‘ลาว-จีน-เมียนมา-ไทย’ เสร็จสิ้นภารกิจร่วมลาดตระเวนแม่น้ำโขง ครั้งที่ 134

หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายจากลาว จีน เมียนมา และไทย สนธิกำลังเพื่อทำการลาดตระเวนร่วมในแม่น้ำโขง ครั้งที่ 134 โดยการลาดตระเวนร่วมครั้งนี้มีเรือ 5 ลำ และเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย 114 นาย จาก 4 ประเทศ ครอบคลุมเส้นทางน้ำเป็นระยะทางกว่า 600 กิโลเมตร โดยปฏิบัติการดังกล่าวใช้เวลา 4 วัน 3 คืน ในระหว่างการลาดตระเวน ประเทศต่าง ๆ มุ่งเน้นไปที่การปราบปรามอาชญากรรมข้ามพรมแดนเพื่อความปลอดภัยและเสถียรภาพริมแม่น้ำ และทำการประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งจัดขึ้นที่แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่แม่น้ำโขง ทั้งสี่ประเทศบรรลุฉันทามติในการร่วมกันต่อสู้กับการฉ้อโกงผ่านระบบโทรคมนาคมและอาชญากรรมข้ามพรมแดนอื่น ๆ รวมถึงกระชับความร่วมมือในอนาคตให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ทั้งนี้ แม่น้ำโขง หรือในจีนเรียกกันว่าแม่น้ำล้านช้าง เป็นแม่น้ำที่สำคัญสำหรับการขนส่งข้ามพรมแดน ทั้งสี่ประเทศได้ดำเนินการลาดตระเวนร่วมกันในแม่น้ำโขงตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2554 เป็นต้นมา

ที่มา : https://english.news.cn/20231027/a22c8b9f0c11468b8a5a696aa43e1758/c.html

สปป.ลาว พิจารณาปรับอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 10% ภายในปี 2567

กระทรวงการคลัง สปป.ลาว กำลังพิจารณาเพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จาก 7% เป็น 10% เพื่อเพิ่มรายได้ของรัฐบาลและสนับสนุนเศรษฐกิจ ซึ่งอัตราดังกล่าวจะเท่ากับอัตราเดิมที่เคยบังคับใช้ในช่วงปี 2553-2564 โดยกระทรวงการคลังได้ชี้ให้เห็นปัจจัยหลายประการที่เอื้อต่อการปรับขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงข้อเท็จจริงที่ว่ามูลค่าปัจจุบันยังไม่มีประสิทธิผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่คาดการณ์ไว้ ขณะนี้จำนวนธุรกิจที่จดทะเบียนภายใต้กฎหมายภาษีมูลค่าเพิ่มมีจำนวนต่ำกว่าคาดการณ์และรัฐบาลจำเป็นต้องเพิ่มรายได้เพื่อลดการขาดดุลงบประมาณ และทำให้สกุลเงินกีบมีเสถียรภาพ ตามการระบุของฝ่ายการเงินของรัฐบาล ทั้งนี้ ร่างกฎหมายใหม่เพื่อเพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม คาดว่าจะแล้วเสร็จในปีนี้ และมีผลบังคับใช้ในต้นปี 2567 นอกจากการปรับขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ยังพิจารณามาตรการอื่นๆ เพื่อปรับปรุงระบบภาษีของประเทศ รวมถึงการเร่งพัฒนากลไกในการคืนภาษีให้กับธุรกิจที่จ่ายไปแทนการยกเว้นภาษี ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการสูญเสียทางการเงินของรัฐบาลผ่านการยกเว้นภาษีพร้อมทั้งให้การสนับสนุนธุรกิจในท้องถิ่น
ที่มา : https://laotiantimes.com/2023/10/27/laos-considers-raising-vat-rate-to-boost-revenue/

