รัฐบาลเวียดนามวางแผนกู้ยืมเงิน 20 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2563

จากรายงานของสมัชชาแห่งชาติสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เปิดเผยถึงหนี้สาธารณะในปีนี้ และงบประมาณปี 2563 แสดงให้เห็นว่ามีการวางแผนระดมทุน 460 ล้านล้านด่อง เพื่อชดเชยการขาดดุล และการชำระคืนเงินต้น โดยรองนายกรัฐมนตรี Vuong Dinh Hue กล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่าการกู้ยืมเงินเป็นส่วนหนึ่งของแผนงบประมาณ (ระยะเวลา 5 ปี) และแผนงบประมาณประจำปี ในการชำระคืนเงินต้นและเพื่อลดการขาดดุล ซึ่งในช่วงปี 2558-2559 หนี้สาธารณะเวียดนามอยู่ที่ 64.8% ของ GDP ขณะที่ อัตราการชำระเงินนั้นสูงกว่าระดับความปลอดภัย (25%) แตะระดับที่ 27.6% ของงบประมาณภาครัฐทั้งหมด แต่ในปัจจุบัน อัตราหนี้สาธารณะต่อ GDP ลดลงเหลือร้อยละ 56.1 ทั้งนี้ การกู้ยืนเงินกว่า 460 ล้านล้านด่อง ทางคณะกรรมการฯ มองว่าการกู้ยืมเงินดังกล่าว จะต้องทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ขยายตัวอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ทางสถาบัน HIDS ระบุว่ารัฐบาลจำเป็นต้องควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข็มงวด เพื่อลดการขาดดุลงบประมาณ

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnamese-government-plans-to-borrow-us20-billion-in-2020-405834.vov

เวียดนามเผยปริมาณนำเข้ารถยนต์ 120,000 คัน ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้

จากข้อมูลของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าปริมาณนำเข้ารถยนต์ของเวียดนามอยู่ที่ 120,000 คัน คิดเป็นมูลค่า 2.66 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2562 ซึ่งตัวเลขดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงปริมาณรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 125 และร้อยละ 122 ของมูลค่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีปริมาณการนำเข้า 13,000 คัน และมูลค่า 273 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ หน่วยงานกรมศุลกากร ระบุว่าในช่วงเดือนตุลาคม มีการลักลอบข้ามพรมแดน และในระหว่างวันที่ 16 ก.ย. – 15 ต.ค. กรมศุลกากรได้ตรวจสอบคดีลักลอบกว่า 1,396 คดีความ คิดเป็นมูลค่าราว 169.48 พันล้านด่อง (7.29 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnam-imports-120000-cars-in-ten-months-405838.vov

เวียดนามเผยเม็ดเงิน FDI ไปยังนครด่งนาย ตรงตามเป้าที่ตั้งไว้

จากข้อมูลของกระทรวงการวางแผนและการลงทุนเวียดนาม เปิดเผยว่าจังหวัดด่งนายได้รับเงินทุนโดยตรงจากต่างชาติไหลเข้ากว่า 1.46 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วยโครงการ FDI ประมาณ 190 โครงการ ในช่วงตั้งแต่เดือนมกราคม-ตุลาคม นับว่าเกินกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ (46%) ซึ่งทางกระทรวงฯ ได้อนุมัติโครงการใหม่กว่า 93 โครงการ ด้วยเงินทุนจดทะเบียน 800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ โครงการปรับเพิ่มงบการลงทุน 670 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยโครงการส่วนใหญ่ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาคอุตสาหกรรม ได้แก่ โครงการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ จังหวัดดังกล่าวได้รับเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ มูลค่า 29.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จำนวนโครงการ FDI 1,447 โครงการ ในปัจจุบัน ประเทศเกาหลีใต้ ไต้หวัน และญี่ปุ่น เป็นนักลงทุนรายใหญ่ในจังหวัดด่งนาย

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/fdi-inflow-to-dong-nai-province-breaks-target-405777.vov

