GDP เวียดนามขยายตัว 25.4% ต่อปี ในช่วงปี 2010-2017 หลังจากปรับปรุงวิธีนับใหม่

จากคำแถลงการณ์ของสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ว่าหลังจากการปรับปรุงวิธีการวัดผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศใหม่ ส่งผลให้ GDP เวียดนามขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 25.4 ต่อปี ในช่วงปี 2010-2017 ซึ่งวัตถุประสงค์ในการปรับขนาด GDP เพื่อให้สะท้อนถึงภาพรวมของเศรษฐกิจและประสิทธิภาพของการใช้นโยบายเศรษฐกิจ รวมไปถึงส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างเศรษฐกิจ ทั้งด้านภาคการเกษตรปรับขนาดลดลง ส่วนภาคอุตสาหกรรมและการบริการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ จากตัวเลข GDP ที่ขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นนั้น เป็นผลมาจากปัจจัยหลายอย่างประกอบรวมกัน รวมไปถึงการปรับปรุงของโครงสร้างเศรษฐกิจ และวิธีการการวัดที่ทันสมัย (Methodology)

ที่มา : https://en.nhandan.com.vn/business/item/8223202-vietnam%E2%80%99s-gdp-up-by-25-4-per-year-during-2010-2017-after-revision.html

เวียดนามอยู่อันดับ 2 ของการลงทุนธุรกิจ FinTech ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

จากรายงาน ‘FinTech in ASEAN’ ที่เผยแพร่โดยธนาคารยูโอบี (UOB) เปิดเผยว่าเวียดนามดึงดูดเงินทุนในธุรกิจฟินเทค คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 36 ของการลงทุนรวมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงดึงดูดเงินทุนเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 0.4 ในปีที่แล้ว โดยสิงคโปร์ยังคงเป็นประเทศที่ดึงดูดเงินทุนจากทั่วโลกมากที่สุด คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 51 ส่วนประเทศอินโดนีเซีย (12%) ไทย และมาเลเซีย มีสัดส่วนน้อยกว่า 2 ของการลงทุนรวมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ เวียดนามเป็นผู้นำการร่วมลงทุน (VC) ในธุรกิจ FinTech นอกจากนี้ บริษัทฟินเทคได้ตั้งตลาดเป้าหมายกว่า 300 ล้านคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ไม่มีบัญชีธนาคาร หรือคนที่กำลังมองหาการลงทุนและการให้บริการประกันชีวิต ซึ่งตลาดการชำระเงินผ่านโมบายของเวียดนาม คาดว่าจะเติบโตสูงถึง 70.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2568

จำนวนคนที่ไม่มีบัญชีธนาคารหรือ

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnam-ranks-second-in-fintech-investment-in-southeast-asia-407593.vov

เวียดนามมียอดเกินดุลการค้าสูงถึง 11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากรายงานตัวเลขสถิติของกรมศุลกากร เปิดเผยว่าเวียดนามมียอดเกินดุลการค้าสูงถึง 11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2562 โดยในเดือนพฤศจิกายน มูลค่าการนำเข้าและการส่งออกรวมแตะระดับ 44.13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 5.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเดือนก่อน ทั้งนี้ ภาคการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในเดือนพฤศจิกายน มีมูลค่าอยู่ที่ 15.17 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 7.7 เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม ทำให้ยอดการส่งออกรวมทั้งประเทศแตะระดับ 165 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ สินค้าที่มีมูลค่าสูงที่สุด ได้แก่ โทรศัพท์และส่วนประกอบ คอมพิวเตอร์ เสื้อผ้า เครื่องจักร และรองเท้า เป็นต้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnam-posts-record-trade-surplus-of-nearly-us11-billion-407464.vov

เวียดนามเผยยอดส่งออกยาง 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 62

จากข้อมูลของกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่าในช่วงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน เวียดนามมีรายได้จากการส่งออกยางอยู่ที่ 2.02 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นปริมาณ 1.5 ล้านตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.6 ในแง่ของมูลค่า และ 8.1 ในแง่ของปริมาณ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ปริมาณการส่งออกยาง 200,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.3 และ 16.2 เมื่อเทียบกับปีก่อน ประกอบกับราคาส่งออกที่เพิ่มสูงขึ้นอยู่ในระดับ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ทั้งนี้ เวียดนามตั้งเป้ายอดส่งออกยางธรรมชาติ (NR) ในปี 2563 จะมากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/rubber-exports-top-2-billion-usd-in-11-months-407445.vov

