เมียนมาตั้งเป้าส่งออกทะลุเป้าท่ามกลางการเติบโตทางเศรษฐกิจ

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา รายงานว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังช่วยแก้ไขปัญหาของบริษัทที่สามารถส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำโดยร่วมมือกับสมาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้บรรลุและเกินเป้าหมายการส่งออกของประเทศ รวมถึงการส่งออกหลัก เช่น ข้าว ถั่ว ข้าวโพด และยางพารา ตามที่ ก.ล.ต. กำหนด เพื่อการส่งออกตามข้อกำหนดเป้าหมาย เจ้าหน้าที่ยังได้ช่วยแก้ไขปัญหาที่พบในการส่งออกโดยประสานงานกับสมาคมต่างๆ เช่น สหภาพเมียนมา สหพันธ์หอการค้าและอุตสาหกรรม สมาพันธ์ข้าวเมียนมา ถั่ว ข้าวโพด และงา สมาคมพ่อค้าเมล็ดพันธุ์พืช, สมาคมผู้ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปแห่งเมียนมา, สมาคมอุตสาหกรรมแห่งเมียนมา, สมาคมผู้ปลูกและผู้ผลิตยางแห่งเมียนมา และสมาคมผู้แปรรูปผลิตภัณฑ์ประมงและส่งออกแห่งเมียนมา อย่างไรก็ดี ในบรรดาการส่งออกต่างประเทศ ข้าว 2.5 ล้านตันถูกกำหนดให้ส่งออกในปีงบประมาณ 2567-2568 จากสถิติที่รายงานวันที่ 4 มิถุนายน 2567 ซึ่งเรือบรรทุกข้าว 8 ลำจอดเทียบท่าที่ท่าเรือระหว่างประเทศ 8 แห่งเพื่อส่งออกข้าว โดยข้าวทั้งหมด 135,920 ตัน แบ่งเป็นข้าว 12,500 ตันจากท่าเรือ Alone International Port Termina 12,500 ตันจากท่าเรือนานาชาติย่างกุ้ง 10,000 ตันจากท่าเรือเมียนมา (เดิมชื่อท่าเรือโบ ออง จ่อ) 9,800 ตันจากท่าเรือนานาชาติวิลมาร์และท่าเรือ Sule Pagoda Wharves จำนวน 91,120 ตันจะถูกส่งออก นอกจากนี้ เรืออีก 4 ลำกำลังจะเทียบท่าที่ท่าเรือนานาชาติย่างกุ้งเพื่อส่งออกข้าว 74,000 ตัน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-aims-to-surpass-national-export-targets-amid-economic-growth/

กระทรวงพลังงานเดินหน้าขุดเจาะบ่อน้ำมันลึกเพื่อเพิ่มการผลิตน้ำมัน

กระทรวงพลังงานได้ประกาศแผนการจัดหาเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญระดับสากลเพื่อเจาะบ่อน้ำมันเก่าให้ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ ยังได้รับการยืนยันด้วยว่าจะมีการขุดเจาะหลุมใหม่ 2 หลุมในปีงบประมาณ 2567-2568 โดยมีบริษัท Myanma Oil and Gas Enterprise จะดูแลการขุดเจาะหลุมเหล่านี้ ด้วยความช่วยเหลือทางเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญจาก MPRL E&P Company อย่างไรก็ดี หลุมที่ได้รับการอนุมัติเหล่านี้มีเป้าหมายที่จะเข้าถึงระดับความลึกที่กระทรวงกำหนด และสร้างเหตุการณ์สำคัญใหม่ในประวัติศาสตร์การผลิตน้ำมัน เนื่องจากความพยายามก่อนหน้านี้ต้องดิ้นรนในการผลิตน้ำมันจากทรายที่มีไฮโดรคาร์บอนซึ่งอยู่ลึกลงไปใต้ดิน นอกเหนือจากความพยายามในการวิจัยและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มการผลิตในแหล่งน้ำมันที่สมบูรณ์แล้ว เจ้าหน้าที่ยังมุ่งเน้นไปที่การประสานงานและการแบ่งปันความรู้อีกด้วย รวมทั้งกระทรวงพลังงานกำลังดำเนินมาตรการเพื่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ และการขุดเจาะบ่อน้ำลึกในแหล่งน้ำมันเก่า ตลอดจนการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของยุทธศาสตร์

