ทางการกัมพูชากำหนดนโยบายช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยวในประเทศ

รัฐบาลกัมพูชา นำโดยนายกรัฐมนตรี ฮุน เซน ได้กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ และมาตรการสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวอย่างทันท่วงทีและตรงเป้าหมาย ท่ามกลางวิกฤตการณ์ของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วประเทศกัมพูชา โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวกล่าวว่าตัวแทนภาคเอกชนในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจำนวน 6 ราย ได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีและคณะ สำหรับความพยายามของภาครัฐ ในการป้องกันการแพร่กระจายของโควิด-19 และจัดการผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจหลัก รวมไปถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจของกัมพูชาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2020 จนถึงปัจจุบัน รัฐบาลกัมพูชากำหนดมาตรการช่วยเหลือถึง 9 รอบ เพื่อบรรเทาภาระและความยากลำบากของธุรกิจภาคการท่องเที่ยว รวมถึงพนักงานในภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 โดย ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2021 พนักงานในภาคการท่องเที่ยวในกรุงพนมเปญประมาณร้อยละ 99.64 ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มที่ 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดประเทศ ซึ่งรัฐบาลก็ได้เร่งดำเนินการฉีดวัคซีนให้เป็นไปตามแผนการกระจายวัคซีนต่อไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50892721/major-tourism-associations-thank-pm-for-policies-that-help-cambodian-tourism-during-covid-19-crisis/

แก้วมังกรราคาดี สร้างรายได้งาม ให้เกษตรกร ตำบลงาเพ

ผลแก้วมังกรที่ปลูกในหมู่บ้านปิ่นอู ตำบลงะแพ อำเภอมี่นบู้ เขตมะกเว ด้วยระบบน้ำชลประทานให้ผลผลิตสูงเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งทำรายได้ให้กับครัวเกษตรกรได้เป็นอย่างดี เกษตรกรเริ่มปลูกแก้วมังกรในเดือนม.ค.2560 แก้วมังกรมีอายุมากกว่าห้าปี ออกผลภายหลังการปลูก 6 เดือน ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในการเพาะปลูก สามารถเก็บเกี่ยวถึงเจ็ดครั้งต่อปี เมื่อปีที่ผ่านมามีผลผลิตแก้วมังกรประมาณ 10,000 ลูกส่วนใหญ่ถูกส่งไปยังเขตมะกเว และย่างกุ้ง ราคาจะอยู่ในช่วง 400 – 750 จัต สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับเกตรกร

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/dragon-fruit-selling-well-in-ngaphe-township/

สปป.ลาวกำลังพึ่งพาจีนมากขึ้นสำหรับโครงการขนส่งที่สำคัญ

โครงการทางหลวงจำนวนหนึ่งที่ได้รับการสนับสนุนจากจีนกำลังดำเนินการอยู่ในประเทศลาวเชื่อกันว่าโครงการโครงสร้างพื้นฐานใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนริเริ่มหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง ของจีน ซึ่งเป็นโครงการเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงยุโรปทั้งทางบกและทางทะเล แต่ความกังวลเพิ่มมากขึ้นว่าเงินกู้ยืมที่เกิดขึ้นเพื่อใช้เป็นเงินทุนในโครงการอาจทำให้ลาวกลายเป็น “กับดักหนี้” หากไม่สามารถชำระคืนเจ้าหนี้ชาวจีนได้ ถึงแม้สปป.ลาวซุ่มเสี่ยงที่จะไม่สามารถชำระหนี้ได้ ปัจจุบันสปป.ลาวกำลังมีโครงการทางด่วน 578 กม. มูลค่า 5.1 พันล้านดอลลาร์ซึ่งได้รับการเสนอโดยสถาบัน Henan Provincial Communications Planning and Design Institute ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาของจีนที่รู้จักกันในชื่อ HNRBI ทางด่วนใหม่จะลดเวลาการเดินทางจากเวียงจันทน์ไปยังปากเซลงเสริมความแข็งแกร่งในการเชื่อมต่อกับเมืองใหญ่ในต่างประเทศ 2 เมืองที่อยู่ห่างไกลออกไปทางใต้ ได้แก่ กรุงเทพฯ และศูนย์กลางการค้าของหากโครงการเดินหน้าและแล้วเสร็จจะช่วยให้จีนเข้าถึงคาบสมุทรอินโดจีนได้ง่ายขึ้นรวมถึงสปป.ลาวจะไดเป็นประเทศที่เชื่อมโยงการขนส่งที่สำคัญระดับภูมิภาคยกระดับเศรษฐกิจในอนาคต

ที่มา : https://asia.nikkei.com/Spotlight/Belt-and-Road/Laos-deepens-reliance-on-China-for-key-transport-projects