สปป.ลาว หารือร่วมเวียดนาม หลังเข้าร่วมประชุม GCC ที่ซาอุดีอาระเบีย

สอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีแห่ง สปป.ลาว หารือทวิภาคีร่วมกับ ฝั่ม มิญ จิ๊ญ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ในวาระเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนกับคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC Summit) ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยทั้งสองฝ่ายให้คำมั่นที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อรักษาและเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างลาวและเวียดนาม ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะผลักดันการดำเนินการตามความตกลงความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์เวียดนาม-ลาวในช่วงปี 2564-2573 ข้อตกลงความร่วมมือทวิภาคีลาวและเวียดนาม ในช่วงปี 2564-2566 และการลงนามข้อตกลงและแผนในด้านต่างๆ อีกทั้งได้ตกลงร่วมกันที่จะมุ่งเน้นการขจัดอุปสรรคสำหรับโครงการความร่วมมือที่สำคัญ เช่น การพัฒนาท่าเรือหวุงอังหมายเลข 1, 2 และ 3 รวมถึงโครงการที่เชื่อมต่อการจราจรทางถนนและทางรถไฟในทิศทางตะวันออก-ตะวันตก เป็นต้น

ที่มา : https://kpl.gov.la/EN/detail.aspx?id=77599

รัฐสภาแห่งชาติ สปป.ลาว เปิดประชุมสมัยสามัญครั้งที่ 6 หารือทางแนวทางแก้ไขปัญหาของประเทศ

สภานิติบัญญัติชุดที่ 9 ของรัฐสภาแห่งชาติ สปป.ลาว จะจัดการประชุมสมัยสามัญครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 31 ต.ค. ถึง 21 พ.ย. 66 เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาของประเทศที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ โดยการประชุมสภาครั้งนี้ มีความพยายามในการหาแนวทางจัดการปัญหาเศรษฐกิจและการเงินที่ย่ำแย่ของประเทศ มีการเปิดอภิปรายกฎหมายใหม่ 2 ฉบับ ที่เกี่ยวข้องกับเขตเศรษฐกิจพิเศษและการสาธารณสุข โดยจะพิจารณาแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการปฏิบัติ การบัญชี การชำระหนี้ กระบวนการยุติธรรม การติดตามตรวจสอบของรัฐสภาและสภาประชาชนประจำจังหวัด นอกจากนี้ จะเปิดโอกาสให้สมาชิกสภาแห่งชาติฯ ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความคืบหน้าของรัฐบาลในดำเนินการตามแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม  งบประมาณ และการเงิน สำหรับปี 2564 ถึง 2568
ที่มา : https://english.news.cn/20231025/8c2c050359ee4bb1b102d9fecd0b9f5e/c.html

ธนาคารบริการทางการเงินที่ชำระด้วยสกุลเงินหยวน (RMB) เปิดทำการแล้วที่ สปป.ลาว

The ICBC Vientiane Branch ได้รับอนุญาตจากจีนในการเปิดให้บริการทางการเงินที่ชำระด้วยสกุลเงินหยวน (RMB) ใน สปป.ลาว โดยจะใช้เป็นช่องทางในการชำระหนี้ข้ามพรมแดนที่รวดเร็ว ปลอดภัย และประหยัดระหว่าง สปป.ลาว กับจีน โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือองค์กรและสถาบันทางการเงินในลาวให้สามารถทำธุรกรรมทางการเงินในรูปสกุลเงินหยวนของจีนได้สะดวกมากขึ้น เพื่อลดต้นทุนอัตราแลกเปลี่ยน อำนวยความสะดวกการลงทุนและการค้าระหว่างสองประเทศ และรักษาเสถียรภาพทางการเงินของ สปป.ลาว และกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ รวมถึงส่งเสริมการค้าระหว่างสองประเทศ

ที่มา : https://english.news.cn/20231025/a6c4ec1bf93e4cf2a17b97ed390e71ac/c.html

ราคาอาหารใน สปป.ลาว ยังมีระดับสูง ส่งผลกระทบต่อภาคครัวเรือน แม้อัตราเงินเฟ้อล่าสุดปรับลดลง

แม้อัตราเงินเฟ้อของลาวเดือนกันยายน 2566 ปรับลดลงจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ 25.69% แต่ราคาสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภคหลายรายการยังมีราคาที่สูงอยู่ เช่น อาหาร สินค้าด้านสุขภาพ สินค้าด้านการศึกษา และราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งกระทบต่อค่าครองชีพของหลายครัวเรือนที่ปรับสูงขึ้นส่วนทางกับรายได้ของครอบครัว ทำให้ผู้บริโภคหลายครัวเรือนในลาวเผชิญกับความยากลำบากในการดำรงชีพ ทั้งนี้ รัฐบาลลาวได้นำเสนอนโยบายและมาตรการหลายอย่างเพื่อรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนและจัดการกับปัญหาเงินเฟ้อสูง รวมถึงการเพิ่มการผลิตภายในประเทศ ดึงดูดนักท่องเที่ยว จำกัดการนำเข้าสินค้าที่สามารถผลิตได้ในประเทศ

