกรรมพริกไทยมีแนวโน้มชะลอตัวต่อไปอีก ทั้งนี้ คาดว่าผลผลิตพริกไทยในตลาดโลกจะเพิ่มสูงขึ้น 1 ล้านตันในปี 2050 เนื่องจากความต้องการเพิ่มขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้เกิดความผันผวนของราคาพริกไทย นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่าแม้ว่าสถานการณ์การส่งออกพริกไทยของเวียดนามเผชิญกับความท้าทาย แต่ด้วยข้อตกลงการค้าเสรี เช่น CPTPP และ EVFTA เป็นต้น จะทำให้อุตสาหกรรมดังกล่าวได้รับโอกาสมากยิ่งขึ้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/pepper-exports-face-hurdles-in-global-market-407916.vov