โครงการก่อสร้างท่าเรือท่องเที่ยวจังหวัดกำปอตของกัมพูชาล่าช้ากว่ากำหนด

รายงานของกระทรวงโยธาธิการและคมนาคมกัมพูชาระบุว่า โครงการก่อสร้างท่าเรือท่องเที่ยวของจังหวัดกำปอตล่าช้ากว่ากำหนด เนื่องมาจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ที่ยังคงดำเนินอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งปัจจุบันโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จไปแล้วร้อยละ 74 จากเดิมที่มีกำหนดแล้วเสร็จและดำเนินการได้ภายในสิ้นปี 2020 โดยรัฐบาลกัมพูชาได้ทำการกำหนดวันเสร็จสิ้นใหม่หลังจากทำการประเมินตามสถานการณ์เป็นปี 2022 ซึ่งโครงการนี้สร้างขึ้นบนพื้นที่ 4 เฮกตาร์ ตั้งอยู่ในเขต Toek Chhou ห่างจากเมืองกำปอตไปทางใต้ประมาณ 6 กิโลเมตร ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียจำนวนวงเงินกู้ 9 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้น ท่าเรือจะทำหน้าที่เป็นประตูสำคัญสำหรับรับเรือสำราญที่เชื่อมต่อประเทศไทยและเวียดนามมายังกำปอต ตลอดจนเป็นตัวอย่างของโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50891686/kampot-provinces-tourism-seaport-construction-falls-further-behind-schedule/

กัมพูชาและจีนกำหนดให้สัตยาบัน FTA เต็มรูปแบบในต้นปีหน้า

ข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างกัมพูชาและจีนมีแนวโน้มที่จะมีผลบังคับใช้ในปีหน้า หลังจากได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นเอกฉันท์จากคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญของรัฐสภา โดยกระทรวงพาณิชย์จะส่งร่างกฎหมายให้รัฐสภาได้พิจารณาอนุมัติในลำดับถัดไป ซึ่ง รมว.พาณิชย์ ได้จัดประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ร่วมกับประธานคณะกรรมการรัฐสภาชุดที่ 9 ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้ทบทวนร่างกฎหมายที่จะมีผลบังคับใช้ภายในต้นปี 2022 ซึ่งทั้งสองประเทศได้ลงนาม FTA ในเดือนตุลาคม 2020 หลังจากการเจรจาเกิดขึ้นหนึ่งปี โดยมีวัตถุประสงค์ที่เน้นการเข้าถึงตลาดสำหรับพืชผัก ผลไม้ และสินค้าเกษตรอื่นๆ ตลอดจนสินค้าเกี่ยวกับงานฝีมือ และสินค้าอื่นๆ ที่กัมพูชามีความสามารถในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับกฎเกณฑ์และมาตรฐานด้านสุขอนามัยของจีน โดยการส่งออกของกัมพูชาไปยังจีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 56 ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2021 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในทางกลับกันการนำเข้าจากจีนของกัมพูชาเพิ่มขึ้นเช่นกันร้อยละ 21 จากความต้องการสินค้าอุตสาหกรรม วัตถุดิบ และวัสดุก่อสร้างของกัมพูชาที่กำลังขยายตัว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50891934/full-ratification-of-free-trade-deal-with-china-is-now-expected-early-next-year/

เชื่อนักลงทุนเข้าใจไทยล็อคดาวน์ดีกว่าปล่อยลากยาว

นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บมจ.อมตะคอร์ปอเรชัน เผย มาตรการยกระดับควบคุมพื้นที่สูงสุด 10 จังหวัดที่เริ่มวันที่ 12 ก.ค. ของรัฐบาล เชื่อว่า จะกระทบระยะสั้นเท่านั้น และในสายตานักลงทุนต่างชาติเข้าใจถึงสถานการณ์เป็นอย่างดี ซึ่งหากไทยยังปล่อยให้มีการแพร่ระบาดและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นมากกว่า ทั้งนี้สิ่งสำคัญคือการบริหารจัดการด้านวัคซีนทั้งระบบ ทั้งในเรื่องการจัดหา แผนการกระจาย ให้ถึงมือประชาชนและครอบคลุมจำนวนประชากร 70% เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ควบคู่ไปด้วย

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/news/47803/

VinFast ค่ายรถยนต์เวียดนาม ประกาศลุยเปิดสาขาในตลาดอเมริกาเหนือและยุโรป

‘VinFast’ ค่ายรถยนต์เวียดนาม เตรียมเปิดสาขาอย่างเป็นทางการในสหรัฐฯ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนีและเนเธอแลนด์ และก้าวเข้าสู่การเป็นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะระดับโลก โดยตามแผนของบริษัทจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะสองรุ่น ได้แก่ VF e35 และ VF e36 ไปยังทั่วโลก ด้วยการออกแบบที่ล้ำสมัยและโครงภายนอกที่น่าดึงดูดและอำนวยความสะดวกในระดับสูง พร้อมกับมีมาตรฐานความปลอดภัยของ NHTSA และ EURO NCAP ทั้งนี้ สหรัฐฯ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนีและเนเธอร์แลนด์ ถือเป็นตลาดสำคัญที่จะขยายธุรกิจของบริษัทและวางรากฐานการดำเนินธุรกิจในประเทศเหล่านี้

