เมียนมานำเข้าปูนซีเมนต์ผ่านชายแดนทะลุ 4,200 ตัน

เดือนกันยายน 2565 ที่ผ่านมา เมียนมานำเข้าปูนซีเมนต์จากไทยผ่านชายแดนกว่า 4,200 ตัน มูลค่า 0.338 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และนำเข้าจากมาเลเซียทางทะเลจำนวน 130 ตัน มูลค่า 0.024 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งในเดือนสิงหาคม 2565 มีการนำเข้าปูนซีเมนต์ทั้งหมดรวม 2,800 ตัน มูลค่า 0.272 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นการนำเข้าจากไทย  2,600 ตัน, มาเลเซีย 130 ตัน, จีน 120 ตัน และฝรั่งเศส  2 ตัน ณ ปัจจุบัน ราคาปูนซีเมนต์ภายในประเทศยังอยู่ในสภาวะทรงตัว โดยราคาปูนตรา Two Rhinoceros (Red) อยู่ที่ 9,600 จัตต่อกระสอบ, ปูนตราช้างของไทยอยู่ที่ 14,500 จัตต่อกระสอบ และส่วนปูนตรา Rhino (blue) อยู่ที่  9,300 จัตต่อกระสอบ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/over-4200-tonnes-of-cement-worth-us0-338-million-imported-via-border-trade/

ไทยอนุญาตให้ชาวเมียนมา พำนักได้นานถึง 45 วันโดยไม่ต้องขอวีซ่า

รัฐบาลไทยขยายระยะเวลาปลอดวีซ่าสำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศเป็น 45 วัน จาก 30 วัน เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม  2565 เป็นต้นไป ซึ่งชาวเมียนมาก็อยู่ในรายชื่อด้วยเช่นกัน ปัจจุบันรัฐบาลไทยอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่าสูงสุด 30 วัน ขณะที่ชาวเมียนมาพำนักอยู่ได้เพียง 14 วัน ทั้งนี้ประกาศดังกล่าวออกมาเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2565  โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา แต่สถานเอกอัครราชทูตไทยในเมียนมายังไม่ได้มีประกาศใดๆ ออกมา

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/thailand-grants-myanmar-citizens-45-day-visa-free-stay/#article-title

2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เมียนมานำเข้าปุ๋ยไปแล้วกว่า 10,000 ตัน มูลค่า 6.491 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ

สัปดาห์ที่ 2 และ 3 ของเดือนกันยายน 2565 เมียนมาร์นำเข้าปุ๋ยกว่า 10,000 ตัน มูลค่า 6.491 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านทางทะเล โดยนำเข้าปุ๋ยจากจีนประมาณ 6,000 ตัน จากเวียดนาม 2,100 ตัน จากไทย 1,000 ตัน และจากประเทศอื่น ๆ อีก 900 ตัน อย่างไรก็ตาม การนำเข้าปุ๋ยลดลงจาก 13,000 ตันเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยราคาปุ๋ยภายในประเทศ ในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนกันยายน จะเคลื่อนไหวระหว่าง 80,000-163,000 จัตต่อกระสอบ (50 กิโลกรัม) ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ส่วนสัปดาห์ที่ 3 ราคาจะอยู่ที่ 78,000 ถึง 168,000 จัตต่อกระสอบ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-imports-over-10000-tonnes-of-fertilizer-worth-us6-491-mln-by-sea-in-past-two-weeks/#article-title

วันที่ 23 ก.ย. 65 ของปีงบ 65-66 การส่งออกของเมียนมามากกว่าการนำเข้า

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา เผย ระหว่างวันที่ 1 เมษายนถึง 23 กันยายน 2565 ของปีงบประมาณ 2565-2566 มูลค่าการส่งออกสินค้าของเมียนมาสูงกว่าการนำเข้า เป็นการส่งออก 8,159.057 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนการนำเข้าออยู่ที่ 8,159.033 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2564-2565 พบว่า การส่งออกเพิ่มขึ้น 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น 1,550 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ สินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แร่ธาตุ ผลิตภัณฑ์จากป่า และสินค้าอุตสาหกรรมสำเร็จรูป ส่วนการนำเข้าจะเป็น สินค้าทุน วัตถุดิบอุตสาหกรรม และสินค้าอุปโภคบริโภค  ปัจจุบัน กระทรวงพาณิชย์พยายามลดการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยและกระตุ้นการส่งออก โดยเน้นนำเข้าสินค้าจำเป็น เช่น  วัสดุก่อสร้าง สินค้าทุน วัสดุทางการแพทย์ เป็นต้น