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/moe-advances-deep-well-drilling-to-boost-oil-production/

รมว.พาณิชย์เมียนมา ร่วมประชุมประสานงานส่งเสริมการส่งออก

วานนี้ ที่สำนักงานเขตย่างกุ้ง ได้มีการประชุมประสานงานส่งเสริมการส่งออก โดยมี U Tun Ohn รัฐมนตรีสหภาพพาณิชย์ เจ้าหน้าที่ระดับภูมิภาคจากกระทรวงการค้าและกรมกิจการผู้บริโภค เลขานุการคณะกรรมการทำงานด้านการกำกัลดูแลการไหลเวียนของการค้าและสินค้า และเจ้าหน้าที่จากการท่าเรือเมียนมา , สหพันธ์ข้าวเมียนมา และสมาคมพ่อค้าถั่ว ถั่ว ข้าวโพด และเมล็ดงาเมียนมา ในระหว่างการประชุม รัฐมนตรีสหภาพได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่จะสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศและส่งเสริมการส่งออก ซึ่งเป้าหมายสำหรับปีงบประมาณ 2567-2568 ได้มีการตั้งไว้แล้ว รวมถึงเป้าหมายการส่งออกข้าว ถั่ว ข้าวโพด และยางพาราในแต่ละเดือน รวมทั้งรัฐมนตรีสหภาพยังย้ำถึงความสำคัญของความพยายามร่วมกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการส่งออกเหล่านี้ นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้ผู้รับผิดชอบทุกคนดูแลห่วงโซ่อุปทานสำหรับการส่งออกข้าวที่ราบรื่น ตั้งแต่การเพาะปลูกจนถึงการจำหน่าย เพื่อขยายส่วนแบ่งการตลาดภายนอก ลำดับความสำคัญอื่นๆ ที่ระบุไว้ ได้แก่ การส่งออกถั่วและข้าวโพดที่เพิ่มขึ้น การรักษาเสถียรภาพของตลาดพืชผลในประเทศ การส่งเสริมการส่งออกเสื้อผ้า CMP ปลา กุ้ง และผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำอื่นๆ การให้ความสำคัญกับเรือส่งออกข้าวเพื่อจอดเทียบท่าที่ท่าเรือ และการจัดการกับข้อกำหนดด้านโลจิสติกส์ เช่น เป็นตู้คอนเทนเนอร์และรถบรรทุกเพื่อรองรับความต้องการของท่าเรือ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/union-commerce-minister-attends-export-promotion-coord-meeting/

เมียนมาลงนาม MoU กับเวียดนาม หนุนภาคส่วนมะพร้าว

ตามการระบุของกระทรวงพาณิชย์ เมียนมาลงนามบันทึกความเข้าใจกับเวียดนามเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาภาคมะพร้าวที่ ในย่างกุ้งเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม และได้ไปศึกษาดูงานฟาร์มมะพร้าวในหมู่บ้านยินกาดิษฐ์ เมืองพันตานอว์ เขตอิรวดี เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม โดยเมียนมาจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการสำหรับโครงการ “ห่วงโซ่มูลค่าผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพ (มะพร้าว)” ภายใต้กองทุน ACEMES-ROK ที่โรงแรม Pan Pacific บริษัท เมียนมา ออร์ชาร์ด จำกัด และสหกรณ์บริการการเกษตร Hoa Binh Hiep ของเวียดนาม ลงนามในบันทึกความเข้าใจเพื่อจัดหาต้นมะพร้าวและความช่วยเหลือด้านเทคนิคสำหรับสวนมะพร้าว ซึ่งในการประชุมเชิงปฏิบัติการ ผู้เชี่ยวชาญที่นำโดยนาง Nguyen Thi Kim Thanh ประธานสมาคมมะพร้าวเวียดนาม ได้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการปลูกมะพร้าวและวิธีการผลิต คาร์บอนเครดิต และการสร้าง Macapuno ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ อย่างไรก็ดี ภายใต้กองทุน ACEMES-ROK โครงการ “ห่วงโซ่มูลค่าผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพ (มะพร้าว)” ยังรวมหลักสูตรหัตถกรรมมะพร้าวในเขตอิรวดีระหว่างเดือนพฤษภาคม 2566 ถึงเมษายน 2567 ซึ่งหลักสูตรนี้จะนำเสนอแนวทางปฏิบัติในการเปลี่ยนกะลามะพร้าวเหลือทิ้งให้เป็นงานฝีมือที่มีมูลค่าเชิงพาณิชย์ นอกจากนี้ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้เรียนรู้ทักษะการเลือกกะลามะพร้าว การออกแบบ ตัด ขัด ตากแห้ง และตกแต่งด้วยอุปกรณ์ทีละขั้นตอน มีวิชาการวาดภาพขั้นพื้นฐานรวมอยู่ด้วย

