ไทยเฮ!‘IMF’จัดสรรเงินช่วย แนะใช้1.4แสนล้านบ.สู้โควิด

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF มีมติให้จัดสรรเงินจากกองทุน SDRs จำนวนมากถึง 6.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับประเทศสมาชิก ขณะที่ไทยที่ได้รับเงินจัดสรรด้วยในวงเงินราว 1.4 แสนล้านบาทหรือ 4.4 พันล้านดอลลาร์ ขณที่ รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า รัฐบาลควรหารือกับ ธปท. เพื่อนำเงิน SDRs ที่ได้รับการจัดสรรมาใหม่จำนวนนี้มาใช้ด้านการคลัง โดยมุ่งไปที่การเยียวยาผู้ว่างงานและลงทุนทางการศึกษา การจัดซื้อวัคซีนและการลงทุนทางด้านสาธารณสุข เห็นควรใช้ SDRs ไปแลกกับเงินสกุลหลักเพื่อนำมาจัดซื้อวัคซีน นอกจากเป็นการช่วยเหลือประเทศและประชาชนแล้ว ยังเป็นการช่วยเสริมสภาพคล่องในระบบการเงินโลกอีกด้วย

ที่มา: https://www.naewna.com/business/601657

‘เวียดนามเตรียมเปิด ‘เกาะฟูโกว๊ก’ ต้อนรับนนท.ต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้ว

กระทรวงวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยวของเวียดนาม เตรียมเสนอให้เกาะฟูโกว๊ก (Phu Quoc) เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีหนังสือเดินทางวัคซีนในเดือนตุลาคม นาย Nguyen Trung Khanh ประธานการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนาม (VNAT) กล่าวว่าแผนงานดังกล่าวเป็นโครงการนำร่องระยะเวลา 6 เดือนและอาจมีการปรับแผนขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเกาะฟูโกว๊กต้องได้รับการฉีดวัคซีนมาแล้วครบ 2 โดสที่ททางการเวียดนามรับรอง และต้องผ่านการทดสอบด้วยวิธี RT-PCR ทั้งนี้ นาย Nguyen Luu Trung รองประธานจังหวัดเกียนซาง แสดงถึงความกังวลว่าในปัจจุบัน เกาะฟู้ก๊วกได้รับการฉีดวัคซีนเพียง 35%ของประชากรทั้งหมด และจำเป็นต้องสรรหาวัคซีนเพิ่มอีกราว 250,000-300,000 โดส เพื่อให้มีความครอบคลุมได้อย่างปลอดภัย

ที่มา : https://tuoitrenews.vn/news/business/20210911/vietnam-prepares-to-welcome-vaccinated-foreign-tourists-to-phu-quoc/63038.html

‘HSBC’ ชี้เวียดนามคงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจในด้านการลงทุน

ธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) ได้เปิดเผยสถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคในเดือนกันยายน 2564 ว่าตลาดเวียดนามจะยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดของนักลงทุนต่างชาติในอนาคตข้างหน้า อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจเวียดนาม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้า ทั้งนี้ สมาคมเครื่องหนังรองเท้าและกระเป๋าถือของเวียดนาม (LEFASO) ระบุว่าผู้ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปมากกว่า 30% ระงับการผลิต ส่งผลให้ยอดการส่งออกเสื้อผ้าในเดือนสิงหาคมลดลง 4.5% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน แต่ว่ายอดการส่งออกโทรศัพท์และชิ้นส่วน พุ่งสูงขึ้นอย่างมากในเดือนสิงหาคม อัตราการเติบโต 11% ต่อปี ในขณะที่ยอดการส่งออกคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ลดลง 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าเวียดนามจะเผชิญกับความท้าทายที่เกิดขึ้น ธนาคารเอชเอสบีซีมองว่าเวียดนามคงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจของนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากเวียดนามมีปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-continues-to-be-attractive-investment-destination-hsbc-889966.vov

