ไทยฉีดวัคซีนแก่ประชาชน อันดับต้นๆของอาเซียน

ประเทศไทยเดินหน้าฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน รวมกว่า 3 ล้านโดสแล้ว ขึ้นเป็นอันดับต้น ๆ ของอาเซียน ด้านพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ประกาศให้การ “ฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ” และช่วงตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมารัฐบาลได้เร่งระดมฉีดวัคซีนให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุข อสม. ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและมีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีโรคประจำตัว ตามจำนวนวัคซีนที่เข้ามา ทั้งนี้จากรายงานล่าสุดเมื่อ 25 พฤษภาคม 2564 ไทยมีจำนวนการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วถึง 3,024,313 โดส เป็นอันดับ 5 ของอาเซียนและจะเลื่อนขึ้นเป็นอันดับ 2 ในอาเซียน ด้วยการระดมฉีดวัคซีนอีก 6-8 ล้านโดสภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนผ่านระบบหมอพร้อมแล้วกว่า 7,931,765 คน

ที่มา : https://www.businesstoday.co/covid-19/26/05/2021/70356/

พิษโควิดฉุดอสังหาฯ เขตอีอีซี ค้างสต๊อก 2.2 แสนล้าน

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เผย แนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) 3 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ในปี 64 มีทิศทางชะลอตัวลงชัดเจนจากผลกระทบการแพร่ระบาดไวรัสโควิด ทำให้ยอดขายหดตัวลงทั้งจำนวนและมูลค่า จนคาดว่าจะมีที่อยู่อาศัยเหลือค้างสต๊อกมากถึง 68,170 หน่วย มูลค่า 2.21 แสนล้านบาท

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/economic/845527

เวียดนามโดนตัดสิทธิ GSP ของข้อตกลงการค้าเสรีไทย-สหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย

กระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ของเวียดนาม (Vietrade) เมื่อวันที่ 12 ต.ค. เผยว่าเวียดนามถูกลบออกจากรายชื่อประเทศที่มีสิทธิทางด้านภาษีจากข้อตกลงการค้าเสรีไทย-สหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย (EAEU) ภายใต้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) การเคลื่อนไหวดังกล่าว มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อผู้ส่งออกเวียดนามไปยังกลุ่มประเทศ EAEU อาทิ รัสเซีย เบลารุส คาซัคสถาน อาร์เมเนียและคีร์กีซสถาน โดยเฉพาะรัสเซีย เนื่องจากเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ เวียดนามเป็น 1 ใน 75 ประเทศกำลังพัฒนาที่ถูกลบออกจากรายชื่อ ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่ยอดการค้าระหว่างเวียดนามกับประเทศ EAEU เพิ่มขึ้น 6.5% เป็นมูลค่า 5.2 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้ว

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-removed-from-list-of-beneficiaries-of-eaeu-tariff-preferences-under-gsp/201933.vnp

เศรษฐกิจไทยยังหดตัวต่อเนื่องไตรมาสที่ 5

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/64 หดตัวที่ -2.6% น้อยกว่าที่คาด -3.3% ผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก โดยการส่งออกเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แต่การที่ไม่สามารถควบคุมการระบาดระลอกใหม่ได้ยังคงส่งผลกระทบต่อการบริโภคและภาคการท่องเที่ยวอย่างมาก ทั้งนี้ได้ประมาณการเศรษฐกิจปี 64 ที่ 1.8% จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ท่ามกลางอัตราการฉีดวัคซีนที่ยังอยู่ในระดับต่ำซึ่งกระทบต่อความเชื่อมั่นและพฤติกรรมของผู้บริโภค ทั้งนี้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกส่งผลให้ราคาสินค้าพุ่งสูง ทำให้เงินเฟ้อไทยเพิ่มงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งจะทำให้ค่าครองชีพของครัวเรือนเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ที่มา: https://www.posttoday.com/finance-stock/news/653682

ปลัดกระทรวงการต่างประเทศเน้นย้ำการขยายการค้าการลงทุน และความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว

นายธานี ทองภักดี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ หารือกับนายอันดรีย์ เบชตา (Andrii Beshta) เอกอัครราชทูตยูเครนประจำประเทศไทย ที่เข้าเยี่ยมคารวะในโอกาสพ้นจากหน้าที่ โดยปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้แสดงความขอบคุณเอกอัครราชทูตยูเครนฯ ที่ปฏิบัติหน้าที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-ยูเครนอย่างแข็งขันตลอด 5 ปีที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-ยูเครน อย่างรอบด้าน โดยเฉพาะด้านการค้า การลงทุน เกษตรกรรม การท่องเที่ยว และวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งเห็นพ้องว่า หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง การท่องเที่ยวและการค้าจะเป็นประเด็นความร่วมมือสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันผลักดัน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดการหารือและแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูง เพื่อช่วยขับเคลื่อนความร่วมมือที่มีศักยภาพให้มีพลวัตยิ่งขึ้น ในโอกาสนี้ ฝ่ายไทยและฝ่ายยูเครนได้หารือความร่วมมือในประเด็นภูมิภาคและพหุภาคีที่สนใจร่วมกันด้วย อาทิ ความร่วมมือระหว่างอาเซียนและยูเครน และการขอเสียงสนับสนุนผู้สมัครของตนในกรอบสหประชาชาติ

ที่มา : https://www.mfa.go.th/th/content/thai-ukraine?cate=5d5bcb4e15e39c306000683d

ผลผลิตทุเรียนตกต่ำฉุดราคาปีนี้พุ่ง

ผู้ค้าทุเรียนในอำเภอมะริด จังหวัดตะนาวศรี ได้ผลกำไรงาม ราคาพุ่ง จากผลผลิตที่ตกต่ำ ราคาทุเรียนลูกใหญ่พุ่งสูงถึง 5,000-6,000 จัตจาก 3,000 บาท ส่วนลูกเล็กพุ่งสูงถึง 1,000-1,500 บาท เมื่อปีที่แล้วความต้องการลดลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากการระบาดของ COVID-19 นอกจากนี้ไทยกำลังซื้อเมล็ดทุเรียนในราคา 6,000 จัตต่อ viss (1 viss เท่ากับ 1.6 กก.) โดยทุเรียนจากเมืองคยุนซู มะริด และตานินทะยี มีการแข่งขันสูงมากในตลาดในประเทศ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/low-supply-hikes-up-durian-price-this-year/#article-title

จ่อเชือดขายสินค้าออนไลน์ไม่มี มอก. หลังได้รับข้อร้องเรียนจากผู้บริโภค

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม สั่งการให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) .ให้ตรวจควบคุมการจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์อย่างเข้มงวด บนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันช็อปปิ้งออนไลน์ ซึ่งจากการร้องเรียนพบว่าแอปพลิเคชัน Shopee มีการจำหน่ายเครื่องหรี่ไฟ (Dimmer) หรืออุปกรณ์ที่ช่วยปรับเปลี่ยนความสว่างของหลอดไฟต่างๆ รุ่น Suntec STD-1600 โดยไม่แสดงเครื่องหมาย มอก. สมอ.จึงได้แจ้งให้บริษัทลบข้อความที่มีการโพสต์ออกทันที พร้อมทั้งให้ส่งภาพถ่ายฉลากสินค้าและแสดงหลักฐานแหล่งที่มาภายใน 15 วัน หากพบว่าไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรฐาน มอก.1955-2551 จะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้จำหน่ายทันที.