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-signs-mou-with-vietnam-to-bolster-coconut-sector/

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา บังคับใช้บทลงโทษการนำเข้าก่อนกำหนดโดยไม่มีใบอนุญาต เริ่ม 1 กรกฎาคมนี้

กระทรวงพาณิชย์แจ้งว่าจะเริ่มดำเนินการทางวินัยในวันที่ 1 กรกฎาคม ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งออก/นำเข้า หากสินค้านำเข้ามาถึงสนามบินและอาคารผู้โดยสารก่อนได้รับใบอนุญาตหรือใบอนุญาต ยกเว้นสินค้าที่ได้รับอนุญาตให้จัดเก็บในคลังสินค้าของศุลกากร สินค้านำเข้าที่ไม่ได้รับอนุญาตจะถูกห้ามมิให้มาถึงท่าเรือและสนามบิน อย่างไรก็ดี คำสั่งที่ออกเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2020 ระบุว่าบริษัทนำเข้าจะต้องถูกลงโทษภายใต้กฎหมายการส่งออก/นำเข้า หากสินค้าดังกล่าวมาถึงโดยไม่มีใบอนุญาตหรือใบอนุญาตนำเข้า แต่มักพบว่าสินค้านำเข้ามาถึงท่าเรือก่อนที่จะออกใบอนุญาต นอกจากนี้ รายงานยังระบุด้วยว่ากรมศุลกากรอนุญาตให้จัดเก็บสินค้าที่จำเป็นสำหรับภาคการผลิตและสุขภาพในประเทศไว้ในคลังสินค้าของศุลกากรตามระเบียบเท่านั้น กระทรวงจึงเรียกร้องให้บริษัทนำเข้าปฏิบัติตามกฎหมายและปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ต่างๆ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/moc-to-enforce-penalties-for-premature-arrival-of-imports-without-licences-starting-1-july/

เมียนมาตั้งเป้าการค้าต่างประเทศบรรลุมูลค่า 33 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีงบประมาณ 2567-2568

กระทรวงพาณิชย์เมียนมาตั้งเป้าหมายที่จะบรรลุเป้าหมายการค้าต่างประเทศมูลค่า 33 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีงบประมาณปัจจุบัน พ.ศ. 2567-2568 ซึ่งประกอบด้วยเป้าการส่งออกมูลค่า 16.7 พันล้านดอลลาร์และการนำเข้ามูลค่า 16.3 พันล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า มูลค่าการค้าต่างประเทศของเมียนมา ณ วันที่ 17 พฤษภาคม ในปีงบประมาณปัจจุบัน พ.ศ. 2567-2568 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน มีมูลค่าสูงถึงกว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยการส่งออกมูลค่า 1.76 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้ามูลค่า 1.77 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยแบ่งเป็นการค้าทางทะเลมีมูลค่ารวม 2.85 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่มูลค่าการค้าชายแดนมีมูลค่า 684.56 ล้านดอลลาร์ มีดุลการค้ารวมอยู่ที่ 3.116 พันล้านดอลลาร์ โดยที่เมียนมาส่งออกสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แร่ธาตุ ผลิตภัณฑ์จากป่าไม้ และสินค้าอุตสาหกรรมสำเร็จรูป ในขณะที่นำเข้าสินค้าทุน สินค้าขั้นกลาง วัตถุดิบที่นำเข้าโดยวิสาหกิจ CMP และสินค้าอุปโภคบริโภค