เมียนมาเปิดด่านทิกิ ด่านมุต่อง กลับมาค้าขายได้ปกติ

ด่านตีกีและด่านมุต่อง ชายแดนเมียนมา-ไทย ได้รับอนุญาตให้เปิดกลับมาค้าขายได้ปกติอีกครั้ง ก่อนหน้สการค้าระหว่างเมียนมาและไทยถูกปิดชั่วคราวเป็นเวลาประมาณหนึ่งเดือนจนถึงสิ้นเดือนส.ค.64 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งด่านชายแดนเหล่านี้ตั้งอยู่ในเขตตะนาวศรี สินค้าที่ส่งออกไปยังไทยผ่านชายแดนทั้ง 2 ส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ ซึ่งปัจจุบัน รถบรรทุกวิ่งผ่านได้แต่พนักงานขับรถต้องได้รับการตรวจ COVID-19 แล้วเท่านั้น และตู้คอนเทนเนอร์รวมถึงห้องเย็นต้องดำเนินการตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุขของเมียนมา ทั้งนี้ไทยถือเป็นผู้นำดข้าผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำรายใหญ่ เมื่อปีงบประมาณที่แล้ว เมียนมาส่งสินค้าประมงมูลค่า 318 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปยังไทย ในขณะที่การส่งออกการประมงรวมอยู่ที่ 850 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/hteekhee-mawtaung-border-crossings-return-to-normal/#article-title

ต้นทุนปลูกพริกพุ่งขึ้น ! ส่งผลให้พื้นที่เพาะปลูกลดฮวบเกือบครึ่ง

สมาคมตลาดค้าพริกเและการพัฒนาทางเทคนิคของเมียนมา เผย ปีนี้พื้นที่เพาะปลูกพริกลดลงครึ่งหนึ่งเนื่องจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังส่งผลกระทบต่อความต้องการพริก เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับตลาดต่างประเทศ และข้อจำกัดในการถอนเงินสดจากธนาคารในเมียนมา ทำให้พื้นที่เพาะปลูกพริกลดลง 50% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากราคาปุ๋ยและต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่สูงซึ่งสร้างกังวลสำหรับผู้เพาะปลูก อีกทั้งยังมีการปิดด่านชายแดนมูเซ ของจีน ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.64 ซึ่งเป็นด่านชายแดนหลักของประเทศ ทำให้เมียนมาหันไปส่งออกไปยังไทยผ่านชายแดนเมียวดีแทน ขณะที่ราคาพริกในปีนี้เหลือเพียง 1,300 จัตต่อ viss (viss เท่ากับ 1.6 กก.) ขณะที่ปีที่แล้วทำสถิติสูงถึง 5,000-6,000 จัตต่อ viss โดยพริกขี้หนูสดถูกส่งออกไปยังเวียดนามผ่านทางเรือ และส่งออกไปยังจีนและไทยผ่านชายแดนเป็นหลัก

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/rising-input-costs-drop-half-chilli-cultivation-acres/#article-title

FTA กู้วิกฤตดันส่งออกสินค้าเกษตร 7 เดือนปี 64 ทะลุ 1 หมื่นล้าน!

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงข้อมูลการส่งออกสินค้าเกษตร (กสิกรรม ประมง และปศุสัตว์) ไป 18 ประเทศคู่เจรจา FTA ช่วง 7 เดือนปี 64 ทะลุ 11,664.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 33% ความตกลงการค้าเสรี (FTA) มีส่วนสำคัญในการสร้างแต้มต่อทางการค้าให้กับสินค้าเกษตรของไทยในตลาดโลก เนื่องจากประเทศที่มี FTA กับไทยได้ยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรกับสินค้าเกษตรที่ไทยส่งออกส่วนใหญ่แล้ว ทำให้สินค้าไทยได้เปรียบด้านราคาและต้นทุนทางภาษีเมื่อต้องแข่งขันกับสินค้าจากประเทศอื่น ช่วยให้สินค้าเกษตรมีการส่งออกขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้พบตลาดเกาหลีใต้โตแรง มั่นใจ! แนวโน้มส่งออกขยายตัวต่อเนื่อง หลังเศรษฐกิจตลาดสำคัญฟื้นตัว

ที่มา : https://www.prachachat.net/economy/news-757862

‘เวียดนาม’ ปรับเพิ่มงบประมาณรายจ่าย ปี 65 แตะ 22.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ

รัฐบาลเวียดนามเตรียมปรับเพิ่มเงินทุนสำหรับโครงการสาธารณะ เพิ่มขึ้น 8.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เป็นมูลค่า 516.7 ล้านล้านดอง (22.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ) รวมถึง 35 ล้านล้านดอง (1.53 พันล้านเหรียญสหรัฐ) จากเงินทุนต่างประเทศ ซึ่งตัวเลขข้างต้นได้รับการเปิดเผยจากกระทรวงวางแผนและการลงทุน (MPI) ที่นำเสนอเกี่ยวกับแนวทางในการแก้ไขเพื่อเร่งการลงทุนของภาครัฐในปี 2564 และแผนสำหรับปีหน้า ทั้งนี้ กระทรวงฯ ชี้ว่ารัฐบาลเตรียมผลักดันโครงการก่อสร้างถนนเลียบชายฝั่งทะเลที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2559-2563 ในขณะที่ได้เริ่มดำเนินการโครงการใหม่ เพื่อหวังว่าจะกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกจากนี้ กระทรวงฯ ได้เสนอให้นำงบประมาณของรัฐที่จัดสรรในปี 2564 สำหรับกระทรวงหรือหน่วยงานท้องถิ่นที่มีการเบิกจ่ายต่ำกว่า 60% ณ วันที่ 30 ก.ย. ไปใช้ในโครงการที่มีความสำคัญหรือมีความจำเป็นที่ต้องใช้เงินทุน