ดัชนีอุตสาหกรรมพุ่งสูงขึ้น 9.5% ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้

จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าดัชนีการผลิตทางอุตสาหกรรม (IIP) เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2562 เป็นผลมาจากความสำเร็จของสาขาอุตสาหกรรมการแปรรูปและการผลิต โดยภาคอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ การผลิตโลหะ (34.3%), แร่ถ่านหิน น้ำมันกลั่น (31.8%) และผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก (14.3%)  ในขณะที่ บางภาคอุตสาหกรรมมีการผลิตลดลง เช่น เคมีภัณฑ์และการผลิตยา (3.4%) และมอเตอร์ไซต์ (6.3%) อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ตัวเลขการจ้างงานในสาขาอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3, 2.0 เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้วและปีที่แล้ว

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/tenmonth-industrial-production-index-rises-95-percent-405754.vov

เวียดนามเผยยอดส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม 40 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีนี้

อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มเวียดนาม มีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายของยอดการส่งออก 40 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีนี้ แม้ว่าบางตลาดจะเผชิญกับปัญหาอยู่ สำหรับผู้ผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มรายใหญ่ของเวียดนาม (Vietnam National Garment and Textile Group : Vinatex) เปิดเผยถึงผลประกอบการของยอดการส่งออก 29.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ โดยทางบริษัทพยายามผ่านอุปสรรคของภาวะเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลกระทบทางด้านราคาสินค้าที่ลดลงอย่างมาก เนื่องมาจากสถานการณ์สงครามการค้า แต่สถานการณ์ปัจจุบันเริ่มกลับมาฟื้นตัวขึ้น ทำให้ลูกค้าหันมาสนใจมากขึ้น ขณะที่ ราคาสินค้ากลับมาฟื้นตัวเช่นกัน ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ คาดว่าจะได้รายรับ 9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งธุรกิจให้ความสำคัญในการออกแบบวัสดุที่เหมาะสมกับคนเวียดนาม และสร้างความมั่นใจในเรื่องของคุณภาพสินค้า เพื่อให้มีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/textile-and-garments-likely-to-hit-40b-in-exports-this-year-405723.vov

เวียดนามเผยผู้ประกอบการก่อตั้งธุรกิจกว่า 12,000 แห่ง ในเดือนตุลาคม

จากข้อมูลของสำนักสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการก่อตั้งธุรกิจอยู่ที่ 12,182 แห่ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของเดือนที่แล้ว โดยธุรกิจที่ก่อตั้งใหม่มีเงินทุนที่จดทะเบียนรวม 6.19 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน และมีการจ้างแรงงาน 94,700 คน ในขณะที่ ธุรกิจที่ล้มเลิกกิจการมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก 5,012 แห่ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 84.5 และ 98.0 เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้วและปีที่แล้ว ทั้งนี้ ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2562 เวียดนามมีผู้ประกอบการที่จดทะเบียนใหม่ 114,400 แห่ง ด้วยเงินทุนจดทะเบียนรวมมากกว่า 61.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และจำนวนการจ้างแรงงานกว่า 1 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4, 28.5 และ 11.0 ตามลำดับ

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/over-12000-businesses-set-up-in-october-405719.vov

“ภาคเอกชน”แรงขับเคลื่อนหลักของระบบเศรษฐกิจ

จากการประชุมที่จัดขึ้นโดยสถาบัน Central Institute for Economic Management (CIEM) ณ วันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา เปิดเผยว่าเศรษฐกิจมหภาคยังคงมีเสถียรภาพ, อุตสาหกรรมท้องถิ่นที่ขยายตัวได้ดี โดยสาขาอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปยังคงเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนการเติบโตเศรษฐกิจ ส่วนภาคการค้าระหว่างประเทศนั้น เวียดนามเกินดุลการค้าประมาณ 7.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับ 9 เดือนแรกของปี 2561 ในส่วนของสาขาการส่งออกและการนำเข้านั้น บริษัทลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมีแนวโน้มชะลอตัว ขณะที่ ภาคเอกชนเป็นเครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจเวียดนาม อย่างไรตาม เวียกนามต้องเผชิญกับความท้าทายของเศรษฐกิจชุมชน และคาดว่าสาขาอุตสาหกรรมเหมืองแร่จะเป็นภัยคุกคามต่อสภาพแวดล้อม นอกจากนี้ ทางสถาบันฯ แนะนำให้ปฏิรูปเศรษฐกิจมหภาค การปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการทำธุรกิจ และควรให้ความสำคัญกับคุณภาพสินเชื่อ