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/foreign-trade-targeted-to-achieve-us33b-in-fy2024-2025/#article-title

เขตอุตสาหกรรม และเขตต่อขยาย มีโอกาสส่งเสริมสินค้าส่งออกได้มาก

คณะกรรมการกลางพัฒนาอุตสาหกรรมและเขตอุตสาหกรรมจัดการประชุมครั้งที่ 1/2567 ณ ห้องประชุมกระทรวงอุตสาหกรรม ในเมืองเนปิดอว์ เมื่อบ่ายวานนี้ โดยมีประธานคณะกรรมการกลาง รองประธานสภาบริหารแห่งรัฐ โดยรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.โซ วิน. กล่าวว่า คณะกรรมการจัดตั้งเขตอุตสาหกรรมและกำกับดูแลจะต้องกำกับดูแลมาตรการเพื่อพิจารณาว่าเขตอุตสาหกรรมเปิดดำเนินการจริงและอนุญาตให้มีกระบวนการทำงานของธุรกิจเดียวกันได้หรือไม่ ในคำปราศรัยเน้นย้ำว่า เมียนมาต้องพัฒนาเขตอุตสาหกรรมหลัก 28 แห่ง อุตสาหกรรมสาขา 53 แห่ง และเขตอุตสาหกรรม 5 แห่ง พร้อมเขตอุตสาหกรรมอีก 2 แห่งที่อยู่ระหว่างการจัดตั้ง เพื่อแก้ไขประเด็นที่ไม่สอดคล้องกับกฎหมายและกฎเกณฑ์ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการกลางจำเป็นต้องกำหนดนโยบายและแก้ไขปัญหา ในขณะที่คณะกรรมการจัดตั้งเขตอุตสาหกรรมท้องถิ่นและกำกับดูแลและรัฐบาลส่วนภูมิภาคต้องกำกับดูแลการดำเนินงานของเขตอุตสาหกรรมที่ตั้งไว้แล้ว และเขตอุตสาหกรรมที่จะจัดตั้งและเขตอุตสาหกรรมให้ประสบผลสำเร็จ นอกจากนี้ ยังพบปัญหาเขตอุตสาหกรรมตั้งอยู่ใกล้เขตที่อยู่อาศัยด้วย ซึ่งต้องหาทางแก้ไขปัญหาภายใต้กฎหมายและกฎเกณฑ์เขตอุตสาหกรรม เขตอุตสาหกรรมขนาดเล็กที่ภูมิภาคมะเกวส่งมา ได้รับการจัดสรรให้กับกลุ่มพื้นที่น้อยกว่า 500 เอเคอร์เป็นหลัก เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มที่ทำจากพืชน้ำมัน ถั่ว และฝ้าย ส่งผลให้รัฐบาลเขตมะเกวจำเป็นต้องยื่นข้อเสนอใหม่สำหรับเขตอุตสาหกรรมเพื่อใช้อุตสาหกรรมฝ้ายและด้ายและพืชน้ำมัน รวมทั้ง ต้องดำเนินการเขตอุตสาหกรรมของตนให้สอดคล้องกับกฎหมายและกฎเกณฑ์อุตสาหกรรมจึงจะประสบความสำเร็จได้

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/industrial-zones-and-extended-zones-have-great-chance-to-boost-export-products/