ที่มา : https://english.news.cn/20231024/8d14428a3ae34f90b9c8d197be24cb0a/c.html

รัฐบาล สปป.ลาว อัดฉีดเงิน 7.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หวังยกระดับ SMEs แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ

กองทุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) สปป.ลาว ได้อัดฉีดเม็ดเงินราว 1.52 แสนล้านกีบ หรือประมาณ 7.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับช่วยเหลือ SMEs ในลาว เพื่อบรรเทาและแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งอัตราเงินเฟ้อ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ราคาสินค้าที่สูงขึ้น และหนี้ต่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาล สปป.ลาว ยังได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจและการเงินที่ตกต่ำ

ที่มา : https://english.news.cn/20231024/2184a85d8c0a4758b88b6aff83ac8e9e/c.html

สปป.ลาว เตรียมพร้อมดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เติบโตได้ในปี 2567

รัฐบาล สปป.ลาว เร่งให้ความสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะการเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว ทั้งนี้ ในปี 2567 สปป.ลาว ตั้งเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งต่างชาติและชาวลาวเดินทางท่องเที่ยวในลาวอย่างน้อย 4.6 ล้านคน เพื่อสร้างรายได้ประมาณ 712 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใต้แคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวปี 2567 ที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายน อย่างไรก็ตาม จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติช่วง 6 เดือนแรกในปี 2566 ลาว มีจำนวนนักท่องเที่ยวแล้วกว่า 1.7 ล้านคน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวไทย เวียดนาม และจีน

ที่มา : https://english.news.cn/20231022/ab974e5e1aa74b48bbe804b1e4443971/c.html

IMF ชี้การส่งออก-ท่องเที่ยว จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สปป.ลาว โต 4% ในปี 2567

IMF คาดการณ์เศรษฐกิจ สปป.ลาว ปี 2567 แนะให้เร่งเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว การลงทุนจากต่างประเทศ และการส่งออก เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจลาวที่กำลังตกต่ำกลับมาขยายตัวได้ 4% ในปี 2567 อย่างไรก็ตาม IMF แนะเพิ่มเติมเรื่องการควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่ยังมีระดับสูงมากกว่า 25% ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ เสียงสะท้อนของประชาชนท้องถิ่นของลาว ได้สะท้อนถึงกำลังซื้อที่ลดลงและความยากจนที่มีมากขึ้น จากผลของราคาสินค้าที่สูงในขณะที่ค่าจ้างเท่าเดิม อีกทั้งสินค้าส่วนใหญ่ที่ขายในตลาดท้องถิ่นล้วนแต่เป็นสินค้านำเข้า

ที่มา : https://www.rfa.org/english/news/laos/imf-growth-forecast-10232023180356.html

‘ฝรั่งเศส-ลาว’ เตรียมจัดประชุมเวทีเศรษฐกิจ ฉลองความสัมพันธ์ 70 ปี ทางการทูตและธุรกิจ

คณะกรรมการที่ปรึกษาการค้าต่างประเทศของฝรั่งเศสในลาว เตรียมจัดการประชุมเวทีเศรษฐกิจระหว่างฝรั่งเศสและลาว ระหว่างวันที่ 8-10 พฤศจิกายน 2566 ที่เวียงจันทน์และสะหวันนะเขต เพื่อเป็นเวทีพบปะพูดคุยทางการค้าและการลงทุนของผู้ประกอบการ นักธุรกิจและนักลงทุนฝรั่งเศสที่สนใจลงทุนในประเทศลาว โดยการประชุมครั้งนี้กำหนดให้มีการพูดคุยและนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวข้องกับตลาดการค้าของลาว โอกาสในการสร้างเครือข่ายการค้าการลงทุน และเวทีการประชุมเชิงกลยุทธ์และปฏิบัติการทางธุรกิจที่ออกแบบมาเพื่อให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมและปัจจัยสำคัญในการทำธุรกิจในประเทศลาว

ที่มา : https://laotiantimes.com/2023/10/19/france-laos-economic-forum-celebrates-70-years-of-diplomatic-business-ties/