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-goods-exports-surpass-larger-than-imports-as-of-23-sept/#article-title

‘เชียงราย’จับมือ‘แขวงบ่อแก้ว’ เปิดจุดผ่อนปรนบูมการค้าชายแดน

นายภาสกร บุญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดนไทย-ลาว จังหวัดเชียงราย (วาระพิเศษ) และเห็นชอบเรื่องการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนเป็นจำนวนทั้งสิ้น 7 จุด ในพื้นที่ 4 อำเภอชายแดนไทย-ลาว คืออำเภอเชียงแสน, เชียงของ, เวียงแก่น และอำเภอเทิง ทั้งนี้ การประชุมร่วมระหว่างจังหวัดเชียงรายกับแขวงบ่อแก้ว ณ ห้องประชุม​ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพ​ไทย-ลาว แห่งที่ 4 อำเภอเชียงของ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2565 จังหวัดเชียงรายเสนอต่อที่ประชุมว่า มีความพร้อมที่จะเปิดจุดผ่อนปรนการค้าในพื้นที่จังหวัดเชียงรายกับแขวงบ่อแก้วทั้งหมดทั้ง 7 จุด แต่ทางแขวงบ่อแก้วได้แจ้งว่า ยังไม่มีความพร้อมในหลายจุด เบื้องต้นจึงขอเปิดแค่ 3 จุด

อย่างไรก็ตาม ส่วนความคืบหน้า เรื่องการเปิดจุดผ่านแดนไทย-เมียนมา พบว่ารัฐบาลกลางของเมียนมา ยังไม่อนุญาตให้เปิดจุดผ่านแดนถาวรและจุดผ่อนปรนทางการค้าเพิ่มเติม

ที่มา : https://www.thansettakij.com/business/trade-agriculture/542041

ประชากรเมียนมากว่า 37.1 ล้านคน ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว

กระทรวงสาธารณสุขเมียนมาเปิดเผยว่า ปัจจุบันประชาชนเมียนมาได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วกว่า 37.1 ล้านคน ประกอบไปด้วยกลุ่นผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป มากกว่า 30.5 ล้านคน และเป็นกลุ่มผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี อีก 6.6 ล้านคน โดยกระทรวงสาธารณสุขเมียนมายืนยันกรณีมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ ณ วันพุธที่ผ่านมา (28 ก.ย.) จำนวน 381 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสมจำนวน 622,423 คน ในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในประเทศพุ่งถึง 19,457 คน ซึ่งจำนวนผู้ป่วยที่หายจากโรคโควิด-19 ในประเทศมีทั้งหมด 597,671 คน

ที่มา : https://english.news.cn/asiapacific/20220928/a162d0ad44df4a8aa742c973d2f570a4/c.html

ถั่วลิสงเมียนมาล้นตลาด กดราคา น้ำมันถั่วลิสงลดลงเหลือ 11,000 จัตต่อ viss

ผู้ค้าถั่วตลาดมัณฑะเลย์ เปิดเผยว่า ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ราคาของน้ำมันถั่วลิสงลดลงเหลือ 11,000 วอนต่อครั้ง เนื่องจากผลผลิตถั่วลิสงสดออกมาจำนวนมากในตลาดมัณฑะเลย์ ซึ่งเมื่อเดือนกันยายน 2565 ที่ผ่านมา น้ำมันถั่วลิสงราคาพุ่งไปถึง 16,000 จัตต่อ viss (viss เท่ากับ 1.6 กิโลกรัม) ส่วนราคาถั่วลิสงแตะ 6,500-7,500 จัตต่อ viss แต่เมื่อผลผลิตออกมาล้นตลาดส่งผลให้ราคาลดลงเหลือ 5,300-5,800 จัตต่อ viss นอกจากนี้ การล็อกดาวน์ของชายแดนรุ่ยลี่ทำให้การค้าขายหยุดชะงัก ราคาจึงมีแนวโน้มลดลง เป็นผลดีต่อผู้บริโภค และถั่วลิสงจากภาคกลางและรัฐฉานกำลังจะถูกเก็บเกี่ยว ด้วยเหตุนี้ ราคาน้ำมันถั่วลิสงจึงไม่น่าจะปรับตัวสูงขึ้น โดยถั่วลิสงส่วนใหญ่ปลูกในภูมิภาคมัณฑะเลย์ ซะไกง์ มะกเว และพะโค