การค้าระหว่างกัมพูชาและเวียดนามเพิ่มขึ้น 13.8%

การค้าระหว่างกัมพูชาและเวียดนามมีมูลค่าถึง 4.4 พันล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 13.8% จากเดือนมกราคมถึงตุลาคม โดยการเพิ่มขึ้นของอัตราการเติบโตใกล้เคียงกับเป้าหมายของรัฐบาล ซึ่งทั้งสองประเทศมีเป้าหมายที่จะเพิ่มปริมาณการค้าให้ถึง 5 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2020 โดยหอการค้าเวียดนามและหอการค้ากัมพูชาร่วมกันจัดเวทีธุรกิจในกรุงพนมเปญ ซึ่งฟอรัมในครั้งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นการยกระดับความร่วมมือระหว่างสองประเทศ โดยพวกเขาได้หารือเกี่ยวกับประเด็นสำคัญรวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพของการแลกเปลี่ยนการค้าและการปกป้องผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายขององค์กร ซึ่งเวียดนามรายงานว่าขณะนี้มีโครงการลงทุน 214 แห่ง ในกัมพูชาด้วยการลงทุนมูลค่ารวมกว่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ สิ่งนี้ทำให้เวียดนามเป็นผู้ลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับห้าในกัมพูชา ขณะเดียวกันกัมพูชามีโครงการลงทุน 21 โครงการในเวียดนามด้วยมูลค่าการลงทุนเกือบ 64 ล้านเหรียญสหรัฐติดอันดับ 54 ใน 132 ประเทศที่ลงทุนในประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50669272/kingdoms-trade-with-vietnam-rises-13-8/

เวียดนามเผยยอดการส่งออกผักและผลไม้ ลดลงเล็กน้อย

จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่ามูลค่าการส่งออกผักและผลไม้ของเวียดนามลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ด้วยมูลค่า 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน ปี 2562 โดยยอดการส่งออกลดลงดังกล่าว เป็นผลมาจากยอดขายของแก้วมังกรลดลงร้อยละ 9 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 31 ของมูลค่าการส่งออกผลไม้รวม, ทุเรียน (ลดลง 17.4%), มะพร้าว (ลดลง 35%), ลำไย (ลดลง 56%) และแตงโม (ลดลง 26.4%) เป็นต้น ทั้งนี้ สำนักงานผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและพัฒนาตลาด ระบุว่าการส่งออกไปยังจีนลดลงอย่างมาก ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ร้อยละ 66.8 ของมูลค่าการส่งออกผักและผลไม้รวม ทางด้านยอดการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้นั้น ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น แต่ว่ายังไม่เพียงพอที่จะชดเชยการลดลงของตลาดจีนได้

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/fruit-vegetables-exports-see-slight-decrease-407397.vov

Hoa Phat Steel Pipe ส่งออกท่อเหล็กพุ่งสูงขึ้น 22.3% ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 62

บริษัทฮว่า ฟ้าด กรุ๊ป (Hoa Phat Group) ได้แตกธุรกิจท่อเหล็กเป็นบริษัทฮว่า ฟ้าด สตีลไพพ์ จำกัด ระบุว่าปริมาณการส่งออกท่อเหล็กอยู่ที่ 17,000 ตัน ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2562 เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ อเมริกาเหนือ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย และละตินอเมริกา เป็นต้น ซึ่งในเดือนพฤศจิกายน บริษัทฯได้จำหน่ายท่อเหล็กกว่า 72,500 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.6 เมื่อเทียบกับปีก่อน ทำให้บริษัทฯนั้นเป็นซัพพลายเออร์ผลิตท่อเหล็กรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม และมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ร้อยละ 31 ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดการขายท่อเหล็กอยู่ที่ 750,000 ตัน ในตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ ภายในปี 2562 และมีอัตราการเติบโตร้อยละ 10 ในปี 2563

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/hoa-phats-steel-pipe-export-surges-223-pct-in-11-months-407398.vov

