MoIT ตอบโต้การทุ่มตลาดผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบสีจากประเทศเกาหลีใต้และจีน

จากข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม (MoIT) เปิดการไต่สวนการทุ่มตลาดสินค้าเหล็กเคลือบสี ที่มีแหล่งกำเนิดจากประเทศเกาหลีใต้และจีน เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในประกาศกระทรวงฯ เรื่อง อัตราการตอบโต้การทุ่มตลาดของสินค้าเหล็กเคลือบสี (ฉบับที่ 3198/ QĐ-BCT) ที่มีผลบังคับใช้กับผู้ประกอบการจีนในอัตรา 2.53% – 34.27% สำหรับผู้ประกอบการเกาหลีใต้ในอัตรา 4.71% – 19.25% ซึ่งการทุ่มตลาดดังกล่าว ส่งผลต่ออุตสาหกรรมผลิตเหล็กในประเทศอย่างมีนัยสำคัญ สังเกตได้จากค่าดัชนีผลผลิตลดลง ได้แก่ ปริมาณการขาย รายได้ กำไร ส่วนแบ่งการตลาด และสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดจะมีผลบังคับอย่างเป็นทางการ ภายในวันที่ 24 ตุลาคมของปีนี้ โดยฝ่ายที่เกี่ยวข้องสามารถยื่นคำร้องต่อกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า เพื่อดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/moit-imposes-antidumping-duties-on-colourcoated-steel-products-of-rok-and-china-405375.vov

เวียดนามเผยการส่งออกของภาคการเกษตรกว่า 33 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วง 10 เดือนของปี 62

จากรายงานทางสถิติของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่าการส่งออกของภาคเกษตร ป่าไม้ และประมง มีมูลค่ารวม 33.18 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2562 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เวียดนามจำเป็นต้องนำเข้าสินค้าเกษตรกรรมราว 25.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 0.5 ต่อปี โดยภาคเกษตร ป่าไม้ และประมงเกินดุลการค้าอยู่ที่ 9.04 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.8 ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว การส่งออกเวียดนามมีอัตราการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง เป็นผลมาจากการซื้อขายผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากไม้ ในขณะเดียวกัน มูลค่าการส่งออกผักและผลไม้ลดลงร้อยละ 1.3 เนื่องมาจากกฎระเบียบที่เข็มงวดของตลาดจีนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีตกค้าง และข้อกำหนดความปลอดภัยของอาหารและบรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้ ทางกระทรวงฯ คาดว่าสถานการณ์การค้าทั่วโลกยังคงชะลอตัว และอุปสรรคทางการค้า จะส่งผลให้เกิดแรงกดดันต่อการส่งออกสินค้าเกษตรเวียดนามไปยังจีน รวมไปถึงราคาสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มลดลง

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/agroforestryaquatic-exports-hit-over-us33-billion-in-ten-months-405376.vov

เวียดนามเผยราคาส่งออกชาพุ่งสูงขึ้นในตลาดจีน

จากรายงานทางสถิติของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 ราคาส่งออกกาแฟไปตลาดจีนเฉลี่ยอยู่ที่ 3,384 เหรียญสหรัฐฯต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้นร้อยละ 66.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งในช่วงครึ่งแรกของเดือนตุลาคม ปริมาณการส่งออกชาไปยังต่างประเทศโดยรวม 5,800 ตัน คิดเป็นมูลค่า 9.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 และ 0.4 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ตามลำดับ ถึงแม้ว่าตัวเลขจะขยายตัว แต่ราคาส่งออกเฉลี่ยลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 1,686 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ในขณะที่ ช่วงต้นปีจนถึงเดือนตุลาคมในปีนี้ เวียดนามส่งออกชา 175.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.8 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับราคาส่งออกโดยเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.8 อยู่ที่ 1,753 ต่อตัน โดยประเทศปากีสถานยังคงเป็นผู้นำเข้าชารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ด้วยความต้องการชาของขาวปากีสถานเพิ่มขึ้น

ที่มา :  https://english.vov.vn/economy/tea-export-price-enjoys-drastic-rise-in-chinese-market-405305.vov