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/abundant-supply-of-peanut-drives-oil-price-down-to-k11000-per-viss/#article-title

ราคาข้าวหักเมียนมา พุ่งขึ้น 45,000 จัตต่อกระสอบ

รายงานของศูนย์ค้าส่งข้าว (วดาน) เผย ราคาข้าวหักเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2565  อยู่ที่ 32,000 จัตต่อกระสอบ (108 ปอนด์) แต่ราคา ณ วันที่ 26 กันยายน 2565 พุ่งขึ้นเป็น 45,000 จัตต่อกระสอบ เป็นผลมาจากความต้องการจากต่างประเทศเริ่มมีมากขึ้น เมื่อไม่นานมานี้พบว่ามีข้าวหักประมาณ 20,000 กระสอบถูกส่งไปยังจีนผ่านชายแดนมูเซ ซึ่งราคาในปัจจุบันอยู่ที่ 128 หยวนต่อกระสอบ (50 กิโลกรัม) ซึ่งการส่งออกข้าวสร้างกำไรได้เป็นอย่างดีเพราะค่าเงินจัตที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินหยวน ดังนั้น ราคาข้าวหักจึงสูงกว่าราคาข้าวเกรดต่ำอื่นๆ ตามความต้องการจากต่างประเทศที่มีอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/broken-rice-price-soars-to-k45000-per-bag/#article-title

อุตสาหกรรมอะโวคาโดของเมียนมาเตรียมส่งออกไปดูไบ สิงคโปร์

นาย U Myo Nyunt รองประธานสมาคมผู้ผลิตและส่งออกอะโวคาโดของเมียนมา เผย กำลังเตรียมการส่งออกอะโวคาโดพันธุ์แฮส (Hass) ซึ่งจะถูกเก็บเกี่ยวได้ในเดือนธันวาคม ตามคำสั่งซื้อของดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสิงคโปร์ ซึ่งอะโวคาโดเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของเมียนมา  นอกจากนี้ยังหาตลาดใหม่ๆ เพื่อการส่งออก

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmars-avocado-industry-gearing-up-for-exports-to-dubai-singapore/#article-title

5 เดือน ของปีงบ 65-66 MIC ไฟเขียวให้ต่างชาติมาลงทุน 35 โครงการ เม็ดเงินทะลุ 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา (เดือนเมษายน-เดือนสิงหาคม 2565) ของปีงบประมาณปัจจุบัน 2565-2566 สำนักงานคณะกรรมการการลงทุนแห่งเมียนมา (MIC) ให้ไฟเขียวโครงการต่างประเทศ 35 โครงการจาก 6 ประเทศ มีเม็ดเงินลงทุนกว่า 1.23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  เป็นการลงทุนในภาคเกษตรกรรม การผลิต พลังงาน อสังหาริมทรัพย์ และบริการตามลำดับ โดยมีสิงคโปร์เป็นอันดับหนึ่งที่เข้ามาลงทุนในเมียนมา มีมูลค่าการลงทุน 1.089 พันล้านดอลลาร์ รองลงมา คือ ฮ่องกง 70.239 ล้านดอลลาร์จากโครงการ 7 โครงการ ส่วนจีนอยู่ในอันดับที่สาม 56.7 ล้านดอลลาร์จาก 15 โครงการ ที่ผ่านมาเมียนมาดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศจำนวน 647 ล้านดอลลาร์ในช่วงงบประมาณย่อยปี 2564-2565 (เดือนตุลาคม 2564 ถึง เดือนมีนาคม 2565)

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/mic-nods-35-foreign-projects-worth-1-2-bln-in-5-months/