YRIC รับรองโครงการลงทุนในประเทศ และโครงการต่างประเทศ 3 โครงการ

ในการประชุมครั้งที่ 5/2567 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม คณะกรรมการการลงทุนภูมิภาคย่างกุ้ง (YRIC) ให้ไฟเขียวแก่วิสาหกิจในประเทศหนึ่งแห่งที่พลเมืองเมียนมาเป็นเจ้าของ และวิสาหกิจต่างชาติทั้งหมด 3 แห่ง โดยมีทุนจดทะเบียนประมาณ 3.739 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 1.55 พันล้านจ๊าด โดยองค์กรในประเทศ 1 แห่งนั้นจะมีการลงทุนในภาคการโรงแรม ในขณะที่องค์กรต่างชาติ 3 แห่งจะลงทุนในการผลิตกระเป๋า เสื้อผ้า และชุดเจ้าสาวบนพื้นฐานการผลิตแบบ CMP ซึ่งคาดว่าจะมีการสร้างงานทั้งหมด 2,301 ตำแหน่ง

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/yric-endorses-k1-55b-domestic-project-3-foreign-projects-worth-us3-7m/#article-title

การค้าชายแดนเกาะสองเกินดุลฯ ในเดือนเมษายน

ตามที่กระทรวงพาณิชย์เมียนมา ระบุ ในเดือนเมษายนของปีการเงินปัจจุบัน พ.ศ. 2567-2568 การค้าชายแดนที่เกาะสอง มีการเกินดุลการค้ามากกว่า 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นช่วงที่การส่งออกมีมากกว่าการนำเข้า โดยมูลค่าการส่งออกเกาะสองมีมูลค่า 17.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 4.97 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมมูลค่าการค้า 22.69 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยการส่งออกสินค้าประมงที่เกาะสองดำเนินการด้วยระบบขนส่งสินค้าบนเรือ (FOB) อย่างไรก็ดี การค้าชายแดนที่เกาะสองตลอดทั้งปีงบประมาณ 2566-2567 ที่ผ่านมา มีมูลค่ารวม 234.386 ล้านดอลลาร์ ซึ่งประกอบด้วยการส่งออกมูลค่า 193.75 ล้านดอลลาร์ และการนำเข้ามูลค่า 40.63 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ในปีงบประมาณก่อนหน้ามีการค้าเกินดุล 153.12 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ สินค้าสำคัญที่เมียนมามีการส่งออก ได้แก่ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผลิตภัณฑ์ประมง เช่น ปลาหมึก ปูและปลา อวนจับปลา วัสดุก่อสร้าง และสินค้าอื่นๆ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/kawthoung-border-sees-trade-surplus-in-april/

ฟาร์มเพาะพันธุ์ปศุสัตว์ใน 9 รัฐและภูมิภาคจะได้รับเงินกู้ 12 พันล้านจ๊าด เริ่มเดือนมิถุนายน

ตามที่กรมเพาะพันธุ์ปศุสัตว์และสัตวแพทย์เมืองเนปิดอว์ ระบุว่า จะมีการกู้ยืมเงิน 12,000 ล้านจ๊าด ให้กับฟาร์มเพาะพันธุ์ปศุสัตว์ใน 9 รัฐและภูมิภาค รวมถึงกรุงเนปิดอว์ โดยเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน ทั้งนี้ เขตสภาเนปิดอว์ ย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ พะโค อิรวดี มะเกว ตะนาวศรี รัฐฉาน และรัฐมอญ กำลังวางแผนที่จะให้กู้ยืมเงินสำหรับการเลี้ยงโคเนื้อ โคนม การเลี้ยงไก่ไข่ และการเพาะพันธุ์แกะและแพะตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป โดยเงินกู้ดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งของกองทุนส่งเสริมเศรษฐกิจแห่งรัฐ และจะมีการเสนอในอัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยมีการวางแผนการให้กู้ยืมแบบพิเศษสำหรับธุรกิจฟาร์มโคนม มีระยะเวลากู้ยืมสำหรับธุรกิจฟาร์มโคนมกำหนดไว้ที่ 3 ปี ในขณะที่ระยะเวลากู้ยืมสำหรับธุรกิจโคเนื้อ ฟาร์มไก่ไข่ และธุรกิจฟาร์มแกะและแพะกำหนดไว้ที่ 2 ปี

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/livestock-breeding-farms-in-9-states-and-regions-to-get-k12-billion-loans-starting-june/