EVFTA ส่งผลให้บริษัทโลจิสติกส์ เผชิญกับความท้าทายและโอกาส

ผู้ประกอบการโลจิสติกส์เวียดนามจำเป็นต้องพัฒนาในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น เพื่อที่จะพยุงธุรกิจ เมื่อข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-สหภาพยุโรป (EVFTA) มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะทำให้กระตุ้นอุปสงค์ด้านโลจิสติกส์เพิ่มมากขึ้น โดยคุณ Thi Thu Trang, ผู้อำนวยการหอการค้าเวียดนาม ระบุว่าเมื่อผลของข้อตกลงการค้าเสรี EVFTA มีผลบังคับใช้ จะเปิดโอกาสแก่บริษัทบริการโลจิสติกส์ของสหภาพยุโรป ทำให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น แต่สามารถนำเงินทุน เทคโนโลยีใหม่ๆ และโอกาสในการร่วมมือของธุรกิจเพิ่มมากขึ้น โดยต้นทุนโลจิสติกส์เวียดนาม คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 21-25 ของ GDP นอกจากนี้ โครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ของประเทศยังไม่พร้อม ส่งผลต่อความสามารถในการกระจายสินค้า และภาวการณ์แข่งขันของสินค้าเวียดนามลดลง

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/evfta-to-bring-logistics-firms-both-opportunities-and-challenges-405316.vov

เวียดนามดึงดูด FDI มากกว่า 29 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วง 10 เดือนปี 2562

จากข้อมูลของกระทรวงการวางแผนและการลงทุนเวียดนาม (MPI) เปิดเผยว่าเวียดนามดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มากกว่า 29.11 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วง 10 เดือนของปี 2562 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยตัวเลขดังกล่าว มูลค่าราว 12.38 พันล้านเหรียญฯ ใช้สำหรับโครงการใหม่ประมาณ 3,094 โครงการ และอีก 5.47 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ใช้สำหรับโครงการที่มีอยู่ในปัจจุบัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 83.6 ของมูลค่าในปีที่แล้ว โดยภาคอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปยังคงเป็นภาคที่ดึงดูดของนักลงทุนต่างชาติมากที่สุด รองลงมาภาคอสังหาริมทรัพย์ และภาคการค้าปลีกค้าส่ง ตามลำดับ ในขณะที่ ประเทศฮ่องกง (จีน) เป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม รองลงมาเกาหลีใต้ และสิงคโปร์ ตามลำดับ รวมไปถึงเมืองฮานอยที่ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมากที่สุด รองลงมานครโฮจิมินห์ บินห์ดอง ด่งนาย และบัคนินห์ ตามลำดับ

ที่มา :  https://english.vov.vn/economy/vietnam-attracts-over-29-billion-usd-in-fdi-in-ten-months-405251.vov

ยูนิโคล่จะได้รับกำไอย่างมากในเวียดนาม เทียบกับ HM และ Zara ได้หรือไม่

ยูนิโคล่ (Uniqlo) เล็งเห็นเวียดนามเป็นตลาดสำคัญในการเข้าถึงกลุ่มประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตาม แบรนด์คู่แข่งอย่าง Zera, H&M, Elise และ Hnoss จะท้าทายกับแบรนด์ระดับโลกของสัญชาติญี่ปุ่น โดยยูนิโคล่จะเริ่มตั้งร้านแห่งแรกในเวียดนาม อยู่ที่ Parkson Saigon Tourist Plaze ในย่านกลางเมืองโฮจิมินห์ และการเข้ามาทำตลาดของยูนิโคล่นั้น จะทำให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดผู้บริโภคที่มีอยู่กว่า 95 ล้านคน ซึ่งจากข้อมูลของ Virac, Mitra Adiperkasa (MAP) ระบุว่ากลุ่มแบรนด์ ได้แก่ Zara, Pull & Beer, Staradivarius และ Massimo Dutti ล้วนเป็นผู้นำในตลาดค้าปลีกแฟชั่นเวียดนาม นับว่าเวียดนามเป็นตลาดขนาดใหญ่อันดับสองของบริษัท รองลงมาอินโดนีเซีย นอกจากนี้ อุตสาหกรรมแฟชั่นเวียดนามในปี 2561 มีมูลค่ารวมประมาณ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วยอัตราการเติบโตร้อยละ 10 ต่อปี

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/will-uniqlo-earn-big-money-in-vietnam-like-hm-and-zara-405276.vov

การทำประมงที่ผิดกฎหมายต้องกำจัดให้หมดไป : รองนายกรัฐมนตรี

รองนายกรัฐมนตรี Trinh Dinh Dung ได้ตรวจสอบการทำประมงผิดกฎหมายขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU) และสั่งการหน่วยงาน/กระทรวงท้องถิ่นให้รีบเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ในจังหวัดทางตอนใต้เกียนซางเวียดนาม (Kien Giang) ณ วันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยในเดือนตุลาคม 2560 คณะกรรมการธิการยุโรป (EC) ประกาศให้ใบเหลือง หรือเป็นการเตือนว่าประเทศนั้นมีความเสี่ยงที่จะเป็นประเทศที่ไม่ให้ความร่วมมือในการต่อต้านการทำประมง IUU ในขณะที่ เดือนกันยายนของปีนี้ มีเรือประมงที่จดทะเบียน 9,858 ลำ และได้ทำการบันทึกสถิติจับสัตว์น้ำทั้งหมด 450,593 ตัน ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 76.24 ของยอดเป้าหมายในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีการละเมิดการประมงที่ผิดกฎหมายอยู่ 52 ครั้ง ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และทางหน่วยงานรัฐฯที่เกี่ยวข้องพยายามควบคุม/ตรวจสอบการทำประมง และจัดการทำประมงผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัด