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnam-to-raise-capital-expenditure-to-u227-billion-in-2022-318651.html

‘เวียดนาม’ เผยกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมช่วยฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยว

กระทรวงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมจัดทำแผนฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยทางกระทรวงฯ เสนอให้มีการจัดทำโปรแกรมสินเชื่อพิเศษแก่ธุรกิจที่อยู่ในภาคการท่องเที่ยว เพื่อให้กิจการดังกล่าวสามารถจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานได้และปรับปรุงสินค้าและบริการทางด้านการท่องเที่ยวใหม่ๆ นอกจากนี้ ยังมีการเร่งโครงการ/มาตรการเยียวยาของธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รวมถึงกระทรวงฯ ยังได้เสนอให้มีการปรับลดหรือยกเว้นภาษีและค่าธรรมเนียม เพื่อช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยวและฝึกอบรมทางด้านทรัพยากรมนุษย์ ทั้งนี้ ภายใต้แผนฟื้นฟู กระทรวงฯ เสนอให้มีการท่องเที่ยวภายในประเทศ อย่างเช่น “เวียดนามเที่ยวเวียดนาม เที่ยวปลอดภัย เที่ยวน่าสนใจ”

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/ministry-plans-to-support-firms-to-help-tourism-recover/

มันฝรั่งจากอำเภอยวางาน ความต้องการสูง ราคาพุ่ง

มันฝรั่งที่เก็บเกี่ยวจากอำเภอยวางาน กำลังขนส่งไปสู่ตลาดขายส่งผักทีริมาร์ลา ในมัณฑะเลย์ โดยจะมีรถบรรทุกมันฝรั่ง7-8 คันต่อวัน ไปยังตลาด ราคาเมื่อปีก่อนอยู่ที่ 700 จัตต่อ viss (viss เท่ากับ 1.6 กก.) แค่ ณ ตอนนี้ราคาอาจพุ่งไปถึง 900-1,000 จัตต่อ viss  ขึ้นอยู่กับขนาดและคุณภาพ อย่างไรก็ตาม มันฝรั่งยังมีความต้องการสูงในปีนี้ ท่ามกลางผลกระทบจากโควิด-19 เนื่องจากมันฝรั่งดิบสามารถอยู่ได้นานหลายเดือน ส่งผลให้ราคาสูงขึ้น แต่ขณะที่ผักอื่นๆ เช่น กะหล่ำปลี ถั่วแดง และดอกกะหล่ำยังขายในราคาปกติ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/potato-from-ywangan-area-fetches-high-price/

National Road 13 ปรับปรุงแล้วสำเร็จไปแล้วกว่า 40 เปอร์เซ็นต์

การปรับปรุงถนนแห่งชาติ 13 ทางเหนือระหว่างหมู่บ้านสิกขิตในเขตนาไซทองของเมืองหลวงและอำเภอโพนหงในแขวงเวียงจันทน์เสร็จสมบูรณ์แล้วกว่า 40 % การปรับปรุงประกอบด้วยการปรับปรุงพื้นผิวถนนและการติดตั้งช่องระบายน้ำสองข้างทางถนนเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ยาว 58 กม. โครงการนี้ได้รับทุนจากธนาคารโลก กองทุนนอร์ดิก กองทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย และกองทุนถนนของรัฐบาล National Road 13 เป็นเส้นทางหลักของประเทศไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ถนนสายนี้เป็นทางหลวงสายสำคัญที่สุดในประเทศสปป.ลาว เชื่อมกับจีนทางตอนเหนือและกัมพูชาทางตอนใต้ รวมระยะทาง 1,500 กม. นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมโยงด้านลอจิสติกส์ที่สำคัญไปยังเวียดนามและประเทศไทย การปรับปรุงถนนครั้งนี้จะเป็นส่วนช่วยสำคัญในการส่งเสริมประสิทธิภาพด้านการขนส่งระดับภูมิภาคของสปป.ลาว

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Road177.php