เวียดนามนำเข้าสินค้าจากสหรัฐอเมริกา พุ่งสูงขึ้น

จากรายงานของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562 มูลค่าการนำเข้าสินค้าของเวียดนาม 8.27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า หากจำแนกรายสินค้านำเข้าสำคัญของเวียดนาม ระบุว่าคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 49 ตามมาด้วยฝ้าย มูลค่า 978 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.1 พลาสติก ส่วนประกอบเครื่องจักรกล อาหารสัตว์ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น ในขณะเดียวกัน กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า เผยว่าเวียดนามนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะสินค้าเกษตร และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/523601/vn-imports-of-us-goods-shoot-up.html

ผู้ประกอบการเวียดนามลงทุนในต่างประเทศ 278 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

จากรายงานของกระทรวงการวางแผนและการลงทุน (MPI) เปิดเผยว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562 มูลค่าการลงทุนของเวียดนามไปยังต่างประเทศอยู่ที่ 278 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กว่า 30 ประเทศ โดยประเทศที่เป็นจุดสนใจของนักลงทุนเวียดนาม คือ ประเทศสเปน ด้วยมูลค่าการลงทุนรวม 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 22 ของการลงทุนรวม รองลงมาสหรัฐอเมริกา ด้วยมูลค่าการลงทุนรวม 46 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (16.5 ของการลงทุนรวม) นอกจากนี้ นับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายนที่ผ่านมา นักลงทุนเวียดนามสนใจเข้ามาลงทุนภาคการค้าปลีกมากที่สุด ด้วยมูลค่ารวม 94.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือร้อยละ 34 ของเงินลงทุนรวม ตามมาด้วยภาควิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และภาคการเงิน ธนาคาร ตามลำดับ

ที่มา: https://vietnamnews.vn/economy/523554/vietnamese-firms-invest-278-million-abroad.html#MLvLyU19dc4FKfFH.97

เวียดนามนำเข้ายานยนต์เพิ่มขึ้น 3 เท่า ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562

จากรายงานของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562 เวียดนามนำเข้ารถยนต์ประมาณ 1.94 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 319 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งคนวงในของอุตสาหกรรมยานยนต์ กล่าวถึงสาเหตุที่เวียดนามนำเข้ารถยนต์พุ่งสูงขึ้น เป็นผลมาจากการประสบภัยน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว นอกจากนี้ ทางรัฐบาลได้ออกกฎข้อบังคับการนำเข้ารถยนต์ที่เข็มงวดมากขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าได้รับคุณภาพที่ดี และแหล่งที่มาของสินค้าอย่างถูกต้อง โดยในเดือนนี้ ยอดขายรถยนต์คาดว่าลดลง เนื่องมาจากอยู่ในช่วงเดือนสาร์ทจีน (Ghost Month) ทำให้คนเวียดนามหลีกเลี่ยงการจับจ่ายใช้สอยสินค้าใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงโชคร้าย ด้านสถิติการนำเข้ารถยนต์ ระบุว่าในปีที่แล้ว เวียดนามนำเข้ารถยนต์ 72,650 คัน ลดลงร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561

ที่มา: https://e.vnexpress.net/news/business/industries/vietnam-car-imports-triple-in-first-seven-months-3962602.html

เวียดนามผลักดันกฎหมายให้ชาวต่างชาติเดินทางมาเกาะฟูโกว๊ก โดยไม่ต้องใช้วีซ่าเป็นระยะเวลา 30 วัน

จากรายงานของกระทรวงความมั่งคงสาธารณะเวียดนาม (MPS) เปิดเผยว่าทางกระทรวงฯ กำลังผลักดันกฎหมายที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาบนเกาะฟูโกว๊ก (Phu Quoc) โดยไม่ต้องใช้วีซ่าเป็นเวลา 30 วัน ซึ่งข้อเสนอดังกล่าว อยู่ในช่วงร่างกฎหมายในการเดินทางเข้าเมือง (กฎหมายลำดับที่ 47) ซึ่งจุดประสงค์ของกฎระเบียบดังกล่าว เพื่อยับยั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เห็นผลประโยชน์จากกฎระเบียบนี้ และเข้ามาทำงานในประเทศเวียดนาม โดยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน นอกจากนี้ จากรายงานของกรมการท่องเที่ยวเวียดนาม ระบุว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางไปยังเกาะฟูโกว๊กมากกว่า 2.2 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 36 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/523475/proposal-to-legalise-30-day-visa-exemption-for-foreigners-entering-phu-quoc-island.html#0TyOxkYxeydHwew4.97

เวียดนามเผยจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ 79,300 ราย ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562

จำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562 พบว่า มีผู้ประกอบการธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ จำนวน 79,300 ราย ด้วยมูลค่าการจดทะเบียนรวม 42.97 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 และ 29.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ตามลำดับ ซึ่งทุนจดทะเบียนเฉลี่ยการจัดตั้งของแต่ละบริษัทใหม่อยู่ที่ 12.6 พันล้านด่อง เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.9 นับว่าอยู่ในระดับสูงที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หากจำแนกโครงสร้างเศรษฐกิจ พบว่าภาคการบริการมีสัดส่วนของจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่มากที่สุด ด้วยจำนวนธุรกิจกว่า 56,600 ราย รองลงมาภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้าง 21,600 ราย และภาคเกษตรกรรม ป่าไม้ และประมง 1,100 ราย ตามลำดับ โดยภูมิภาคที่มีสัดส่วนของจำนวนการจัดตั้งธุรกิจใหม่มากที่สุด คือ ภาคกลาง และที่ราบสูงของเวียดนาม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/79300-new-businesses-set-up-in-seven-months/157104.vnp

กัมพูชาและเวียดนามรวมมือพัฒนาเมืองอัจฉริยะ

กัมพูชาและเวียดนามตกลงที่จะร่วมมือกันพัฒนาเมืองที่ชาญฉลาด โดยการประชุมระหว่างกัมพูชาและเวียดนามได้พูดถึงเรื่อง กรุงพนมเปญพัฒนาขึ้นอย่างมาก แต่ต้องเผชิญกับปัญหาการจราจรที่คับคั่งและปัญหาการจัดการขยะที่ต้องได้รับการแก้ไข ซึ่งโฮจิมินห์ก็กำลังประสบกับปัญหาหลายอย่างเช่นเดียวกับที่เป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญที่สุดของเวียดนาม ซึ่งฝ่ายต่างๆระบุว่าความร่วมมือในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะจะมีความสำคัญในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยสมาร์ทซิตี้จะเป็นรูปแบบการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ใช้เทคโนโลยีและข้อมูลเพื่อทำให้การดำเนินงานและชีวิตในเขตเมืองดีขึ้นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เป้าหมายคือการแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เมืองต้องเผชิญรวมถึงการจราจรที่ติดขัด มลภาวะและอาชญากรรมที่มีสูง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50629109/cambodia-vietnam-to-collaborate-in-smart-cities/

กลุ่มอุตสาหกรรมยางเวียดนามมีรายได้และกำไรพุ่งสูงขึ้น

จากรายงานของอุตสาหกรรมยางเวียดนาม (GVR) เปิดเผยว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2562  ธุรกิจของอุตสาหกรรมยางเวียดนามมีรายได้ และกำไรหลังหักภาษี ด้วยมูลค่ารวม 7.6 ล้านล้านด่อง และ 1 ล้านล้านด่อง ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.5 และ 15.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ตามลำดับ โดยกลุ่มธุรกิจของอุตสาหกรรมยางเวียดนามมีข้อได้เปรียบในด้านการพัฒนาวัตถุดิบ และไม้แปรรูปให้มีคุณภาพ โดยบริษัทในเครือกลุ่มอุตสาหกรรมนี้ มีโครงการแปรรูปไม้กว่า 13 โครงการ ที่สามารถผลิตสินค้าทำมาจากไม้ ได้แก่ แผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นปานกลาง (MDF) ไม้อัด และยาง เป็นต้น ซึ่งกลุ่มธุรกิจของอุตสาหกรรมนี้ มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในเขตอุตสาหกรรมพิเศษอย่างต่อเนื่อง ในนิคมอุตสาหกรรม Nam Tan Uyen , Rach Bap และ Thai Binh เป็นต้น นอกจากนี้ ก็มีการพัฒนาทางด้านที่อยู่อาศัย และการบริการ ในนิคมอุตสาหกรรมดังกล่าว