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/private-sector-main-driving-force-for-economic-growth-405492.vov

ไต้หวันเป็นผู้บริโภคกุ้งรายสำคัญในเวียดนาม

จากรายงานสถิติของศูนย์การค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่าเวียดนามเป็นผู้ส่งออกกุ้งรายใหญ่ อันดับ 2 ของบรรดาซัพพลายเออร์ทั่วโลก ไปยังตลาดไต้หวัน (จีน) ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 โดยมูลค่าการส่งออกกุ้งไปยังไต้หวันอยู่ที่ 41.9 ล้านเหรียญหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นับว่าขยายตัวได้ดีที่สุด เนื่องมาจากผู้บริโภคชาวไต้หวันนิยมกุ้งกุลาดำแช่แย็นแช่แข็ง ราคาอยู่ที่ 6-8 เหรียญสหรัฐฯต่อกิโลกรัม นอกจากนี้ สินค้าสัตว์น้ำประเภทอื่นๆ ต่างได้รับความนิยมเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าการส่งออกกุ้งอยู่ในทิศทางที่เป็นบวก แต่เวียดนามส่งออกกุ้งไปยังไต้หวันนั้น ไม่ได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นตามที่คาดหวังไว้ เป็นผลมาจากอัตราภาษีที่สูงขึ้นร้อยละ 20 รวมไปถึงกฎระเบียบที่เข็มงวดในด้านความปลอดภัยของอาหารและมาตรฐานสุขอนามัย

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/taiwan-emerges-as-largest-consumer-of-vietnamese-shrimp-405481.vov

CPI ประจำเดือนตุลาคม เพิ่มสูงขึ้นในรอบ 3 ปี

จากแถลงการณ์ของสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.59 เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน นับว่าเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยดัชนีฯ ขยายตัว เป็นผลมาจากอุปทานเนื้อหมูลดลง เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดหมูแอฟริกัน, ราคาน้ำมันโลกเพิ่มสูงขึ้น และการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมของการศึกษา เป็นต้น ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) เดือนตุลาคม ขยายตัวร้อยละ 0.15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของเดือนที่ผ่านมา และขยายตัวร้อยละ 1.99 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในขณะที่ ตั้งแต่เดือนมกราคม-ตุลาคม ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเฉลี่ย ขยายตัวร้อยละ 1.92 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/cpi-in-october-shows-threeyear-high-rise-405413.vov

“เกาหลีใต้” เป็นผู้ลงทุนโดยตรงรายใหญ่ในเวียดนาม

จากข้อมูลของสำนักสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2562 เกาหลีใต้เป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุด ด้วยมูลค่าเงินลงทุนรวม 2,752.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 21.5 ของมูลค่าเงินทุนจดทะเบียนใหม่รวม รองลงมาเป็นจีน สิงคโปร์ ฮ่องกง และญี่ปุ่น ตามลำดับ โดยตั้งแต่ต้นเดือนจนถึงวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา รวม 3,094 โครงการใหม่ ด้วยเงินทุนจดทะเบียนมากกว่า 12,833 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.9 สำหรับจำนวนโครงการ และลดลงร้อยละ 14.6 สำหรับมูลค่าเงินทุน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่ นักลงทุนส่วนใหญ่สนใจลงทุนในภาคค้าส่งค้าปลีก ยานยนต์ และภาคเกษตร ป่าไม้ และประมง เป็นต้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/rok-retains-position-as-vietnams-leading-source-of-fdi-405427.vov