ที่มา: https://www.thairath.co.th/business/economics/2093870

การยกเว้นภาษีหัก ณ ที่จ่ายส่งผลราคาข้าวโพดเมียนมาตกฮวบ

Myanmar Corn Industrial Association เผย ไทยไฟเขียวนำเข้าข้าวโพดปลอดภาษี (พร้อมยื่น Form D) ผ่านด่านแม่สอด ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ถึง 31  และสถานะการยกเว้นภาษีหัก ณ ที่จ่ายสำหรับการส่งออกข้าวโพดได้สิ้นสุดไปตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมาส่งผลให้ราคาข้าวโพดตกต่ำลง ทั้งนี้เมียนมาตั้งเป้าส่งออกข้าวโพดไปไทย 1 ล้านตันในปีนี้ จนถึงขณะนี้มีการส่งออกไปแล้วประมาณ 600,000 ตัน ในปีประมาณ 62-63 มีการส่งออกข้าวโพด 2.2 ล้านตัน มูลค่าประมาณ 360 ล้านดอลลาร์ ซึ่งพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดส่วนใหญ่อยู่ในรัฐชาน , คะฉิ่น, กะเหรี่ยง, มัณฑะเลย์, ซะไกง์ และมะกเว ผลผลิตข้าวโพดในประเทศอยู่ที่ประมาณ 2.5-3 ล้านตันต่อปี –

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/revocation-of-withholding-tax-exemption-on-corn-exports-causes-price-downtrend/#article-title

ไทยสนับสนุนสปป.ลาว ในการรับมือการแพร่ระบาดโควิด -19

สถานเอกอัครราชทูตสปป.ลาวได้มอบเงินสดและวัสดุมูลค่ากว่า 16 ล้านบาทให้กับรัฐบาลลาวเพื่อสนับสนุนความพยายามในการต่อสู้กับการระบาดของโรคโควิด -19 โดยเงินทุนและวัสดุอุปกรณืดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือจากประเทศไทย รัฐบาลไทยบริจาคเงินพร้อมเวชภัณฑ์รวมมูลค่ากว่า 12.8 ล้านบาท (4.1 พันล้านกีบ) โดยประกอบด้วยเงินบริจาค 2 ล้านบาท เตียงผู้ป่วย 180 เตียง หน้ากากอนามัย 50,000 ชิ้น อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) 2,370 ชิ้น เครื่องกระตุ้นหัวใจ, เครื่องตรวจสอบผู้ป่วย, เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรด, เครื่องควบคุมออกซิเจนและเครื่องวัดออกซิเจนแบบพัลส์ ทั้งนี้จะยังมีการส่งมอบอีกครั้งในสิ้นเดือนนี้มูลค่ากว่า 8.5 ล้านบาท ถึงแม้สถานการณ์แพร่ระบาดระลอกใหม่ในสปป.ลาวจะรุนแรงเกินการควบคุมของสาธารณสุขสปป.ลาว แต่กระนั้นสปป.ลาวได้รับความช่วยเหลือที่ดีจากพันธมิตรที่สำคัญอย่างจีนและล่าสุดไทย ซึ่งจะทำให้สปป.ลาวก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ด้วยการสนับสนุนจากพันธมิตรในด้านสาธารณสุขตลอดการแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในการรับมือวิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Thailand_88.php

‘ไทย’ ท็อป 3 อีคอมเมิร์ซอาเซียน

ในการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ อังค์ถัด (UNCTAD) ได้ประกาศผลการจัดอันดับ B2C หรือ Business-to-Customer e-Commerce ประจำปี 2563 ซึ่งเป็นการวัดความพร้อมทางเศรษฐกิจเพื่อตอบโจทย์การค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Commerce จาก 152 ประเทศทั่วโลก โดยประเทศที่ได้รับการจัดอันดับให้มีความพร้อมสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง คือ สวิตเซอร์แลนด์ ขณะที่ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่ 42 ติดท็อป 10 ของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา และเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์และมาเลเซีย จากการจัดอันดับดังกล่าว พบว่า ประเทศไทยโดดเด่นในด้านความเชื่อมั่นการขนส่งไปรษณีย์ (Postal Reliability Index) โดยได้คะแนนสูงถึง 97 คะแนน เท่ากับคะแนนของสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมกันนี้ ประเทศไทยยังโดดเด่นในด้านจำนวนการเปิดบัญชีธนาคาร หรือมีบัญชีธุรกรรมทางการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญพื้นฐานของการเติบโตของอีคอมเมิร์ซด้วย ความสำเร็จในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งในประเด็นด้านนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล กฎระเบียบและระบบต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้กับผู้ประกอบการ

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/935012