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/iuu-fishing-must-be-eradicated-deputy-pm/162556.vnp

เวียดนามเผยการส่งออกกุ้งไปสหภาพยุโรปลดลงอย่างมาก

จากรายงานทางสถิติของสมาคมผู้ส่งออกอาหารทะเลและผู้ผลิตเวียดนาม (VASEP) เปิดเผยว่าเวียดนามส่งออกกุ้งมูลค่า 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ขณะที่ การส่งออกกุ้งไปสหภาพยุโรปลดลงร้อยละ 20.8 นับว่าเป็นลดลงอย่างมาก เป็นผลมาจากราคากุ้งดิบลดลง ประกอบกับปัจจัยต่างๆ ได้แก่ สินค้าคงเหลือสูงในตลาดหลากหลาย และการนำเข้าวัตถุดิบกุ้งจากประเทศอื่นเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคานำเข้ากุ้งต่ำกว่าราคาในประเทศเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยในเดือนกันยายนที่ผ่านมา เวียดนามส่งออกกุ้งมากกว่า 61 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปสหภาพยุโรป ลดลงร้อยละ 23 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่ ตลาดจีน สถานการณ์มีแนวโน้มเป็นบวก ด้วยมูลค่า 382.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.2 ในช่วงหลายที่ที่ผ่านมา

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/shrimp-exports-to-eu-suffer-steep-decline-405144.vov

อุตสาหกรรมรถยนต์เวียดนามจำเป็นต้องยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน

จากการประชุมโดยศูนย์บริหารเศรษฐกิจเวียดนาม (Central Institute for Economic Management :CIEM) ณ กรุงฮานอย ในวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา กล่าวถึงประเด็นในการแก้ไขปัญหาหรือพัฒนานโยบายภาษีให้ครอบคลุม และการส่งเสริมทางด้านการเงิน เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ โดยอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์เป็น 1 ใน 6 อุตสาหกรรมหลักของเวียดนาม และจากข้อมูลทางสถิติของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ระบุว่าธุรกิจรถยนต์ในประเทศมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปี่ผ่านมา ด้วยปริมาณรถยนต์ 250,000 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ในช่วงปี 2558-2559 ในขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญของสถาบันยุทธศาสตร์การเงินและรองประธานสมาอุตสาหกรรม ระบุว่าจำเป็นที่ต้องให้ความสำคัญในการวางแผน เพื่อจะส่งเสริมธุรกิจอย่างถูกต้อง และเสนอให้ยกเว้นภาษีการบริโภคพิเศษ สำหรับสินค้าผลิตในประเทศ รวมไปถึงส่งเสริมสินเชื่อเพิ่มมากขึ้นแก่ผู้ประกอบการ SMEs

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/domestic-automobile-industry-in-need-of-policies-to-raise-competitiveness-405092.vov

เวียดนามนำเข้าสุกรอย่างมาก เนื่องจากไข้หวัดหมูระบาดหนัก

จากข้อมูลของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าในช่วงกลางเดือนตุลาคมของปีนี้ นครโฮจิมินห์นำเข้าเนื้อหมูกว่า 10,820 ตัน คิดเป็นมูลค่า 21.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 155 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งประเทศบราซิล สหรัฐอเมริกาและโปแลนด์ เป็นผู้ส่งออกเนื้อหมูรายใหญ่ แบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ ได้แก่ กระดูก และคอหมู ไปยังตลาดเวียดนาม ในราคาที่ต่ำกว่าในประเทศ อย่างไรก็ตาม เวียดนามต้องการเนื้อหมูสดมากกว่า ดังนั้น การนำเข้าเนื้อแช่แข็งจึงนิยมใช้สำหรับอาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก เป็นต้น โดยมีเพียงธุรกิจไม่กี่แห่งที่สามารถนำเข้าเนื้อหมูที่มีคุณภาพในการสต๊อกสินค้าได้ นอกจากนี้ จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่าในช่วงเดือนมกราคม-กันยายน ในปีนี้ เวียดนามนำเข้าเนื้อหมู 14,824 ตัน หรือคิดเป็นมูลค่าราว 220 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และการสต๊อกเนื้อหมูในประเทศลดลงร้อยละ 19 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

ที่มา :  https://english.vov.vn/economy/imported-pork-floods-vietnam-after-swine-flu-cull-405080.vov