‘กรุงฮานอย’ เป็นเมืองที่ดึงดูดเงินลงทุนจากต่างชาติมากที่สุด ในช่วง 11 เดือนแรกปี 62

จากข้อมูลของกระทรวงการวางแผนและการลงทุนเวียดนาม เปิดเผยว่าฮานอยยังคงเป็นเมืองที่ดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศมากที่สุดในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2562 ด้วยมูลค่า 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ของการลงทุนจากต่างชาติรวม โดยตัวเลขดังกล่าว มีมูลค่าสูงกว่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้วอยู่ที่ 6.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ เหตุผลที่นักลงทุนต่างชาติถึงเลือกเข้ามาลงทุนในฮานอย เนื่องมาจากโครงสร้างพื้นฐานที่ดี ความพร้อมของเขตอุตสาหกรรม และการขนส่งที่สะดวก ทำให้กรุงฮานอยเป็นหนึ่งในเมืองหลวงศูนย์กลางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม การค้าและบริการ รวมไปถึงการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของประชากร ทั้งนี้ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ เป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม โดยในปีนี้ มีมูลค่าการลงทุนจากต่างชาติอยู่ที่ 7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าจะมีมูลค่าสูงเพิ่มขึ้นถึง 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/569661/ha-noi-attracts-highest-fdi-in-11-months.html#PcSlgw4fY54QgWt6.97

การลงทุนจากต่างประเทศพุ่งสูงขึ้น ในอุตสาหกรรมไม้แปรรูปเวียดนาม

จากรายงานของสมาคมไม้แปรรูป และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากไม้เวียดนาม เปิดเผยว่าโครงการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ยังคงเป็นส่วนสำคัญในการเติบโตของอุตสาหกรรมไม้แปรรูปของเวียดนาม โดยในปีที่แล้ว มีผู้ประกอบการต่างชาติกว่า 529 ราย ที่มีมูลค่าการส่งออกราว 3.96 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 46.7 ของการส่งออกทั้งอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ในปัจจุบัน ยังมีบริษัทต่างชาติอื่นๆ อีกมากที่ให้บริการจัดเตรียมวัตถุดิบ เพื่อป้อนเข้าสู่บริษัทแปรรูปไม้และให้บริการด้านการขนส่งอีกด้วย ประกอบกับค่าจ้างแรงงานถูก การเข้าถึงวัตถุดิบได้ง่าย ความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน และอัตราภาษี เป็นต้น เนื่องมาจากข้อตกลงการค้าเสรี ส่งผลให้อุตสาหกรรมดังกล่าวดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ ทั้งนี้ สงครามการค้าสหรัฐฯและจีน จะสร้างโอกาสใหม่ของนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาทำธุรกิจในอุตสาหกรรมไม้แปรรูปของเวียดนาม

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/569605/foreign-investment-increases-in-wood-processing-industry.html#d7SY8bmUk5U1KudL.97

สปป.ลาว – เวียดนามส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี

สปป.ลาวและเวียดนามได้หารือเกี่ยวกับแผนการความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว มีวัตถุประสงค์เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้นและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรมและท่องเที่ยว ต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยวเวียดนาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และท่องเที่ยวสปป.ลาว กล่าวว่าทั้งสองประเทศมุ่งเน้นที่การแลกเปลี่ยนบทเรียนและข้อมูลในด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ได้ขอให้เวียดนามให้ความช่วยเหลือป่าสงวนแห่งชาติหินหนามหน่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก รวมทั้งการฝึกอบรมในเวียดนามเพื่อยกระดับทักษะของเจ้าหน้าที่สปป.ลาว เพิ่มการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว เรียนรู้บทเรียนโดยใช้เทคโนโลยีและการสื่อสารล่าสุดและความร่วมมือในโครงการก่อสร้างโรงเรียนศิลปะแห่งชาติ ที่ผ่านมาทั้งสองประเทศยังได้แลกเปลี่ยนบทเรียนในด้านต่างๆ อีกทั้งได้มีการวางแผนที่จะทำโปรโมชั่นการท่องเที่ยวร่วมกัน ปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองและตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานแหล่งท่องเที่ยวเพื่อต้อนรับผู้มาเยือน ที่มา:http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos_Vietnam_265.php