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/991133/vinfast-officially-begins-operations-in-north-america-and-europe.html

เวียดนามเผยผลสำรวจชี้ธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิตส่วนใหญ่ 78% มองว่ามั่งคงและดีขึ้นในไตรมาสที่ 3

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปส่วนใหญ่ 39.2% มองว่าทิศทางของการทำธุรกิจและการผลิตจะปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ รองลงมา 38.6% อยู่ในระดับไม่เปลี่ยนแปลง และ 22.2% อาจประสบปัญหามากเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ทั้งนี้ สำนักงานสถิติ ชี้ว่าการผลิตของภาคอุตสาหกรรมในไตรมาสที่ 2 อยู่ในทิศทางที่เป็นบวก เนื่องจากกิจกรรมการผลิตและการทำธุรกิจค่อยๆกลับมาฟื้นตัว ด้วยอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 11.45% เมื่อเทียบเป็นรายปี และในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ภาคอุคสาหกรรมเติบโตประมาณ 8.91% เมื่อเทียบเป็นรายปี อย่างไรก็ดี ตามข้อมูล ณ วันที่ 1 มิ.ย. จำนวนแรงงานที่อยู่ในธุรกิจอุตสาหกรรม ลดลง 1.4% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และ 1% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/nearly-78-pct-of-manufacturing-processing-firms-expect-stable-better-performance-in-q3/204495.vnp

ค้าชายแดนเมียนมา-อินเดียพุ่ง 111.94 ล้านดอลลาร์ฯ

ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.63 ถึง 2 ก.ค.64 ของปีงบประมาณ 63-64  มูลค่าการค้าชายแดนระหว่างเมียนมาร์และอินเดียพุ่งขึ้นเป็น 193.2 ล้านดอลลาร์ แม้อินเดียจะยกระดับคุมเข้มการระบาดของโควิด-19 บริเวณชายแดน เพิ่มขึ้น 111.94 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เมียนมาทำการค้าชายแดนกับอินเดียผ่านชายแดนตามู, ชายแดน Reed และชายแดนทันท์ลอง ในช่วงเก้าเดือนที่ผ่านมา มูลค่าการค้ามีการจดทะเบียนมากกว่า 32.39 ล้านดอลลาร์ผ่านชายแดนตามู และ 160.8 ล้านดอลลาร์ผ่านชายแดนReed แต่ชายแดนทันท์ลองไม่มีการบันทึกข้อมูล เมียนมาส่งออกถั่วเขียว ถั่วลันเตา ถั่วเขียว ถั่วลันเตา ขิง หญ้าฝรั่น ขมิ้น ใบกระวาน ผลิตภัณฑ์ประมง ผลไม้ และผักไปยังอินเดีย ขณะที่นำเข้าจะเป็น ยา เค้ก น้ำมัน เครื่องใช้ไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ เหล็ก และอุปกรณ์ก่อสร้าง เครื่องจักร และวัสดุก่อสร้าง

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-india-border-trade-up-by-111-94-mln-as-of-2-july/

สปป.ลาว-ไทยร่วมมือแก้ปัญหาแรงงานข้ามชาติ

ทางการสปป.ลาวและไทยตกลงที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับแรงงานต่อไปเพื่อให้มั่นใจว่าการย้ายถิ่นของแรงงานจะปลอดภัย ซึ่งควรรวมถึงคนงานที่เข้าถึงการจ้างงานถาวรและมีสิทธิได้รับมาตรการด้านสวัสดิการที่ดีและยุติธรรมในประเทศไทย ท่ามกลางการแพร่กระจายของ Covid-19 ทั้งสองประเทศจะทบทวนนโยบายด้านแรงงานเพื่อให้ความช่วยเหลือแรงงานสปป.ลาว รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดโรงงานอันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำพวกเขายังได้พิจารณาแนวทางในการแก้ไขปัญหาแรงงานที่ไม่มีเอกสาร รวมทั้งเน้นที่การช่วยเหลือแรงงานผิดกฎหมายที่ต้องการกลับบ้านหรือช่วยเหลือผู้ที่ต้องการทำงานในประเทศไทยต่อไปอย่างถูกกฎหมาย นางอนุสร คำสิงห์สวัสดิ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงานและการจัดหางาน สังกัดกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมของลาว กล่าวว่า “ฝ่ายสปป.ลาวเสนอให้เจ้าหน้าที่ของไทยอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวที่ไม่มีเอกสารจากสปป.ลาวทำงานอย่างถูกกฎหมายได้อีกสักระยะหนึ่งจนกว่าวิกฤตที่เกิดจากโควิด-19 จะคลี่คลาย

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laosthai_133.php