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/523414/rubber-group-sees-both-revenue-and-profit-rise.html#YtS2E50RP8KLJwOb.97

นครเกียนซางอนุมัติโครงการรวม 20 โครงการ ด้วยมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

จากรายงานของคณะกรรมการประชาชนในจังหวัดเกียนซาง เปิดเผยว่าเขตจังหวัดเกียนยาง (Kien Giang) มีมูลค่าการลงทุนกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยโครงการรวม 20 โครงการ ซึ่งการลงทุนดังกล่าว มาจากการได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมการ ซึ่งโครงการลงทุนที่สำคัญ ได้แก่ โครงการขุดเหมืองหินปูน และดินเหนียว รวมทั้งปูนซีเมนต์ เป็นต้น ดำเนินการโดยบริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) ด้วยเงินลงทุนประมาณ 467.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ ทางคณะกรรมการของจังหวัดเกียนซางจะมุ่งเน้นการพัฒนาสภาพแวดล้อมทางด้านธุรกิจและกฎหมายให้สอดคล้องกับนักลงทุนให้รอบด้าน และให้สิทธิประโยชน์ทางด้านนโยบายของภาครัฐ รวมไปถึงหารือกับหน่วยงานท้องถิ่นของจังหวัดในการหาทางแก้ไขกับปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้โครงการดังกล่าวสามารถสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/523409/kien-giang-approves-20-projects-worth-total-2-billion.html#Y7gIoZtx3Ge2ZYqw.97

เวียดนามเผยยอดการส่งออกไม้ ผลิตภัณฑ์ไม้ มีมูลค่ามากกว่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

จากคำแถลงของรองประธานสมาคมผลิตภัณฑ์ไม้แปรรูป และผลิตภัณฑ์ไม้เวียดนาม (The Timber and Forest Product Association of Vietnam) เปิดเผยว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562 ยอดการส่งออกไม้ และผลิตภัณฑ์ไม้ของเวียดนามมีมูลค่ารวมมากกว่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยสหรัฐอเมริกายังคงเป็นตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้รายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ตามมาด้วยญี่ปุ่น จีน และสาธารณรัฐเกาหลี ตามลำดับ ในปัจจุบัน วัตถุดิบการแปรรูปไม้ในประเทศเวียดนาม คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 75 และอีกร้อยละ 25 มาจากการนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งการขยายตัวส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้เวียดนามยังคงสามารในการตั้งเป้าหมายที่กำหนดไว้ คิดเป็นมูลค่ารวม 10.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/523360/wood-and-forest-products-exports-exceed-6b.html#HMjZayWBD2de6ima.97

เวียดนามเกินดุลการค้า 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562

จากรายงานของสำนักงานสถิติเวียดนาม (The General Statistic Office of Vietnam) เปิดเผยว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562 ยอดเกินดุลการค้าของเวียดนามมีมูลค่า 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยการส่งออก ของเวียดนามมีมูลค่า 24 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 88.1 ของรายได้รวมจากการส่งออก ซึ่งสินค้าส่งออกสำคัญที่สุดของเวียดนาม ได้แก่ โทรศัพท์และชิ้นส่วนประกอบ รองลงมาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ และเสื้อผ้า สิ่งทอ ตามลำดับ สหรัฐอเมริกายังคงเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ตามมาด้วยสหภาพยุโรป และจีน ตามลำดับ นอกจากนี้ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เวียดนามมีมูลค่าการนำเข้ารวม 143.34 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ในขณะเดียวกัน จีนยังคงเป็นตลาดนำเข้าสำคัญที่สุดของเวียดนาม ตามมาด้วยสาธารณรัฐเกาหลี และกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน ตามลำดับ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-books-18-billion-usd-trade-surplus-in-seven-months/156949.vnp